เนคเทคพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง AI FOR THAI ตอบโจทย์ประเทศ พร้อมเปิดตัว 'สุทธิชัย หยุ่น' นักข่าวเอไอคนเเรกของไทย
โลกอนาคตกำลังก้าวเข้าสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence :AI) ซึ่งจะคอยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเอื้อให้เกิดการนำไปใช้งานได้ง่าย ปัจจุบัน ‘จีน’ ถือเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำเรื่องนี้
เมื่อดูประเทศไทย ภายใต้การนำของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) พบมีการพัฒนาด้าน AI เช่นกัน โดยร่วมมือกับพันธมิตร จนสามารถพัฒนาผลงานสำคัญชิ้นหนึ่ง นั่นคือ AI FOR THAI หรือ WWW.AIFORTHAI.IN.TH ซึ่งมีการเปิดตัวพร้อมนักข่าว AI คนแรกของไทย เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2562 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค เปิดเผยถึงการเติบโตของ AI ในปัจจุบันว่า เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในอนาคต โดย global economic effects of AI by 2030 ระบุ อุตสาหกรรม AI อาจสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ ประมาณ 0.9 ล้านล้าน USD ในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน อาจสร้างผลกระทบ 7 ล้านล้าน USD
ขณะที่การจัดอันดับ Government Artificial Intelligence Readiness Index 2019 ไทยจัดอยู่ในอันดับ 56 ส่วนสิงคโปร์ อันดับ 1 ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย อันดับเหนือกว่าไทย
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค
ผู้อำนวยการเนคเทค วิเคราะห์ให้เห็นภาพถึงสาเหตุไทยอยู่ในอันดับดังกล่าว มีประเด็นหลัก ๆ คือ สังเกตเห็นว่า ประเทศพัฒนา AI ด้วยตนเอง จะพัฒนา AI ได้เท่ากับบริบทประเทศ ดังนั้น ต่างประเทศมีเครื่องมือมากพอสมควร แต่เครื่องมือนั้นยังไม่ถูกนำมาปรับเป็นบริบทของไทย
นอกจากนี้ AI เกิดขึ้นแล้ว จะไม่ทำรายได้ทันที จะต้องมีการสะสมข้อมูล ปรับปรุงตัวระบบ จนกระทั่งพัฒนาเป็นธุรกิจและสามารถตอบสนองภาคธุรกิจได้ อย่างไรก็ตาม งบลงทุนช่วงแรกมีความสำคัญมาก ทั้งนี้ ปัญหาหลักที่ค้นพบและเรียกร้องมาตลอด เมื่อพัฒนา AI แล้ว ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาครัฐ ยังขาดบุคลากรด้านนี้อยู่
“เนคเทคมีบุคลากรด้าน AI เพียง 60 คน ซึ่งไม่เพียงพอในการตอบโจทย์ ฉะนั้นหากเราใช้เวลาอยู่กับการตอบโจทย์เป็นจุด ๆ คิดว่า น่าจะตอบโจทย์ทั้งหมดไม่ได้ในประเทศ”
กระนั้น ถึงแม้จะมีการพัฒนาบุคลากร แต่ไทยไม่มีแพลตฟอร์มของประเทศเอง ข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ในแพลตฟอร์มนั้นแทน ทั้งที่ข้อมูลนั้นคือคุณค่าหรือมูลค่าของธุรกิจ ฉะนั้นเขาจึงเห็นว่า จะมีวิธีการอย่างไรในการให้ข้อมูลอยู่ในมือ ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่สุดในการพัฒนา AI สำหรับภาคธุรกิจ
หน้าเว็บไซต์ https://www.aiforthai.in.th/
จากเหตุผลทั้งหมดข้างต้น ดร.ชัย กล่าวว่า เนคเทคจึงได้พัฒนา AI FOR THAI ขึ้นมา สามารถประมวลผลภาษาไทย วิเคราะห์ไวยากรณ์ จนถึงระบบซับซ้อน อย่างการวิเคราะห์ความคิดเห็น โดยสามารถวิเคราะห์ข้อความในโซเซียลมีเดียได้ว่า ผู้ส่งสารกล่าวถึงเรื่องอะไร มีความรู้สึกบวกหรือลบ หรือเป็นโฆษณาที่ควรมองข้าม อีกทั้งประมวลผลเสียงและสร้างแช็ตบอต
ผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวต่อถึงประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ AI FOR THAI จะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาบุคลากร AI เชิงลึก และตรงกับโจทย์ของไทย หมายความว่า เราจะไม่ใช่ผู้ใช้เครื่องมือเท่านั้น แต่จะดำดิ่งลงไปลึกในระดับ algorithm สามารถแก้ไขได้ทุกจุด นักวิจัย นักพัฒนา สามารถนำมาเปิดบริการทดสอบ สตาร์ทอัพ และเอสเอ็มอี เชื่อมต่อไปสร้างนวัตกรรมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม มี S-Curve ด้าน AI แบบก้าวกระโดด ทำให้ในที่สุดไทยจะลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าและไม่ใช่เป็นเพียงผู้ใช้แบบพื้นฐานต่อไป
จากนั้นมีการเปิดตัวนักข่าว AI คนแรกของประเทศไทย ‘สุทธิชัย หยุ่น’ ซึ่งเป็นดอกผลจากการพัฒนา AI FOR THAI บนเวที สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้เข้าร่วมเป็นอย่างมาก
“ AI คือปัญญาประดิษฐ์แห่งยุคดิจิทัล เพราะตัวผมเองเกิดจากงานวิจัยที่เนคเทคพัฒนามาเหมือนกัน ซึ่งประกาศตัวเป็นนักข่าว AI คนแรกของประเทศไทย” สุทธิชัย AI กล่าว
เขายังบอกว่า AI กำลังจะปฏิวัติโลกของข่าวสารครั้งประวัติศาสตร์ จะนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และน่าตื่นเต้นตลอดเวลา “สุทธิชัยAI คือตัวตนของผม เสียงจริง ลีลาท่าทางจริง” สักวันหนึ่งอาจมีอารมณ์และจิตวิญญาณของสุทธิชัยตัวจริงก็ได้
“ผมทำข่าวมา 50 ปีตลอดชีวิต แต่ไม่มีช่วงไหนของการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่น่าตื่นตาตื่นใจเท่ากับตอนนี้ ไม่เฉพาะ Mobile journalism เท่านั้น แต่วันนี้คือ AI journalism ที่จะทำให้การสื่อสารเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และไร้ข้อจำกัด”
สุทธิชัย ตัวจริง กับสุทธิชัย AI จะว่าข่าวเหมือนกัน และต่อไปนี้จะว่าข่าวมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเมื่อไหร่ ก็ทำหน้าที่ของนักข่าวได้ จะใช้เทคโนโลยี AI ทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่างเข้มข้น .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/