
'พรชัย ฐีระเวช' อธิบดีสรรพสามิต แจงอิศรากรณีเจ้าหน้าที่สระบุรี มั่วอ้างตาวัย 80 ปี ติดหนี้บังคับคดีรถยนต์คันแรกหลักแสน ตามสืบทรัพย์ถึงบ้านสุดท้ายตรวจสอบเลขบัตรปชช.เป็นคนละคน ระบุแค่เข้าไปตรวจสอบชื่อหลังได้รับข้อมูลมา ดำเนินการตามขั้นตอนมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอยู่ด้วย ยังไม่ตั้งคกก.สอบกระบวนการทำงาน-เยียวยาผลกระทบ
จากกรณีปรากฏข่าวมีผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตจังหวัดสระบุรี ในการเข้าติดตามบังคับคดีชายสูงอายุวัย 80 ปี บ้านหัวถนน หมู่ 6 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โดยอ้างว่าค้างชำระกรณีรถยนต์คันแรกประมาณหลักแสนบาท แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า เป็นคนละคันกันเพียงมีชื่อและสกุลเหมือนกัน

ล่าสุด พรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า กรณีนี้สรรพสามิตพื้นที่สระบุรีกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะว่าเป็นข้อมูลที่ได้รับมาจากหน่วยงานอื่นจึงต้องตรวจสอบก่อน เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปพร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อไปดูว่าชื่อกับตัวตนตรงกันหรือไม่ ยังไม่ได้เป็นกระบวนการใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่?
นายพรชัย ตอบว่า ต้องดูว่าการเข้าไปของเจ้าหน้าที่มีขั้นตอนเป็นอย่างไร เพราะข้อมูลที่ได้มาเป็นชื่อเพียงอย่างเดียว จึงต้องเข้าไปดูว่า คนคนนี้ในพื้นที่เป็นใคร ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนไม่ต้องห่วง
เมื่อถามตอบว่าแล้วหลักเกณฑ์การตรวจสอบของกรมสรรพสามิตเป็นอย่างไร?
นายพรชัย ตอบว่า "ก็เป็นอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เนื่องจากเป็นเรื่องของการสืบทรัพย์ กรณีรถยนต์คันแรกที่ยังไม่ได้ชำระหรือดำเนินการผิดขั้นตอน ทางกรมบังคับคดีซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะต้องดูว่ามีทรัพย์ของผู้ที่จะต้องนำมาชำระเป็นยังไง แล้วจะแจ้งข้อมูลมาให้ทางสรรพสามิต โดยทางเราจะไปดูว่าบุคคลที่แจ้งมาใช่หรือไม่ใช่ ตอนนี้เป็นขั้นตอนการตรวจยืนยัน ยังไม่ได้ทำอะไร ส่วนการลงพื้นที่ก็เข้าไปพร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อไปดูว่าข้อมูลที่ได้มาเป็นชื่อของคนคนนี้ใช่หรือไม่ พอไม่ใช่ก็แจ้งว่าไม่ใช่เท่านั้นเอง ตอนนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วเดี๋ยวจะมีทำข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งออกไป"
เมื่อถามว่าจะมีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหรือไม่ อย่างไร?
นายพรชัย ตอบว่า ต้องรอดูข้อเท็จจริง เพราะไม่ทราบว่ามีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น ต้องรอดูก่อน เพราะว่านี่เป็นขั้นตอนการตรวจสอบ ว่าชื่อตรงกับสิ่งที่แจ้งมาเท่านั้นเอง ยังไม่ได้เป็นเรื่องของการยึดทรัพย์ แค่ตรวจสอบและยืนยันตัวตนตามที่อีกหน่วยงานหนึ่งแจ้งมา
เมื่อถามว่าปกติเวลาที่สรรพสามิตลงพื้นที่ตรวจสอบยืนยันตัวตนต้องมีหมายอนุญาตหรือไม่?
นายพรชัย ตอบว่า อย่างที่ระบุไปก่อนหน้า เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการตรวจสอบชื่อ ก็ได้เข้าไปในพื้นที่พร้อมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยังไม่ได้เป็นเรื่องของการตรวจค้นยึดทรัพย์ ส่วนในการลงพื้นที่ก็มีการทำความเข้าใจกับเจ้าของพื้นที่แล้ว ซึ่งเจ้าของพื้นที่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
“ตอนที่ไปพูดคุย ก็มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนั่งอยู่ด้วย พูดคุยด้วยความสุภาพ เป็นการสอบถาม ซึ่งเขา(เจ้าของพื้นที่)ก็เข้าใจว่ามาสอบถาม ยังไม่ได้ถึงขั้นข่าวลงว่ามีหมายค้นอะไร ไม่ใช่อย่างนั้น เรามีขั้นตอนว่าต้องดูว่าเจ้าของกับทรัพย์ตรงกันหรือไม่ เสร็จแล้วขั้นตอนต่อไปเป็นกระบวนการทางกฎหมาย ต้องมีหนังสือแจ้งลงไปโดยตรง ไม่ได้ทำการเผชิญหน้าอะไรเช่นนั้นทั้งสิ้น นอกจากนี้เรื่องกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ผมได้กำชับไปแล้วว่าต้องให้มีความเป็นธรรม โปร่งใสและชี้แจงกับสาธารณะได้“ นายพรชัยกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา