การตรวจกรองหาผู้ติดเชื้อ จึงควรใช้วิธีการตรวจหาเชื้อ มากกว่าที่จะใช้วิธีการตรวจหาภูมิต้านทาน ขณะนี้มีการนำเอาการตรวจหาภูมิต้านทานไปตรวจตามโรงงาน เพื่อหาการติดเชื้อ จะไม่มีประโยชน์ในการค้นหาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ เพื่อการควบคุมการแพร่กระจายของโรค โดยเฉพาะโรงงานหรือแหล่งชุมชน
ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลประเด็นโควิด 19 กับการตรวจภูมิต้านทาน ดังนี้
1. องค์การอนามัยโลกรายงานว่า การตรวจพบภูมิต้านทานไม่ได้เป็นเครื่องยืนยัน หรือเป็นใบเบิกทาง ถึงการป้องกันโรคที่จะไม่ให้เป็นซ้ำได้อีก
2. ภูมิต้านทานที่ตรวจ มีทั้ง IgG และ IgM กว่าจะขึ้นให้ตรวจพบได้ ต้องใช้เวลา 1-2 อาทิตย์หลังมีอาการ ระบบภูมิต้านทาน ไม่ใช่มีเพียงแค่ antibody ยังมีระบบอื่นร่วมด้วย ตามทฤษฎีของภูมิคุ้มกันวิทยาที่เป็นแบบแอนติบอดี้และอาศัยเซลล์
3. องค์การอนามัยโลกได้ทบทวนการสร้างภูมิคุ้มกัน บางคนสร้างได้สูง บางคนสร้างได้ต่ำ
4. จากการศึกษาในปัจจุบัน 24 เมษายน ยังไม่มีรายงานใดที่จะบอกได้ว่า การมีภูมิต้านทานจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคซ้ำได้อีก
5. การตรวจภูมิต้านทานที่อยู่ในท้องตลาด จำนวนมากเป็น rapid test หรือตรวจได้อย่างรวดเร็ว จะต้องคำนึงถึง ความถูกต้องของการตรวจ มีทั้งผลบวก ปลอม และผล ลบปลอม ซึ่งจะสร้างความสับสนในการแปลผล
6. การตรวจภูมิต้านทาน ไม่สามารถเอามาใช้ในการวินิจฉัย การติดเชื้อของผู้ป่วยในระยะเริ่มแรกได้ ต้อง 1-2 อาทิตย์ไปแล้ว
7. การตรวจได้ผลลบ ไม่ได้บอกว่า ผู้นั้นไม่มีการติดเชื้อ การตรวจหาเชื้อที่หลังโพรงจมูกยังเป็นวิธีมาตรฐาน ผู้ป่วยอาจจะติดเชื้อมีเชื้ออยู่แล้ว แต่ภูมิต้านทานยังไม่ขึ้น ผู้ป่วยสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ในระยะนี้
8. การตรวจได้ผลบวก ก็ยังมีผลบวกปลอม เพราะยังมี coronavirus ตัวอื่นๆ อาจจะให้ผลบวกปลอม
9. ในการระบาด ที่นิวยอร์กพบว่า ครึ่งหนึ่งเป็นแบบไม่มีอาการ และการตรวจเชื้อ จะพบได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการเมื่อติดตามแล้วมีจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มีอาการ และยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ (NEJM; April 24, 2020)
10. การตรวจกรองหาผู้ติดเชื้อ จึงควรใช้วิธีการตรวจหาเชื้อ มากกว่าที่จะใช้วิธีการตรวจหาภูมิต้านทาน ขณะนี้มีการนำเอาการตรวจหาภูมิต้านทานไปตรวจตามโรงงาน เพื่อหาการติดเชื้อ จะไม่มีประโยชน์ในการค้นหาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ เพื่อการควบคุมการแพร่กระจายของโรค โดยเฉพาะโรงงานหรือแหล่งชุมชน
11. การตรวจเกมรุกเพื่อหาผู้ติดเชื้อ และลดการแพร่กระจายเชื้อ จำเป็นจะต้องใช้วิธีตรวจหาเชื้อด้วยกระบวนการ PCR ถ้าบริหารจัดการให้ดี ในอนาคต ค่าตรวจควรจะลดลงได้มากกว่านี้มาก ประเทศไทยสามารถพัฒนาชุดตรวจได้เอง อย่างที่กรมวิทย์ฯ ทำ และ แทนที่จะตรวจ 2 gene ถ้าตรวจเกมรุกเป็นการตรวจกรอง อาจจะตรวจ gene เดียวก็พอ ถ้าให้ผลบวก แล้วจึงค่อยตรวจยืนยันอีกครั้งเหมือนการตรวจไวรัสตัวอื่นๆที่รู้จักดี เราก็ตรวจยีนส์เดียว โควิด 19 ปัจจุบันเป็นโรคที่รู้จักดีแล้วในการตรวจ
12. ข้อมูลรายละเอียด อ่านเพิ่มเติมได้จาก NEJM 24 April และ https://www.who.int/…/immunity-passports-in-the-context-of-…