"...ความท้าทายคือรัฐจะต้องดูแลทุกกลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบ ให้มีชีวิตอยู่รอดได้ ด้วยความเหมาะสมพอเพียง หาก เปิดเมืองยิ่งช้าเท่าไหร่พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นเท่านั้น ปัจจัย 4 ต้องถึงมือ มีที่อยู่มีอาหารทาน มีรายได้ ที่เหมาะสม เมื่อเปิดเมืองแล้วหลายอย่างจะเปลี่ยนไป พฤติกรรมคนจะเข้าสู่โลกใหม่ มาตรฐานใหม่ หรือ New Normal ที่ติดต่อกันน้อยลง ประชาชนระดับล่างในหลายอาชีพ อาจจะหายไป หรือลดจำนวนลง อาชีพใหม่จะเกิดขึ้น การพยากรณ์เหล่านี้ ควรต้องสื่อสารให้กับประชาชนทราบ เพื่อเตรียมรับมือ กับความเปลี่ยนแปลง..."
จากข่าวที่ประเทศจีนพบกลุ่มผู้รับเชื้อไร้อาการ 6,700คน จึงอยากขอจำแนก COVID ที่พบในวันนี้ออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อความเข้าใจ ได้แก่
1.ไม่มีเชื้อCOVID -อาจรับเชื้อได้ทุกเมื่อ
2.รับเชื้อไร้อาการ -กลุ่มเงียบ-แพร่เชื้อให้กลุ่มแรก
3.รับเชื้อมีอาการน้อย ไม่พบแพทย์-แพร่เชื้อให้กลุ่มแรก
---
4.รับเชื้อมีอาการมาก พบแพทย์ ตรวจ -ถูกกักตรวจlab ส่วนหนึ่งเจอ บางส่วนต้องตรวจซ้ำๆจึงเจอ กลุ่มที่ถูกกัก 14 วันจะไม่แพร่เชื้อ กลุ่มที่ตรวจไม่เจอครั้งแรกปล่อยกลับบ้าน จะมีโอกาสแพร่เชื้อ
5.อาการหนัก อยู่ใน รพ.-ได้รับการดูแลและควบคุม - โอกาสแพร่เชื้อน้อย
จะเห็นว่าปัญหาคือกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 ถ้ายังไม่สามารถ ตรวจและนำตัวมาแยกได้ จะแพร่ให้กับกลุ่มหนึ่ง ในชุมชน ได้ตลอดเวลา โดยไม่ สามารถมีรายงานตัวเลขรายวัน แต่มีอยู่จริง รอวัน ผู้ได้รับเชื้อ อาการมากขึ้นเป็นกลุ่ม 4 และกลุ่ม 5 ถึงจะเห็น เหนือ ภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งคนสูงอายุและคนมีโรคประจำตัว จะอาการหนักกว่าคนสุขภาพแข็งแรง อยู่ในกลุ่มนี้และจะเสียชีวิตได้มากกว่า
การเตรียมเปิดเมืองจะทำได้ต่อเมื่อ มั่นใจว่าหมดกลุ่ม 2 แล้ว หรือมีน้อยจนไม่สามารถแพร่ให้เกิดการระบาดซ้ำได้
ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เปิดเมืองได้คือ ความเข้มแข็งของประชาชน ในการป้องกันมิให้โรคลุกลาม ด้วยวินัย และศรัทธา กับความพร้อมของตัวพวกเขาในการที่ จะปรับพฤติกรรมไม่ทำให้เกิดระบาดใหม่ ไม่ใช่ความพร้อมของรัฐบาล เพียงอย่างเดียว อาศัยความพร้อมประชาชนเป็นหลัก
และมิใช่ความสามารถของแพทย์และพยาบาลในการรักษาผู้ป่วย นั่นเป็นปลายเหตุ แล้วครับ
ความท้าทายคือรัฐจะต้องดูแลทุกกลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบ ให้มีชีวิตอยู่รอดได้ ด้วยความเหมาะสมพอเพียง หาก เปิดเมืองยิ่งช้าเท่าไหร่พวกเขาจะยิ่งลำบากมากขึ้นเท่านั้น ปัจจัย 4 ต้องถึงมือ มีที่อยู่มีอาหารทาน มีรายได้ ที่เหมาะสม
เมื่อเปิดเมืองแล้วหลายอย่างจะเปลี่ยนไป พฤติกรรมคนจะเข้าสู่โลกใหม่ มาตรฐานใหม่ หรือ New Normal ที่ติดต่อกันน้อยลง ประชาชนระดับล่างในหลายอาชีพ อาจจะหายไป หรือลดจำนวนลง อาชีพใหม่จะเกิดขึ้น การพยากรณ์เหล่านี้ ควรต้องสื่อสารให้กับประชาชนทราบ เพื่อเตรียมรับมือ กับความเปลี่ยนแปลง
สุดท้ายต้องบอกว่า โรคนี้ไม่ใช่โรคของหมอ แต่เป็นโรคของพฤติกรรมการติดต่อของประชาชน การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ภาคประชาสังคม ต้องเดินคู่ไปกับการแพทย์ ถ้าใช้การแพทย์นำอย่างเดียว สังคมอาจอยู่ลำบาก เราอาจต้องการความปลอดภัย ป่วยน้อยตายน้อย แต่ประชาชนต้องอยู่ได้ และชนะไปด้วยกัน ไม่ใช่โรคหาย แต่ประชาชน ลำบากอยู่ไม่รอด ความสมดุลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ
16.04.2563
ที่มา : https://www.facebook.com/100001524474522/posts/3028992557161530/?d=n