"...เมื่อเศรษฐกิจถูกผลักดันให้เติบโตไปกับการก่อสงคราม การใช้งบประมาณเพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชนก็ยิ่งหดหายไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่ลดลง หนี้สินภาครัฐพุ่งขึ้นไม่รู้จบ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง จักรวรรดิ์ก็จะจบเห่เมื่อไม่มีใครให้กู้อีกแล้ว แล้วประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กับนายทหารที่ทำภารกิจเสี่ยงชีวิตเพื่อ America First ก็จะเป็นผู้รับกรรม ในขณะที่หมาจิ้งจอก Deep State ทั้งหลาย ต่างจะลอยนวลหาวิธีทำกินกันต่อไปกับประชาธิปไตยจอมปลอม..."
ความเป็นนิรันดร์ ไม่มีอยู่จริง จักรวรรดิ์ก็เช่นกัน
จักรวรรดิ์ต่างๆ จะขยายตัวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกล้มโดยผู้อื่น หรือจนกระทั่งล้มละลายเพราะไม่มีเงินโอบอุ้มมือเท้าเพียงพอ
อาณาจักรโรมันในอดีตกาลเป็นจักรวรรดิ์อันยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพล สหรัฐอเมริกาก็เลือกเส้นทางเดียวกันกับโรมัน จน GDP มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในทศวรรษ 1890s
แต่การดำรงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ์ย่อมต้องใช้กองทัพค้ำจุน ต้องคอยสอดส่องตรึงกำลังและสู้รบกับศัตรูตามชายแดนรอบด้าน การขยายอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นก็ต้องใช้กองกำลัง และนั่นหมายถึงการใช้เงินอุดหนุนกองทัพจำนวนมหาศาล
มากเสียจนรายได้จากภาษีไม่พอจ่ายเพื่อดำรงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ์โรมัน
แต่แทนที่จะตัดรายจ่ายลง โรมันกลับเลือกวิธีเพิ่มปริมาณเงินเข้าไปแทน และในสมัยนั้นไม่มีแท่นพิมพ์แบงก์ กระดาษ เงินตราที่โรมันใช้จึงผลิตจากทองคำ 100% หรือ แร่เงิน 100%
แล้วเขาทำไงล่ะ ที่ว่าเพิ่มปริมาณเงินออกมา
ก็เหมือนการเสกแบงก์ออกมาจากแท่นพิมพ์โดยไม่มีทองคำมารองรับในยุคเรานี่แหละ
ทองคำ แร่เงิน ไม่ได้มีมากมาย เป็นทรัพยากรที่มีจำกัด และถึงหาได้เพิ่มก็ไม่ทันและไม่พอจ่าย
โรมันเขาใช้วิธีลดปริมาณทองคำและแร่เงินในการผลิตเหรียญลงทีละน้อยน่ะสิ และเริ่มทดแทนด้วยเหรียญบรอนซ์ ซึ่งคนไม่ยอมรับในคุณค่าของมันเหมือนทองคำกับแร่เงิน นั่นก็คือด้วยจำนวนคงเดิมของเนื้อทองคำกับแร่เงิน โรมันกลับผลิตเหรียญได้มากขึ้น
เหรียญเงิน เหรียญทอง ก็เหลือเนื้อเงิน เนื้อทองคำ เพียง 50% แต่มูลค่าที่ประทับไว้หน้าเหรียญยังเท่าเดิม ต่อมาก็ลดเหลือ 25% แปลว่าเดิมเนื้อเงินหรือเนื้อทองเท่านี้เอาไปทำได้ 1 เหรียญ เดี๋ยวนี้ทำได้ 4 เหรียญแล้ว
และเมื่อโรมันหยุดการผลิตเหรียญแบบนั้นลง ก็พบว่ามูลค่าของเหรียญ denarius นั้น เหลือเพียง 5% ของที่เคยเป็น จากเดิม 1 denarius อาจใช้ซื้อนมได้ 1 แกลลอน ต่อมาต้องใช้ถึง 95 denarius ถึงจะซื้อนมในปริมาณเดียวกันได้
แล้วมันก็ไม่มีค่าอีกเมื่อไม่มีพ่อค้าคนไหนยอมรับชำระค่าสินค้าด้วย denarius จักรวรรดิ์โรมันต้องจ่ายค่าจ้างแรงงานด้วยเสื้อผ้า อาหาร ภาษีถูกเก็บเป็นผักและผลไม้
.
เมื่อไม่มีเงินที่จะสนับสนุนการขยายอาณาจักรกับการป้องกัน จักรวรรดิ์โรมันก็ล่มสลายลง
.
ความจริงอันน่าตกใจก็คือในขณะที่จักรวรรดิ์โรมันใช้เวลาถึง 200 ปี ในการทำลายอำนาจซื้อของเงินลงไป 95% นับตั้งแต่วันที่เพิ่มเงินเข้าไปในระบบด้วยการใช้มวลสารทองคำและแร่เงินเท่าเดิมมาผลิตเหรียญได้มากขึ้น
แต่สหรัฐเก่งกว่ามาก เพราะใช้เวลาเพียง 80 ปีเท่านั้น ที่ทำให้ดอลลาร์เมื่อเทียบกับทองคำ เสื่อมลงไปในอัตรา 95% เท่ากัน
.
กลับมาดูโลกวันนี้ การที่สหรัฐฯ ไปก่อสงครามเพื่อ Deep State ในที่ที่อยู่ไกลจากบ้านเกิด ก็ยิ่งก่อศัตรูให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเศรษฐกิจถูกผลักดันให้เติบโตไปกับการก่อสงคราม การใช้งบประมาณเพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชนก็ยิ่งหดหายไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่ลดลง หนี้สินภาครัฐพุ่งขึ้นไม่รู้จบ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง จักรวรรดิ์ก็จะจบเห่เมื่อไม่มีใครให้กู้อีกแล้ว
แล้วประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กับนายทหารที่ทำภารกิจเสี่ยงชีวิตเพื่อ America First ก็จะเป็นผู้รับกรรม ในขณะที่หมาจิ้งจอก Deep State ทั้งหลาย ต่างจะลอยนวลหาวิธีทำกินกันต่อไปกับประชาธิปไตยจอมปลอม
.
วรวรรณ ธาราภูมิ
28 ก.ย. 2562
อ่านประกอบ :
Deep State รัฐบาลเงา ตอนที่ 1/4 หมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
Deep State ตอนที่ 2/4 รัฐบาลก็แค่ส่วนเสี้ยวเล็กๆ ของระบบ
Deep State รัฐบาลเงา ตอนที่ 3/4 คุณทำสงครามเพื่อใคร
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Pinterest