"...ทางสำนักข่าวไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะสอบสวน แล้วเขาบอกว่าข้อมูลมาจากอะไรต่างๆ ผมก็ต้องบอกว่าแม้แต่ข้อมูลในส่วนของผมก็ยังผิด อาทิ พูดถึงค่าทนายความของผมที่บอกว่าค้างอยู่ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (280,786,500 บาท) ซึ่งมันผิดอยู่แล้ว หรือบอกว่ามีการจ่ายเงินค่าดำเนินการมาแล้ว 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (561,600,000 บาท) มันก็ผิดอีก คือ ค่าใช้จ่าย 500 กว่าล้านบาทอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายทั้งคดี แต่ไม่ใช่ในส่วนของผม แต่ในข่าวของเขาบอกว่าผมเป็นคนรับเงินนี้ ซึ่งมันผิดอยู่แล้ว..."
...................
บริษัทสำนักงานกฎหมายอันนานนท์ จำกัด เป็นอีกหนึ่งรายชื่อ ที่เว็บไซต์ LAW360 ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข่าวและวิเคราะห์ด้านกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางการจ่ายเงินสินบนไปยังผู้พิพากษาของไทยเพื่อพลิกในคดีภาษีรถยนต์พรีอุสมูลค่ากว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (10,958,500,000 บาท) ตามผลการสอบสวนภายในของ บริษัท โตโยต้า คอร์ปฯ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ที่แจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) รวมถึงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) เมื่อเดือน เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.นายทรงพล อันนานนท์ กรรมการผู้บริหารบริษัทสำนักงานกฎหมายอันนานนท์ จำกัด ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับเว็บไซต์ LAW360 บุคคลชื่อแฟรงก์ (Frank G. Runyeon) ผู้เขียน จากกรณีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวไปแล้ว
ขณะที่ นายทรงพล ให้สัมภาษณ์ยืนยันสื่อมวลชนว่า สำนักงานกฎหมายอันนานนท์ ไม่ได้มีส่วนในการกระทำความผิดแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวมีความผิดพลาดอย่างมาก และได้หยุดจากการเป็นทนายความของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562 ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่ศาลชั้นต้นจะอ่านคำสั่งของศาลฎีกาเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2564 อนุญาตให้รับฎีกาของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ไว้พิจารณา
ดังนั้น สำนักงานกฎหมายฯ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในคดีตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562 เป็นต้นมา และไม่มีส่วนเรื่องของสินบนอย่างแน่นอน
(อ่านประกอบ:สนง.กม.อันนานนท์ แจ้งเอาผิดเว็บ LAW360-เจ้าของบทความ ยันไม่มีเอี่ยวเรื่องสินบนโตโยต้า)
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว นายทรงพล ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม
มีรายละเอียดสำคัญ ดังต่อไปนี้
@ ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการสอบสวนภายในเกิดขึ้นจริงหรือไม่
นายทรงพล: "เรื่องนี้เป็นไปตามกฎหมายภายในของเขาเท่าที่ผมทราบมา และก็มีการสอบสวนภายในของโตโยต้าด้วย"
@ ที่ผ่านมามีรายงานการสอบสวนข้อมูลของบริษัทวิลเมอร์เฮลด้วย อยากทราบว่า ได้เคยคุยกับบริษัทฯ ที่เข้ามาสอบสวนภายในของโตโยต้าบ้างหรือไม่
นายทรงพล: "เขาไม่ได้แจ้งอะไรผม แต่ที่ผ่านมาผมเคยไปที่โตโยต้าที่ญี่ปุ่น เคยไปให้ข้อมูลที่นั่น แต่ก็ไม่ทราบข้อมูลว่านั่นคือการสอบสวนภายในอะไรอย่างไรหรือไม่ คือรายละเอียดของการประชุมนั้นเป็นในเรื่องของคดีตอนที่ผมจะยุติบทบาท และจะส่งต่อข้อมูล ก็เลยไปประชุมที่ญี่ปุ่น และมีการสอบถามรายละเอียดก็เลยให้ข้อมูลเท่าที่เกี่ยวข้องไป แต่ก็ไม่ทราบว่านั่นจะเป็นการสอบสวนตามขั้นตอนของทางสหรัฐฯ หรือของวิลเมอร์เฮลอย่างไรก็ไม่ทราบได้"
ที่ทำการบริษัทวิลเมอร์เฮล (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.leaders-in-law.com/expansion/wilmerhale-eyes-europe-expansion-following-freshfields/)
@ มีบริษัทแห่งไหนดำเนินการสอบสวนภายในอีกหรือไม่
นายทรงพล: "ในที่ประชุมมีบุคคลค่อนข้างจะหลายคน ผมก็ไม่ทราบว่าใครเป็นใครอย่างไรบ้าง แต่เราก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่"
@บทความในเว็บไซต์ LAW360 ส่วนหนึ่งเหมือนจะบอกว่าเขาเอาข้อมูลมาจากกระบวนการสอบสวนที่สหรัฐอเมริกาในเรื่องนี้
นายทรงพล: "ผมไม่ทราบในรายละเอียดมากนัก แต่ตรงนี้ผมขอคาดเดาก่อน ก็ดูเหมือนว่าจะมีการสอบสวนกันภายใน แล้วทางโตโยต้า สหรัฐอเมริกา ก็รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว และในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ทางโตโยต้าสหรัฐฯ ก็ได้รายงานข้อมูลผู้ถือหุ้นเมื่อตอน มี.ค.ที่ผ่านมานี้ ดังนั้นข้อมูลที่เว็บไซต์ LAW360 เอามาลงก็อาจจะเป็นข้อมูลที่โตโยต้าสหรัฐฯ ได้ไปรายงานข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมานี้เอง"
"ส่วนที่ผมมาแจ้งความในวันนี้นั้นเพราะว่าบทความนั้นมีความไม่จริงในหลายจุด อาทิ ผมไม่เกี่ยวข้องกับคดีแล้ว ไม่ได้เป็นไปตามที่บทความในเว็บไซต์นั้นได้อ้างไว้ เพราะว่าขั้นตอนมันยังไม่ถึงศาลฎีกาเลย แต่ตอนนี้ผมเห็นทางสำนักงานศาลยุติธรรมไทยก็ได้มีการประสานข้อมูลไปแล้ว ก็น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"คือคำที่บอกว่าเอาข้อมูลมาจากหน่วยงานรัฐนั้น มันก็เป็นเหมือนลักษณะของคำให้การ หมายถึงว่าเป็นถ้อยคำอะไร แต่ทั้งนี้มันก็ต้องไปดูในเรื่องของความถูกต้องของข้อมูลประกอบกันด้วย เพราะอย่างตอนที่ผมไปประเทศญี่ปุ่น บางทีเขาก็เข้าใจผิดในหลายๆ จุด ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของภาษา อาจจะเป็นเรื่องวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกัน ในช่วงที่ได้มีการสอบถามข้อมูล"
"ดังนั้น ถ้าจะบอกว่าเอาข้อมูลมาจากทางฝั่งของสหรัฐฯ อันนี้ก็ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วกระบวนการสอบสวน เอกสารส่วนมากนั้นมันจะอยู่ที่ประเทศไทยเสียมากกว่า ดังนั้น จะอ้างอิงว่าข้อมูลมาจากทางฝั่งสหรัฐฯ ผมว่าไม่น่าอ้างอิงได้ เพราะว่ากระบวนการสอบสวน ผมไม่แน่ใจว่าเขามีหรือว่าได้ข้อมูลจากเอกสารหลักฐานอะไร คือ เรื่องนี้นั้นจะต้องดูด้วยเพราะมันมีข้อมูลอยู่ 2 ส่วนก็คือ 1. ข้อมูลที่มาจากเอกสารต่างๆ และ2. มาจากการให้การเป็นถ้อยคำของบุคคลต่างๆ"
สำนักงานกฎหมายอันนานนท์
@ เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีคนพูดว่ามีการให้สินบนเกิดขึ้น มันเลยกลายเป็นข้อมูลต้นทางนำไปสู่การลงบทความในเว็บไซต์ LAW360
