เปิดวงประชุมปมสร้างพระใหญ่เขานาคเกิด! ผอ.กองสิ่งแวดล้อม ชี้ยังไม่มีช่องยกเว้น (มีคลิป)

pictarwfswswsws9 2 64

เปิดวงประชุมเคลียร์ปมสร้างพระใหญ่บนยอดเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต กำนันกะรน เห็นด้วยแต่ติงขบวนการรับเงินบริจาคต้องโปร่งใส ด้านปธ.มูลนิธิพุทธมิ่งมงคลศรัทธา 45 ผู้สร้างพระ-ทีมงาน ยันตรวจสอบได้ ส่วนผอ.กองสิ่งแวดล้อม สผ.ชี้ ยังไม่มีช่องให้ยกเว้นประกาศกระทรวงฯ

..........................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2564 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมสำรวจพื้นที่ อันเนื่องมาจาก นายจารุกิตติ์ ธนวุฒิมณฑล ที่ปรึกษามูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคลศรัทธา 45 มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) เพื่อขอให้พิจารณายกเว้นการบังคับใช้ตามประกาศกระทรวงฯในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อก่อสร้างพระพุทธรูปบริเวณเทือกเขานาคเกิด โดยกำหนดลงพื้นที่ประชุมผู้เกี่ยวข้องในวันที่ 9 ก.พ. 2564

ล่าสุด เมื่อเวลา 9.00-11.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ห้องประชุมใต้องค์พระใหญ่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในพื้นป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด มีการประชุมเพื่อรวบรวมข้อมูลเสนออนุกรรมการพิจารณายกเว้นการบังคับใช้ประกาศคุ้มครองสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรักษ์ รัฐมนตรีว่าการ ทส.ประกาศกระทรวง ทส.เพื่อใช้คุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เมื่อ ปี 2560 ที่ผ่านมา โดย มีนายอิสระพันธ์ กาญจนะเลขา ผู้อำนวยการกองสิ่งแวดล้อมชุมชนแลพื้นที่เฉพาะ สำนักงานนโยบายและแผน (สผ.) นายวีระนิตย์ ฐานสุพร ผู้อำนวยการ กลุ่มพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม (สผ.) นายบุญลาภ สุกใส ผู้อำนวยการ สำนักทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 กระบี่ นายสมหมาย เมืองฉิม หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ ภก.2กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตัวแทน ปกครองจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนา นายวินัย ชิดเชียว กำนันตำบลกะรน ,เจ้าอาวาสวัดกะตะ นายสุพร วานิชกุล ประธานมูลนิธิพุทธมิ่งมงคลศรัทธา 45 ผู้สร้างพระและทีมงาน พร้อมกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุม เพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอต่ออนุกรรมการพิจารณา

S 2589236

S 2589241

S 2589244

หลังจากนั้น นายวินัย ชิดเชียว กำนันตำบลกะรน เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับการสร้างพระ แต่จะต้องมีความชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะเรื่องความปลอกภัย หากต้องการแก้ไขก็แก้ไขได้เลย แต่ต้องมีความปลอดภัย ต้องหามาตรการให้พลเมืองโดยทั่วไปเข้าใจว่า 1. ปลอดภัยอย่างไร ต้องมีมาตรการให้เห็น 2. เรื่องความชัดเจนโปร่งใส จะต้องจบ เมื่อสร้างจบแล้วต้องส่งคืนให้กับวัด ส่งคืนให้กับส่วนกลาง ไม่ใช่เขาเอาเงินมาบริจาคให้สร้างพระที่นี่ แต่คุณนำเงินไปให้ที่อื่น มันขัดเจตนาของการให้ของที่นี่

นายวินัย กล่าวต่อว่า ในเรื่องการอ้างสถาบัน ไม่ต้องการให้อ้างเนื่องจากพื้นที่ที่สร้างองค์พระยังไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ต้องทำให้ถูกต้องก่อนในขณะนี้ เอาที่สาธารณะที่ดินป่าไม้ซึ่งพลเมืองใช้ร่วมกันมาใช้เอาศาสนามาอ้างสร้างความเชื่อมั่นศรัทธา

“เพียงแต่ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากำกับดูแลสร้างความชัดเจนตรงนี้เสียที เพราะ สิบแปดปีสิบเก้าปีแล้ว มีคำครหามานาน จบเสียทีได้ไหม การอ้างหน่วยงานโน้นหน่วยงานนี้ โดยเฉพาะการอ้างสถาบัน เพราะสถาบันผมก็รัก ในที่ประชุมยังอ้างสถาบันอ้างเครื่องหมายตราต่างๆ ซึ่งผมได้อัดเสียงไว้ ซึ่งไม่รู้ไม่ทราบ แต่ทุกอย่างที่อ้างต้องถูกต้องชัดเจน ผมก็รักสถานบันของผม ถ้าไม่ชัดเจน รู้ไม่จริง ก็อย่าอ้างถึงกล่าวถึง” นายวินัยระบุ

ขณะที่นายสุพร กล่าวว่า การสร้างพระที่ตนรับช่วงมาตั้งแต่ปี 2545 แต่หลังจากที่สร้างพระองค์นี้ ตนก็ได้เลิกปล่อยดอก (ดอกเบี้ยเงินกู้) ตั้งแต่ปี 2547 แล้ว ส่วนเงินบริจาคมูลนิธิต่างๆ สามารถที่จะตรวจสอบได้ที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต

นายวีระนิตย์ ฐานสุพร ผู้อำนวยการ กลุ่มพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม (สผ) กล่าวว่า จากการฟังข้อมูลมา ยังไม่มีช่องทางให้มีการยกเว้นประกาศคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากนั้นช่วงบ่ายคณะได้เดินทางไปรับฟังข้อมูลสถานที่ก่อสร้างสำนักสงฆ์ดอยเทพนิมิต ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จ.ภูเก็ต เพิ่มเติมด้วย ส่วนความคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป

S 2588867