“...บางทีเราอยู่ในสังคมนี้ก็ต้องทำใจ มองกว้าง ๆ ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร ทำแค่นี้เหมาะสมไหม เกินไปหรือเปล่า ไม่ใช่พอเห็นหน้า ปั๊บ ไอ้นี่ โกรธกันมาทั้งชาติแล้ว มีอะไรต้องล่อมันให้ตาย บ้านเมืองก็ไม่สงบ...”
หมายเหตุ : นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในสมัยรัฐบาลนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนางสาว แพทองธาร ชินวัตร และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงความเป็นไปได้ในการกลับบ้านของนางสาว ยิ่งลักษณ์ การเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร และโอกาสในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าว : คุณยิ่งลักษณ์จะกลับบ้านด้วยวิธีการใด ?
ถ้าท่านผิดท่านก็คงยอมรับผิด (ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกนางสาว ยิ่งลักษณ์ 5 ปี คดีจำนำข้าว) ท่านก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เชื่อว่าจะจบลงด้วยดี จบสวย
ผู้สื่อข่าว : หมายถึงคุณยิ่งลักษณ์จะกลับบ้านภายในปีนี้ ตามที่คุณทักษิณให้สัมภาษณ์ไว้ ?
ระยะเวลาอย่าไปกำหนดเลย ทุกอย่างเป็นไปตามจังหวะ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลายๆ อย่าง ต้องดูการเมือง ต้องดูหลายๆเรื่อง จะไปบอกว่า วันนี้ ปีนี้ บอกไม่ได้ ถ้าสถานการณ์ดี ผมก็ไม่เห็นว่าท่านจะผิดร้ายแรงอะไร ทุกอย่างเคลียร์ออกมาได้ ทุกคนบอกว่า โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้เอง ไปทำอะไรกับท่านมากมาย มันก็จบ คนเราถ้าคิดดีต่อกัน คิดดีต่อบ้านเมือง คิดว่าบ้านเมืองก็ไปได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่นเอง
ผู้สื่อข่าว : ช่วงเวลานี้เหมาะที่สุดแล้วหรือยังที่คุณยิ่งลักษณ์จะกลับมา ?
ท่าน (คุณยิ่งลักษณ์) ก็คงรู้ตัวท่านเอง ท่านฟังแล้วประชาชนคิดอย่างไรกับท่าน คิดในทางไม่ดีไหม แต่สำหรับตัวผม ผมไม่รู้สึกว่า ท่านทำอะไรไม่ดีถึงขนาดอยู่เมืองไทยไม่ได้
ทีนี้ ท่านอยู่กับการเมือง ท่านก็ต้องเข้าใจว่า การเมืองนั้น เรื่องเล็กนิดเดียว กลายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องยอมรับในสถานะนั้น ถึงเวลาคลี่คลายเรื่องใหญ่ก็จะเหลือเป็นเรื่องเล็ก ก็จะไปได้
ถ้าประชาชนคนไทย รู้จักคิดสักนิดหนึ่ง แล้วมาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง ก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ ไม่เห็นมีเรื่องอะไรเสีย ท่านเป็นคนฉลาด ทำคุณกับบ้านเมืองไว้มากมาย
ผู้สื่อข่าว : ถ้าคุณชัยเกษมเป็นคุณยิ่งลักษณ์จะกลับบ้านช่วงเวลานี้ ?
ผมคงตอบแทนไม่ได้ เพราะผมไม่รู้สภาพแวดล้อมเกี่ยวข้องกับท่านโดยตรง ท่านเจออะไร กับใคร แค่ไหน อย่างไร ทุกคนคิดกับท่านอย่างไร ผมอาจจะห่าง ไม่ได้อยู่ใกล้ชิด ผมไม่รู้ แต่ผมคิดว่า ท่านรู้ตัวดีว่าท่านทำอะไร หรือไม่ได้ทำอะไรไว้
“ท่านกลับมา ผมก็ยังมองไม่เห็นเลยว่า มันจะเสียหายกับบ้านเมืองอย่างไร คนเรา ไม่ว่าใคร หากช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติแล้ว เป็นประโยชน์ทั้งนั้น ไม่มีโทษหรอก”
กระบวนการยุติธรรมบ้านเราก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่คนในกระบวนการยุติธรรมต่างคนก็ต่างคิดต่างกัน เป็นปัญหา ถ้าเดินไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ก็จะไม่มีปัญหา
เท่าที่ผ่านมาโดยความรู้สึก ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะเอาท่านไปไว้ข้างนอก คนไทยอยู่เมืองไทยก็ทำประโยชน์ให้เมืองไทยได้ ดีกว่าอยู่ต่างประเทศ แต่เมื่อท่านมาแล้ว คนจะเห็นพ้องกับท่านหรือไม่ ก็มีระบบที่จะควบคุมอยู่แล้ว ถ้าผู้ที่กุมอำนาจการบริหารอยู่ ถ้าเห็นด้วยก็ทำตาม ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องไปทำตาม
“แต่จะถึงขนาดว่า กลับไม่ได้นะ กลับมาแล้วบ้านเมืองยุ่ง ผมยังไม่เห็นจุดนั้น ว่ามันจะเกิดขึ้นเพื่ออะไร แล้วประเทศชาติจะได้ประโยชน์อะไร”
เท่าที่ฟังจากข่าวทั่ว ๆ ไป ผมยังไม่เห็นอะไรที่ซีเรียส ถึงขนาดที่ว่า เอาคนไปติดคุก เพราะเรื่องนโยบายจำนำข้าว ท่านได้ผลประโยชน์อะไรหรือ ท่านมีการคอร์รัปชั่นไหม หรือว่าท่านทำไป แต่ไม่ได้สำเร็จสมที่ทุกคนอยากจะเห็น ถ้าเช่นนั้น ทุกคนเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่ถ้าท่านไม่ได้ประพฤติชั่ว หรือทำอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ คนไทยต้องมองกันให้ลึก ๆ ท่านกลับมา ท่านอาจจะมีความคิดอะไรดี ๆ ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ดีกว่า แทนที่จะไปบอกว่า โอ๊ย คนนี้ ไม่ได้ ๆ ยังไม่ทันรู้ว่าท่านคิดจะทำอะไร
ผมคิดว่า ทุกคนที่เป็นคนไทย ยังไงรักบ้านรักเมืองทั้งนั้น ถ้าท่านทำอะไรที่มีผิดมีโทษก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ถ้าไม่ถึงขนาดนั้น คนไม่เข้าใจ คนไม่ชอบ ก็ว่าไป ทะเลาะแล้วเดี๋ยวก็ดีกัน แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าคิดถึงบ้านเมืองก็ต้องดูภาพกว้างไว้
ผู้สื่อข่าว : ช่วงที่มีข่าวว่าคุณชัยเกษมจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มีปัญเรื่องสุขภาพ ?
ตอนนั้นมีอาการโรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) เส้นเลือดฝอยจะแตก มีก้อนเลือด ทำให้การทรงตัวไม่ดี เป็นอยู่พักเดียว ตอนนี้ผมถามหมอ ผมเล่นกอล์ฟได้หรือยัง หมอบอกเล่นได้ แต่ถ้าร้อนมาก ๆ ก็ให้เลิก เรารู้ เราก็ระวังตัว ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาตีกอล์ฟได้ เพียงแต่ว่า ถ้าใครมานัดผมเที่ยงครึ่งเจอกันนะ เราก็ขอเป็น 9 โมงเช้าได้ไหม
ผู้สื่อข่าว : เกิดจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรี สุขภาพจะเป็นปัญหา ?
“ไม่มีใครหรอกที่เจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องบอกว่า โอ้ย ชาตินี้ผมไม่ไหวแล้ว ผมต้องนอนอยู่บ้านตลอด เราป่วย แต่เรารู้ตัวเราดี ถ้าไหวเราก็ทำให้ ถ้าไม่ไหวเราก็ไม่ทำ ไม่ไหวเราก็บอกไปว่า ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว ผมนอนติดเตียงแล้ว ไม่ไหวแล้ว อย่ามายุ่งกับผมเลย ถ้าเราคิดว่า เรายังทำอะไรให้ประเทศได้ เราก็ต้องทำ”
ผู้สื่อข่าว : งานอะไรที่ทำอยู่ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ?
นอกจากทำงานเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล (ครน.) ที่มีการประชุมเป็นครั้งเป็นคราว คนเป็นที่ปรึกษา ถ้าเขาขอปรึกษา เราก็มีงานตลอด แต่ถ้าเขาไม่ปรึกษา เราก็นอนสบาย (หัวเราะ)
ผู้สื่อข่าว : นายกรัฐมนตรีขอคำปรึกษาอะไร ?
ท่านไม่ค่อยปรึกษา ท่านมีคนรอบข้างเยอะ และเป็นคนที่อยู่ประจำ แค่ท่านชูศักดิ์ (ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) คนเดียวก็แก้ปัญหาหมดไปแล้ว แต่ถ้าท่านถามอะไรมาเราก็พร้อมให้คำปรึกษาตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าว : ประเมิน รัฐบาลจะอยู่ครบวาระ ?
“ผมยังมองไม่เห็นปัญหาอะไรที่จะทำให้สภาผู้แทนราษฎรยุบสภา มันต้องเกิดเรื่องอะไรที่สำคัญจริง ๆ หรือความผิดพลาดครั้งใหญ่”
เรื่องท่านทักษิณ (พักรักษาตัว ที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ) ต้องมีคำชี้แจงให้เข้าใจว่า เกิดขึ้นเพราะอะไร ท่านทักษิณไม่ใช่เป็นคนตัดสินใจว่าท่านจะอยู่ที่ไหน ก็ต้องดูว่า คนกำกับดูแลนั้น เอียงไหม ช่วยท่านหรือเปล่า จริง ๆ ไม่ใช่ เป็นไปตามสภาพ
บางทีเราอยู่ในสังคมนี้ก็ต้องทำใจ มองกว้าง ๆ ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร ทำแค่นี้เหมาะสมไหม เกินไปหรือเปล่า ไม่ใช่พอเห็นหน้า ปั๊บ ไอ้นี่ โกรธกันมาทั้งชาติแล้ว มีอะไรต้องล่อมันให้ตาย บ้านเมืองก็ไม่สงบ
ถ้ามองไปลึก ๆ ท่านทักษิณทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมากมาย ท่านอาจจะผิดพลั้งไปนิดหนึ่ง ไม่ว่าใคร ลองนึกถึงตัวเราเอง มีอะไรที่เราทำถูกต้อง 100 % ทุกเรื่อง ทุกอย่าง ไม่หรอก ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในช่วงเวลานั้น แต่อยู่ที่ว่าเรื่องที่เราทำนั้น เมื่อผิดพลาดไปแล้ว แก้ไขไหม กระทบใครแค่ไหน อย่างไร ก็ต้องเยียวยา ให้เขากลับมาฟื้นตัว ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทย ทุกคนมีสิทธิที่จะอยู่อย่างเป็นสุข ถ้าไม่ถึงขนาดไปใช้อำนาจไปไล่เหยียบ ไล่บี้ จนเขาอยู่ไม่มีความสุข ไม่ได้
ผู้สื่อข่าว : มองคุณทักษิณที่เคลื่อนไหวแรงในช่วงเวลานี้ ?
ถ้าจะบอกว่า ท่านทำอะไรไม่ถูก ชี้ออกมาให้ชัด ไม่ถูกอย่างไร ต้องดูว่า การที่ท่านไปหาเสียงท่านพูดอะไร สิ่งที่พูดนั้น ไม่ควรพูดหรือเปล่า เป็นการหาเสียงธรรมดา หรือ กระทบกับคนอื่นให้เสียหาย หรือพูดเรื่องไม่จริงก็ต้องว่ากัน แต่ถ้าโดยทั่วไป คนหาเสียง เราก็ได้ยินกันมาเยอะแยะ ต้องมีใจเป็นธรรม
สำหรับผม ท่านเป็นคนฉลาดมาก ที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่ท่านแก้ปัญหาให้ประเทศ แต่ถ้าท่านเดินออกไปนอกขอบอันควร ก็ต้องคอยทักท้วง ไม่ว่าใครทั้งนั้น ทุกอย่างคนไทยต้องคุยกันได้
ผู้สื่อข่าว : มีคนกล้าทักท้วงคุณทักษิณ ?
ถ้าคุณมีอะไรที่คุณยังข้องใจแล้วคุณไม่กล้าไปทักท้วงท่านนะ บอกผมเลย ถ้าผมเห็นด้วย ผมทักท้วง
“ผมคิดว่า สิ่งอะไรที่เราพูด สิ่งที่เราคิดว่า สิ่งนั้นถูกต้อง ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ประชาชนสบายขึ้น เราต้องสามารถที่จะพูดจากันได้ ถ้าเราไม่มีความรู้สึกส่วนตัว เอนเอียงไปว่า ถ้าเป็นท่านทักษิณทำอะไรก็ไม่มีถูก ไม่ใช่ ต้องมีเหตุมีผล ใช้สติให้มาก บ้านเมืองจะได้ไม่ยุ่งวุ่นวาย”
ผมชอบท่านที่ท่านเป็นคนฉลาด แก้ปัญหาให้บ้านเมืองมากมาย และเป็นคนกล้าตัดสินใจ แต่คนก็บอกว่า ความฉลาดและการกล้าตัดสินใจของท่าน มันกระทบผลประโยชน์ของเขาเข้า เราเป็นคนกลาง เราก็ต้องวินิจฉัยด้วยความเป็นธรรม ว่า ใครพูดจริง ใครพูดไม่จริงกันแน่ ในฐานะที่คนไทยมีสิทธิเสรีภาพเต็มที่เหมือนกันอย่างมากในประเทศไทย
ที่มาภาพ : พรรคเพื่อไทย / Facebook Thaksin Shinawatra / Yingluck Shinawatra