นายทรงพล: "ตรงนี้ผมไม่ทราบ แต่ต้องเรียนว่าของผมนั้น เราไปที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือน พ.ย. 2562 เพราะว่าผมออกจากการเป็นทนายในคดีนี้ตอน ธ.ค. 2562 หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรอีกเลย จนกระทั่งมาวันที่ 29 มี.ค. 2564 ที่ทาง LAW360 ได้มีการออกข่าวครั้งแรก ซึ่งวันนั้นก็เป็นวันเดียวกับที่มีข้อมูลว่าทางศาลฎีกาก็ได้รับฎีกาในคดีนี้"
"แต่อย่างที่ผมบอก หลายอย่างที่เขากล่าวอ้างมาในเว็บไซต์นั้นมันเกิดขึ้นในไทย ซึ่งผมว่ามันมีจุดที่ไม่สมเหตุสมผลในเรื่องนี้ อย่างที่บอกว่าจะมีการให้สินบนนั้น คือทางผมไม่เกี่ยวแน่นอน โดยผู้พิพากษาทั้ง 3 ท่านนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ตามความเห็นผมนั้นการที่ใครจะเข้าถึงมันเป็นเรื่องยาก แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย"
"ดังนั้นถ้าจะบอกว่าทางสหรัฐฯมีข้อมูล เขาจะรายงานข้อมูลอะไร มันก็ต้องมีข้อมูลเอกสารในประเทศไทย ประกอบในกรณีนี้ด้วย เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย"
@ หลังจากนี้จะไปที่กระทรวงการต่างประเทศไทย หรือจะไปที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาด้วยหรือไม่
นายทรงพล: "ตรงนี้ก็ต้องแล้วแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผมก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ เพราะอย่างล่าสุดก็เห็นศาลตั้งเป็นคณะขึ้นมาในเรื่องของการตรวจสอบด้วย แต่ตรงนี้ก็สุดแล้วแต่เขา"
@ในรายงานข่าวบนเว็บไซต์ระบุว่าข้อมูลมาจากการตรวจสอบ โดยบริษัท เป็นการตรวจสอบภายใน
นายทรงพล: "งั้นผมก็ต้องพูดแบบนี้ว่าทางสำนักข่าวไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะสอบสวน แล้วเขาบอกว่าข้อมูลมาจากอะไรต่างๆ ผมก็ต้องบอกว่าแม้แต่ข้อมูลในส่วนของผมก็ยังผิด อาทิ พูดถึงค่าทนายความของผมที่บอกว่าค้างอยู่ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (280,786,500 บาท) ซึ่งมันผิดอยู่แล้ว หรือบอกว่ามีการจ่ายเงินค่าดำเนินการมาแล้ว 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (561,600,000 บาท) มันก็ผิดอีก คือ ค่าใช้จ่าย 500 กว่าล้านบาทอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายทั้งคดี แต่ไม่ใช่ในส่วนของผม แต่ในข่าวของเขาบอกว่าผมเป็นคนรับเงินนี้ ซึ่งมันผิดอยู่แล้ว"
@ อาจจะผิดที่เอกสารบางอย่างหรือไม่ เลยทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา
นายทรงพล: "อันนี้ผมก็ไม่ทราบ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าอย่าไปยึดถือสิ่งที่ลงมาเป็นข่าวอย่างเดียว โดยที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แล้วจะมาบอกว่าเป็นแบบนี้ผมว่ามันค่อนข้างคลาดเคลื่อนเยอะมาก"
"ถ้าจะมาถามผม คือ คดีนี้มันใหญ่ อย่างตอน มี.ค.ที่ออกข่าวมาก็มี 7-8 สำนักงานกฎหมายที่ทางโตโยต้าได้ว่าจ้าง ซึ่งในการทำงานที่ผมสัมผัสมานั้น ก็ไม่ต่ำกว่า 6 สำนักงานกฎหมายแล้ว รวมของผมด้วย และบางแห่งแม้ผมไม่ได้เจอแต่ก็มีการประสานข้อมูลกัน แต่พอมาถึงตอนเดือน พ.ค. กลับมาออกข่าวว่าทางผมเป็นคนรับเงิน 500 กว่าล้านบาท เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าอย่าเพิ่งไปให้น้ำหนักกับบทความตรงนี้นัก ก็เพราะว่ามันมีความคลาดเคลื่อน แต่ส่วนที่ผมไม่ได้สัมผัสอะไร ผมก็ไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้"
"ส่วนเรื่องการจะประสานข้อมูลกันหลังจากนี้นั้น ตรงนี้คงต้องเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันต่อไป"
@ ถ้าไปร้องสถานทูตสหรัฐอเมริกา น่าจะตรงกับปัญหามากกว่า เพราะว่าคนในประเทศเขาทำผิดกฎหมายต่อสำนักกฎหมายอันนานนท์ไม่ใช่หรอ
นายทรงพล: "ที่ผมมาทำการแจ้งความ จริงๆเพราะเขาพาดพิงผมด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งมันก็ผิดกฎหมายใน 2 มาตรา ก็เลยมาแจ้งความดำเนินคดี แต่ในสถานทูตนั้นมันเกี่ยวข้องน่าจะเป็นเรื่องของการขอเอกสารที่เกี่ยวข้องเสียมากกว่า"
@ที่สอบถามว่าให้ไปสถานทูต ก็เพราะว่าเขาอาจจะทำความผิดกฎหมายของที่สหรัฐฯด้วย
นายทรงพล: "ไม่ครับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 5 บอกว่าเป็นการกระทำความผิดอันเกิดขึ้นในประเทศไทย สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ที่ประเทศไทย คือใช่ คนทำอาจจะอยู่ที่สหรัฐฯ เว็บอาจจะอยู่ที่สหรัฐฯ แต่ว่าข้อมูลมันเป็นการลงทางเว็บไซต์ซึ่งใครก็เข้าถึงได้ถ้ามีอินเทอร์เน็ต แล้วประมวลกฎหมายอาญามาตรา 5 กำหนดอยู่แล้วว่าแม้ผู้กระทำความผิดอยู่ในต่างประเทศ แต่ผลจะเกิด หรือคาดว่าจะเกิด หรือเล็งเห็นผลว่าจะเกิดในประเทศไทย ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีในประเทศไทยได้ ผมก็เลยมาแจ้งความในวันนี้ ส่วนของผู้เสียหายคนอื่นๆก็ว่าไปในส่วนของเขา"
@สรุปก็คือสำนักงานกฎหมายอันนานนท์มีส่วนเกี่ยวข้องแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
นายทรงพล: "คำว่าเกี่ยวข้อง ผมก็ต้องบอกว่าเกี่ยวข้องแค่ช่วงเวลาดำเนินคดีจนถึงยุติอย่างเป็นทางการก็คือวันที่ 11 ธ.ค. 2562 ซึ่งก็คือจบชั้นอุทธรณ์ แต่ยังไม่ขึ้นชั้นฎีกา แต่เพิ่งขึ้นชั้นฎีกาเมื่อ 29 มี.ค. 2564 ดังนั้นผมถึงบอกว่าไม่ทราบว่าข้อมูลทางนู้นเขาเอามาจากไหน แต่มันมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ในหลายๆจุด ตามที่เรียนแล้ว และหลังจากวันที่ 11 ธ.ค. 2562 หลังจากผมถอนตัว ทนายคนใหม่ก็ยื่นเรื่องเพื่อขอให้ศาลฎีกาอนุญาต ซึ่งคำสั่งศาลฎีกาออกมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ว่าออกมาแล้วส่งกลับให้ศาลชั้นต้นเป็นคนอ่านให้คู่ความฟัง ศาลชั้นต้นก็อ่านในวันที่ 29 มี.ค. 2564 ดังนั้น คู่ความทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร หรือทางกรมสรรพากรเอง หรือทางโตโยต้าประเทศไทยก็ทราบพร้อมกันว่าจะมีการขึ้นศาลฎีกาในวันที่ 29 มี.ค. 2564"
"จริงๆเรื่องประเด็นที่ผมบอกว่ามันเป็นข้อมูลเท็จ มันเท็จแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องเงิน 500 กว่าล้าน ได้รับไป 200 กว่าล้านนั้น ที่ผ่านมาสำนักข่าวอิศราเองก็มาตรวจสอบงบการเงินของผมแล้ว มันก็แสดงให้เห็นเด่นชัดเลยนะว่าไม่มีรายได้ตรงนี้เข้ามาตามที่เขาว่า"
@ ผู้พิพากษา 3 ราย ที่ปรากฏในข่าวของเว็บไซต์ LAW360 รู้จักหรือไม่
นายทรงพล: "ในส่วนตัวของผม ถามว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวไหม ก็คงไม่รู้จัก อาจจะเคยเจอในวงการกฎหมาย ก็อาจจะเคยเจอ แต่ก็ไม่ได้มีการติดต่อกันแต่อย่างใด อีกทั้งอายุของผมก็ค่อนข้างจะแตกต่างจากผู้พิพากษาทั้ง 3 คนนั้นอยู่พอสมควรด้วย
@แล้วพนักงาน 3 คน ของบริษัทโตโยต้า ประเทศไทย ที่ปรากฏในข่าวของเว็บไซต์ LAW360 เช่นกัน รู้จักหรือไม่
นายทรงพล: "ถ้า 3 คนนั้นของโตโยต้า ผมรู้จักเพราะว่าเป็นฝ่ายกฎหมายภายในของโตโยต้า ที่ผ่านมาผมก็เคยทำคดีให้กับทางโตโยต้ามานานหลายปีแล้ว เพราะฉะนั้น การติดต่อก็อยู่ที่เรื่องนี้ทางโตโยต้านั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ฝ่ายกฎหมายไหนอย่างไร ซึ่งยอมรับว่าเคยมีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับคดีผ่านมา รวมถึงคดีนี้อยู่บ้าง อาทิ ถ้าผมอยากได้เอกสารอะไรที่เกี่ยวข้องกับคดี อย่างหลักฐานการเสียภาษีศุลกากร เขาก็ต้องไปติดต่อ ไปรวบรวมข้อมูลมาให้ผม เพราะอย่างกรณีคดีภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องค่อนข้างเยอะ เวลาผมไปติดต่อ ผมก็ไม่ได้ไปติดต่อทุกแผนก ก็ติดต่อแค่แจ้งผ่านฝ่ายกฎหมาย"
@ ที่ผ่านมานั้น ทางเว็บไซต์ LAW360 ได้มาติดต่ออะไรบ้างหรือไม่
นายทรงพล: "เขาติดต่อมา แต่ข้อมูลที่เขาสอบถามมามันเป็นข้อมูลที่เขาสอบถามได้จากทางโตโยต้าโดยตรงอยู่แล้ว ผมก็บอกว่าให้เขาสอบถามทางโตโยต้า แต่ว่าผมก็ไม่ได้บอกว่าให้ไปสอบถามทางโตโยต้าที่ไหน แค่บอกว่าโตโยต้าเฉยๆ เพราะว่าบางครั้งบางทีใครติดต่อมา แล้วผมจะต้องให้ข้อมูล อย่างเขาที่บอกว่าเป็นผู้สื่อข่าว เขาก็มาถามข้อมูลที่บางอย่างผมต้องได้รับความยินยอมจากทางโตโยต้าก่อน ผมจึงจะสามารถเปิดเผยข้อมูลนั้นได้"
"แต่ว่าเขาไม่ได้ถามผมในเรื่องที่มันตกเป็นข้อกล่าวหาในเว็บที่ปรากฎเป็นข่าวว่าผมเป็นเส้นทางการเงินแต่อย่างใด อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็ไม่มีการกล่าวหามาก่อนเลยว่าผมนั้นเป็นเส้นทางการเงิน และในกระบวนการสอบสวนภายในของโตโยต้าก็ไม่ได้มีการมากล่าวหาว่าผมเป็นเส้นทางการเงินเช่นกัน เพราะว่าถ้าหากมันมีจริง ผมคงต้องทราบข้อมูลนี้ก่อนหน้าที่จะมีข่าวแล้ว จะมีการกล่าวหาว่าผมเป็นเส้นทางการเงินก็มีแค่ทางเว็บไซต์เท่านั้นที่มากล่าวหาผมเป็นรายแรกเท่านั้นเอง"
อ่านประกอบ :
สนง.กม.อันนานนท์ แจ้งเอาผิดเว็บ LAW360-เจ้าของบทความ ยันไม่มีเอี่ยวเรื่องสินบนโตโยต้า
ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม : ทำไม 'โตโยต้าไทย' ไม่ออกมาชี้แจงคดีสินบนภาษีพรีอุส
3 ผู้พิพากษา มอบอำนาจ สนง.ศาล ยธ. แจ้งความ ปอท. เอาผิดคนแพร่ข้อมูลเท็จปมสินบนโตโยต้า
เปิดข้อมูลลับโตโยต้า! สอบสวน บ.ลูกไทย จ่ายสินบน พ.ศาลฎีกาพลิกคดีภาษีหมื่นล.
พลิกปูม! คดีภาษีพรีอุสหมื่นล. ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโตโยต้าแพ้-ยื่นฎีกาต่อแล้ว
ศาลยุติธรรม แจงคดีสินบนโตโยต้า หากมีผู้พิพากษาทุจริตจริงจะลงโทษอย่างเด็ดขาด!
เอ็กซ์คลูซีฟ! เปิดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ 'โตโยต้า’แพ้คดีภาษี’พรีอุส’หมื่นล.ก่อนขอฎีกา
2 พ.ศาลฎีกาปฏิเสธ! เว็บLaw360 อ้างผลสอบเปิดชื่อรับสินบนพลิกคดีภาษีพรีอุสหมื่นล.
เร่งขอข้อมูลสหรัฐฯ! ศาล ยธ.สั่งสอบ สื่อนอกเปิดชื่อผู้พิพากษารับสินบนพลิกคดีภาษีพรีอุส
ไม่เป็นความจริง! สนง.กม.อันนานนท์ ปฏิเสธจ่ายสินบนพลิกคดีภาษีพรีอุสหมื่นล.
ไสลเกษ วัฒนพันธุ์ : 2 ผู้พิพากษาไม่เคยมาหาหรือพูดคุยเรื่องคดีภาษีพรีอุส
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage