"...เหตุเกิดเพราะมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการให้สอบสวนใหม่หลายครั้ง หลายช่วงเวลา รวมทั้งร้องเรียนไปยังองค์กรอื่นด้วย ในที่สุดอัยการจึงสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม ปรากฎว่ามีนายตำรวจ 2 นายเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญมาให้การเพิ่มเติมเรื่องความเร็วของรถเฟอรารี่โดยตรวจสอบสภาพของรถคู่กรณีโดยเปรียบเทียบกับคดีอื่น ๆ..."
นายดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐถูกหนุ่มทายาทอภิมหาเศรษฐีระดับโลกขับรถเฟอรารี่ชนตายลากไปเป็นระยะทางยาวแล้วยังถูกกระบวนการยุติธรรมทางอาญาขั้นก่อนศาลวินิจฉัยว่าขับรถมอเตอร์ไซค์โดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ตัวเองตาย ต้องตกเป็นผู้ต้องหาที่ 2 มาตั้งแต่แรกในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว แปลว่าในชั้นต้นพนักงานสอบสวนตั้งประเด็นไว้ว่าเป็นเหตุที่เกิดจากความประมาทร่วมกันของคู่กรณี
แต่ท้ายสุด ในสำนวนสั่งคดีของอัยการ ท่านเห็นว่าเป็นเหตุประมาทของนายดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐฝ่ายเดียว ทายาทอภิมหาเศรษฐีหาประมาทไม่ !
คิดในแง่บวก ก็ยังดีที่ทายาทนายดาบไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้อีก !!
เหตุเกิดเพราะมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการให้สอบสวนใหม่หลายครั้ง หลายช่วงเวลา รวมทั้งร้องเรียนไปยังองค์กรอื่นด้วย ในที่สุดอัยการจึงสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม ปรากฎว่ามีนายตำรวจ 2 นายเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญมาให้การเพิ่มเติมเรื่องความเร็วของรถเฟอรารี่โดยตรวจสอบสภาพของรถคู่กรณีโดยเปรียบเทียบกับคดีอื่น ๆ แล้ว ยืนยันว่ารถเฟอรารี่ขีบมาด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ไม่ใช่ 177 กม./ชม. บวกลบ เหมือนที่พยานผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนายตำรวจเช่นกันเคยให้การไว้ในการสอบสวนครั้งแรก
นอกจากนี้พยานบุคคลใหม่มาให้การในวันที่ 4 ธันวาคม 2562 อีกด้วย
พยานบุคคลใหม่ทั้ง 2 รายเป็น “ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ” จึงมีความสำคัญต่อเนื่องมาจากพยานผู้เชี่ยวชาญใหม่ข้างต้น
เพราะเรื่องความเร็วของรถ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เป็น “ประเด็นสำคัญแห่งคดี” นี้ที่จะทำให้วินิจฉัยได้ว่าใครประมาทหรือประมาทร่วม
พยานทั้งสองบอกว่าขับรถมาด้วยความเร็วราว 60 - 70 กม./ชม. ตามรถมอเตอร์ไซค์
และนายดาบเป็นผู้เปลี่ยนเลนจากเลนที่ 1 ด้านติดฟุตปาธ ไปยังเลนที่ 3 ด้านติดเกาะกลางถนนที่รถเฟอรารี่ขับมาอย่างกระชั้นชิด
อัยการท่านเชื่อพยานผู้เชี่ยวชาญใหม่ และประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุใหม่ เห็นว่าคนขับรถเฟอรารี่ไม่เป็นผู้ขับรถโดยประมาท เพราะขับมาด้วยความเร็วตามกฎหมายเป๊ะ แต่กลับถูกปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด จึงชนไปโดยเหตุสุดวิสัย หาใช่ประมาทไม่ ผู้ประมาทคือนายดาบเคราะห์ร้ายผู้วายชนม์ต่างหาก ส่วนข้อหาขับรถขณะดื่มสุรานั้นสั่งไม่ฟ้องไปนานแล้ว จึงไม่อยู่ในประเด็นแห่งคดีนี้
จึงพลิกกลับคำสั่งฟ้องเดิม สังไม่ฟ้อง
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่โต้แย้ง
ไม่มีรายงานว่า “ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ” ใหม่ทั้ง 2 ราย ที่ขับรถอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยขับรถตามนายดาบ เห็นเหตุการณ์กับตาทั้งหมด ไฉนเพิ่งมาให้การเอาในช่วงนี้ เมื่อ 8 ปีก่อนขณะเกิดเหตุการณ์โด่งดังไปอยู่เสียที่ไหน และประเด็นนี้อัยการท่านสงสัยหรือไม่ และมีเหตุผลใดมีน้ำหนักเพียงพอมาหักล้างข้อสงสัยนั้น
.........
ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบโดยด่วนเป็นเบื้องต้น ท่านเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร อย่างน้อยที่สุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อยู่ในราชการฝ่ายบริหารภายใต้การกำกับดูแลของท่านโดยตรง และท่านเองก็ได้รับปากอย่างองอาจกลางสภาว่าจะเร่งดำเนินการปฏิรูปตำรวจ บัดนี้เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว กรุณาบอกกล่าวต่อประชาชนว่าท่านจะทำอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติกับร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญาที่อยู่ในมือของท่าน จะเอายังไงกันดีครับ
ผู้คนทั้งสังคมอับอาย อึดอัดคับข้อง อารมณ์คุกรุ่น อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
อยากได้มธุรสชโลมใจลดความอึดอัดคับข้องคุกรุ่นจากปากและการกระทำของท่านนายกรัฐมนตรีโดยพลันครับ
บริหารราชการแผ่นดินโดยประมาทความรู้สึกของประชาชนไม่ได้เด็ดขาด
คำนูณ สิทธิสมาน
สมาชิกวุฒิสภา
26 ก.ค. 2563
_________
อธิบายภาพ :
ภาพที่ 1 - 3 : เป็นภาพถ่ายเอกสาร 3 หน้าสุดท้าย (หน้า 73 - 75) ของความเห็นและคำสั่งสำนวนของรองอัยการสูงสุด
ภาพที่ 4 : ภาพถ่ายเอกสารหน้า 73 ขยายเฉพาะส่วนให้เห็นชื่อประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ
ภาพที่ 5 : ภาพถ่ายขยายเอกสารหน้า 74 ดูชัด ๆ อีกทีว่าในมุมมองของอัยการ มอเตอร์ไซค์ประมาทฝ่ายเดียว เฟอรารี่หาได้ประมาทไม่ จึงสั่งไม่ฟ้อง
ที่มา : https://www.facebook.com/kamnoon
เป็นภาพถ่ายเอกสาร 3 หน้าสุดท้าย (หน้า 73 - 75) ของความเห็นและคำสั่งสำนวนของรองอัยการสูงสุด
ภาพถ่ายเอกสารหน้า 73 ขยายเฉพาะส่วนให้เห็นชื่อประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ
ภาพถ่ายขยายเอกสารหน้า 74 ดูชัด ๆ อีกทีว่าในมุมมองของอัยการ มอเตอร์ไซค์ประมาทฝ่ายเดียว เฟอรารี่หาได้ประมาทไม่ จึงสั่งไม่ฟ้อง
อ่านประกอบ :
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ป.ป.ช.สอบอยู่คดี ตร.ไม่สั่งฟ้องทายาทกระทิงแดง ลั่นไม่ปล่อยหมดอายุความแน่
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ผ่านไป 4 ปี ยังไม่สั่งฟ้อง! อัยการ โยนตร.ดองคดีทายาทกระทิงแดง
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล