
“…หลังจากนั้นก็ไปเป็นรองผู้ว่าฯ ปทุมธานี เป็นอยู่ 2 ปี มีโอกาสได้เป็นรองผู้ว่าฯ อยู่ 2 ปี เท่านั้น ไม่ได้เส้นใหญ่มาจากไหน แต่ผลงานก็ได้จนกระทั่ง ท่านปลัดกระทรวงฯ ณ วันนั้น ซึ่งไม่ใช่เจ้านายสายตรงที่สนิทอะไรกันเลย คือ ท่านกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ท่านก็ต้องให้รางวัลผม เพราะผมได้รับคำชมจากท่านายกรัฐมนตรี ณ วันนั้น คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยความเคารพ ทำให้น้ำท่วมดอนเมืองคลี่คลายลงได้ ด้วยการบอกว่า เอามาปทุมธานี ผมจัดระบบให้จนเสร็จ…”
หมายเหตุ : สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวมอบแนวทางการปฏิบัติราชการของอธิบดีกรมการปกครอง ณ ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ภายหลังมีประกาศพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง
ดีใจที่ได้มาพบกัน เหมือนกลับถิ่นเกิด กลับบ้านเกิด ผมเกิดที่นี่ (กรมการปกครอง) มาพบกัน ผมไม่เคยฝืนธรรมเนียม มีอะไรก็ว่ามา แต่ไม่ได้หมายความว่า มาแล้วต้องขึงขัง เปลี่ยนนโยบาย ใช้เวลาวันอาทิตย์ เนื่องจากทราบว่ามีจะมีการประชุมกรมการปกครองในวันอังคารที่ 5 ส.ค.68 นานไป “ความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้” นโยบายรัฐบาลและของผู้บังคับบัญชาที่อยากให้เราขับเคลื่อนน่าจะเกิดขึ้นเร็วที่สุด
วันนี้ขอโอกาสพบกันและท่านคงอยากรู้ว่า ผมมาแล้วจะทำอะไร จะไม่ทำอะไร “แต่ที่แน่ ๆ คือ ต้องทำตามอำนาจหน้าที่ Job Description ในกฎหมายแน่นอน” และอะไรที่ต้องเน้นหนัก เน้นหนักนโยบายของรัฐบาลและผู้บังคับบัญชาแน่นอน

@ นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร @
@ ลูกบ้านนอกอยากเป็นนายอำเภอ
ผมเข้าเรียนปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นความตั้งใจ “ตั้งใจเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง อยากเป็นนายอำเภอ คนบ้านนอก ไม่ได้มีอะไรเลย ลูกชาวบ้าน” เลือกสายปกครอง ได้คะแนน 310 คะแนน บังเอิญคะแนนเราเป็นอันดับ 1 เขาเลยเรียกว่า ที่ 1 ปกครองของทุกมหาวิทยาลัย
เรียนจบรัฐศาสตรบัณฑิต ได้เกียรตินิยมอันดับสอง เรียนด้วย เล่นด้วย ไม่ได้คิดอะไร จบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันนี้ตั้งใจเรียน หลักสูตรสองปี ผมจบปีครึ่ง วิทยานิพนธ์ดีมาก ระหว่างนั้นสอบปลัดอำเภอปี 39 ได้ที่ 8
“เป็นช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่เป็นนายอำเภอ เติบโตตามลำดับ ไม่เคยอยู่ส่วนกลาง วิ่งทุกปี วิ่งมาที่กรมทุกปี วิ่งขอไม่มาส่วนกลาง ผมชอบอยู่ต่างจังหวัด ไม่ชอบชีวิตในกรม ไม่เคยอยู่ในกรมเลย ชีวิตพลิกผัน ไปสอบนายอำเภอ 2 ครั้ง สอบตก 2 ครั้งเลย อับอายขายขี้หน้ามาก ช้ำใจ ร้องไห้ ไม่เป็นไร ชีวิตมีขึ้นมาลงเสมอ บางทีวันนี้ไม่ได้ก็ไปได้ในวันหน้า”
โชคชะตาพาไปอยู่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งแต่ซี 7 ขึ้นซี 8 ซี 9 ใช้เวลาอยู่ในกรมป้องกันฯ 9 – 10 ปี ตำแหน่งสุดท้าย คือ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นสำนักที่ภารกิจใหญ่ที่สุดของกรมป้องกันฯ เมื่อก่อนเรียกว่า สำนักประเทศไทย ภารกิจใหญ่ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน 24 ชั่วโมง ต้องนอนที่ทำงาน ทำมาแล้ว แต่ชีวิตความเป็นปลัดอำเภอ ความเป็นนักปกครอง ตั้งแต้ต้น มันฝึกผม ไปที่ไหนเราก็ไม่กลัว เราต้องทำให้ได้
@ คลี่คลายน้ำท่วมดอนเมือง
“หลังจากนั้นมีโอกาสไปเป็นรองผู้ว่าฯ ปทุมธานี 2 ปี เท่านั้น ไม่ได้เส้นใหญ่มาจากไหน แต่ผลงานก็ได้จนกระทั่ง ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ณ วันนั้น ซึ่งไม่ใช่เจ้านายสายตรงที่สนิทอะไรกันเลย คือ ท่านกฤษฎา บุญราช ท่านก็ต้องให้รางวัลผม เพราะผมได้รับคำชมจากท่านายกรัฐมนตรี ณ วันนั้น คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยความเคารพ ทำให้น้ำท่วมดอนเมืองคลี่คลายลงได้ ด้วยการบอกว่า เอามาปทุมธานี ผมจัดระบบให้จนเสร็จ”
นี่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนักปกครอง ทำอย่างไรถึงจะบริหารจัดการได้ ไม่ได้มองที่พื้นที่ตัวเอง แต่ต้องดูเพื่อนข้างเคียงด้วยและก็สนองนโยบายรัฐบาลด้วย ดูผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวมด้วย
“นายกรัฐมนตรีชม ผมก็ขอรางวัล ผมไม่ได้ไปวิ่ง หรือเพราะว่า ผมเส้นคนนี้ ไม่มีเลยนะ ผมไม่รู้จักท่านเป็นการส่วนตัว แต่ผมบอกว่า ท่านก็ต้องให้รางวัลผมแหละ ก็ได้”
“2 ปี ผมก็ได้ขึ้นซี 10 เติบโตมาตามลำดับ ไม่มีเด็กเส้นอะไรเลย ใครจะบอกว่า ผมโตมาเพราะพี่ผมเป็นปลัดกระทรวง ผมโตก่อน พี่ผมยังไม่ได้เป็นปลัดกระทรวง ผมได้ก่อน”
เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และอีกครึ่งปีก็ไปเป็นผู้ว่าฯ บึงกาฬ ตอนนั้นเกิดการโยกย้ายกลางปี ผมก็เริ่มที่จังหวัดที่เล็กที่สุด ใหม่ที่สุด ยังไม่พร้อมที่สุด เป็นจังหวัดเดียวที่ไม่มีเทศบาลเมือง ก็ผ่านมาแล้ว
@ เจ็บแล้วไม่ร้อง-เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ
“เข้ามากระทรวงมหาดไทย อยู่เป็นรองปลัดกระทรวงฯ 2 ปี เส้นทางชีวิต ณ กติกาในวันนั้น เข้ามาเป็นรองปลัดกระทรวงฯ เพื่อเป็นอธิบดี เพราะอีก 1 ปีจะว่าง 3 กรม แต่เมื่อกติกาเปลี่ยน ชีวิตผมก็เปลี่ยน ถูกส่งกลับไปเป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่อีกครั้ง แต่ผมไม่ได้ร้องขอ ใครจะเคยบอกว่ารองปลัดกระทรวงฯ ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดได้ ทุกคนร้องขอ ยกเว้นผม แต่เจ็บก็ไม่ต้องร้อง สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ และเราก็มีหน้าที่รับราชการเพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง ให้พี่น้องประชาชน อยู่ตำแหน่งไหนก็ต้องทำ”

เป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่ จนวันนี้เกือบ 3 ปี เป็นที่ที่ทำให้คนทั่วประเทศรู้จักผมมากขึ้น เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ และเป็นจังหวัดที่คนให้ความสนใจ ผมก็มีหน้าที่ตั้งใจทำงานอย่างเดียว ไม่มีวันหยุด ผมไม่ได้เก่ง แต่ยอมปรับตัว ไม่ได้คิดอะไร เพราะเลยช่วงเวลาที่ผมอยากแข่งขันกับใครไปนานแล้ว ผมตั้งใจทำงานอย่างเดียว ไม่ได้ไปสนใจวิ่งแข่งอะไรกับใคร
“วันนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯมาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง เป็นบุญอันสูงยิ่งของชีวิต ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา จากรัฐบาล ตำแหน่งนี้ผมคิดว่ามีเกียรติอย่างยิ่ง”
ผมพร้อมทันที หลังจากที่ไม่ได้คิดอยากอะไรแบบนี้ ผมเคยอยู่นิ่งๆ อยู่เฉยๆ หลบอยู่บนดอย ผมไม่ได้อยากอะไรแล้ว ไม่อยากเบียดอะไรใคร ทำร้ายใคร แต่ถ้าวันหนึ่งเรามีบุญสัมพันธ์ โอกาสมาถึงก็จะทำงานอย่างเต็มที่
@ ชีวิตนักปกครองไม่ได้ทุกอย่างดั่งใจ
เข้าเรียนปลัดอำเภอ หลักสูตรเดียวที่ไม่ได้เข้า คือ หลักสูตรนายอำเภอ เสียใจจริงๆเลย (หัวเราะในลำคอ) เขาไม่ให้ผมเข้า ถ้าผมเข้าหลักสูตรนายอำเภอรุ่นนั้น ผมยังเป็นรองผู้ว่าฯอยู่นะเนีย จริงๆ เพื่อนๆ ที่เข้าอาจจะยังเป็นรองผู้ว่าฯอยู่ เพราะฉะนั้นต้องบอกทุกคนว่า บางครั้งไม่ได้ทุกอย่างอย่างใจนึก ชีวิตนักปกครอง
“ถ้าท่านอยู่เฉยๆ ท่านจะไม่เจ็บอะไรเลย ท่านจะอยู่ในห้องแอร์เฉยๆ ท่านจะไม่เดือดร้อนอะไรเลย แต่ท่านก็จะเบิร์ดๆนะ แต่คนอย่างเรา หลายๆ ท่าน รวมถึงผมด้วย ทำงาน เดิน มีขวาก มีหนาม มีเจ็บบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่ก็อย่าทำร้ายกัน มาอยู่ด้วยกันทุกวันนี้ ก็อยากจะรู้จักกันก่อน จะได้ไม่ต้องจินตนาการ หรือไม่ได้ไปฟังใครว่าผมเป็นคนอย่างไร”
ผมไม่มีวันหยุด ทำงาน 3 ปีที่เชียงใหม่ ผมไม่เคยไปไหน 30 วันผมอยู่ตลอด ยกเว้นมีประชุมสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ ผมจะต้องมาเอง เข้ากรุงเทพฯ ผมถึงจะออกจากเชียงใหม่ ผมถึงจะออกจากพื้นที่ นอกนั้นผมมอบตลอด อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้คิดจะบังคับให้ทำงานไม่มีวันหยุด แต่ถ้าต้องทำ เราก็จะทำ แต่ผมคงไม่ต้องบังคับ คุยกันวันนี้แล้ว เราจะเดินไปด้วยกัน
“ผมไม่ได้มาเพื่อสร้างความแตกแยกกับใคร ผมไม่ได้เบียดใครมา ไม่ได้วิ่งแข่งอะไรกับใครมา ผมไม่เคยแย่งใคร เราไม่ทำ นักปกครองต้องไม่ทำร้ายพวกเดียวกันเอง ท่านจะภูมิใจจนวันตาย ผมไม่เคยทำร้ายกัน ต้องให้เกียรติกัน ทีมปกครองถึงจะอยู่ได้ตลอดไป”

@ ทีมปกครองต้องไม่แตกแยก
ความแตกแยกต้องไม่มี ผมไม่ได้ขู่ ถ้ามีคือท่านทำร้ายตัวเอง แล้วท่านจะไปต่อไม่ไกล ผมไม่อยากให้มี ท่านเสริมความแกร่งให้กับตัวเอง นายอำเภอทุกคนต้องทำให้ได้ ให้กำลังใจกัน
ต้องรวมทีมตั้งแต่ในบ้านตัวเอง รวมทีมเป็นหนึ่ง ไม่ได้ไปรบกับใคร โจทย์เดียวกันของทุกหน่วยงาน คือ ทำอย่างไรให้ทำงานร่วมกับเพื่อนได้แล้วตอบโจทย์ที่เป็นปัญหาของพื้นที่ ของรัฐบาล ของชาติได้
“ต้องรวมทีมเพื่อทำภารกิจในอำเภอนั้นให้ได้ ที่ผ่านมามีปัญหา นายอำเภอก็คือนายอำเภอ แต่อย่าใช้ความเป็นนายกับใครทุกครั้งไป ใช้ความเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง สุดท้ายท่านก็เป็นผู้นำ ในหลายโอกาส หลายส่วนก็ไม่อยากแอ่นอกเป็นผู้นำเพราะว่า เจ็บตัว ถูกด่า ต้องเสี่ยง แต่นายอำเภอนำได้ ท่านต้องทำให้ได้”
ทีมจังหวัดต้องไป ไปสนับสนุนผู้ว่าราชการจังหวัดในการสร้างทีมจังหวัด ปลัดจังหวัดอาจจะไม่ใช่หัวหน้าทีม แต่ท่านจะเป็นมือไม้สำคัญของผู้ว่าฯ ประสานกับทีมอื่นๆ ทหาร ตำรวจ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ปลัดจังหวัดกับนายเภอเป็นจิ๊กซอว์ที่สำคัญ สร้างทีมจังหวัดที่เข็มแข็ง
“ทำได้ อยู่ที่ใจ กล้าทำหรือเปล่า กล้าๆหน่อย แล้วก็เดินไปต่อไป อย่าแตกกันเองเท่านั้นเอง ทั่วประเทศ 76 จังหวัด 876 อำเภอ ก็จะมารวมเป็นทีมปกครองที่เข้มแข็งได้ วางๆไว้บ้าง ที่มาของแต่ละคน อย่าเอามาจนไม่ยอมทำงาน ไม่คบกับเพื่อน ตั้งป้อมกัน ข้าจะล่อเอ็ง ฉันจะฟาดเธอ เลิกเถอะ ไม่อย่างนั้นท่านจะไปต่อไม่ได้”
@ เคยเป็นทั้งดาวรุ่ง-ดาวตก
ผมเป็นคนที่ compromise ที่สุดคนหนึ่ง แต่หลักการดี ผมไม่เซตามอะไร ไม่เคยด่าใคร มีแต่สนับสนุน ไม่เชื่อผมก็ได้ แต่ผมแค่ไม่สนับสนุนท่าน ท่านก็เสียใจแล้ว ผมอยู่ไปนานๆ ท่านจะยืมคำว่า พี่มีแต่ให้มาใช้กับผม ไม่ได้ละคร แต่ผมเป็นคนอย่างนั้น ไม่เชื่อผมก็ได้ แค่ผมเฉยๆ ท่านก็ขาดโอกาสแล้ว เพราะผมจะใช้ตำแหน่ง หน้าที่ อำนาจ ความสามารถของผมไปสนับสนุนท่านตลอดเวลา
“อย่าคิดว่า เราใหญ่โตมาจากไหน ผมไม่เคยคิด ทุกอย่างมีเกิดมีดับ มีขึ้นมีลง ผมก็ร่วงมาแล้ว ผมเคยเป็นทั้งดาวรุ่ง ดาวจรัสแสง ผมเคยเป็นทั้งดาวตกในคำปรามาสของใครหลายๆ คน ใครอยากจะพูดอย่างไรก็ช่าง แต่ผมไม่สนับสนุนใครจะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งทีม สิงห์สีโน้นสีนี้ ไม่ต้องมีนะ อย่าใช้ความเป็นสิงห์มาแบ่งแยกในกรม จะไปต่อไม่ได้ มาแล้วเราต้องเป็นสิงห์มหาดไทย สิงห์กรมการปกครอง”
ทีมปกครองต้องเป็นหนึ่ง อย่าแตกกันให้เห็นนะ ใครแตกกันให้เห็น ผมขออนุญาตเอาท่านไปเก็บที่อื่นนะ ตกลงกันก่อนนะ ขออนุญาตเรียกตัวเองว่า พี่ ขอให้น้องๆ รวมทีมกันเป็นหนึ่ง ไม่ได้ไปสู้กับใคร แต่เราจะสู้กับปัญหาและความทุกข์ยากของพี่น้องของประชาชน ทำให้ประชาชนมีสุขมากขึ้น ตามคอนเซปต์ของกรมการปกครอง
ท่านจะไม่ถูกผมเบียดเบียน แต่ท่านจะถูกผมชวนทำงาน เหนื่อยไปด้วยกัน ภูมิใจไปด้วยกัน แล้วสุดท้ายเราจะเห็นพี่น้องประชาชนมีความสุขร่วมกัน ประเทศชาติอยู่ได้ เดินไปข้างหน้าได้ นโยบายรัฐบาลสัมฤทธิ์ผล
ผมไม่มีนโยบายส่วนตัว ไม่หาประโยชน์เข้าตัวเอง อยากสร้างประโยชน์ให้กับพวกเราทุกคน
ที่มา : ยูทูปว์ โทรทัศน์กรมการปกครอง (https://www.youtube.com/@DOPAChannel2025)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา