ดังนั้นเราจะทำอย่างไรที่จะทำให้เด็ก คนรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังของประเทศไทยเหล่านี้ไม่คิดจะไปต่างประเทศ ปัญหาเร่งด่วนของไทยที่สุดตอนนี้ก็คือเรื่องการศึกษา ความเหลื่อมล้ำทางโอกาส ปัญหาที่ผมพูดทั้งหมดมันไม่มียาสำเร็จรูปแก้ปัญหาให้หมดไป แต่มันต้องเริ่มจากจุดที่ถุกต้อง เพื่อจะแก้ปัญหาต่อๆไป
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) :เมื่อวันที่ 24 พ.ค. สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนหรือ PDA ได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อเรื่องฉากทัศน์อนาคตสังคมไทย ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ห้อง Meetig Room 110 A-C ชั้น 1
โดยงานดังกล่าวมีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นองค์ปาฐกถานำ กล่าวเปิดงานสรุปรายละเอียดได้ดังนี้
ในบริบทของสังคม ทุกสังคมทั่วโลกมีปัญหาใหญ่ที่สุดคือการแยกขั้วระหว่างคนด้วยกัน ไม่ว่าจะมีเหตุผลจากทั้งฝั่งการเมือง หรือนักร้องทั้งหลายก็แล้วแต่ แต่สังเกตุว่าจะมีคำว่ารักชาติประกอบกันด้วย ซึ่งการรักชาติบางทีก็รักชาติจนล่มจม รักชาติเฉพาะกับกลุ่มที่มีความคิดเหมือนกันเท่านั้น ส่วนคนที่คิดต่างกันก็กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัว เป็นปีศาจ ต้องยอมรับว่าทุกประเทศในโลกนี้เริ่มจะมีจินตนาการในทางที่กล่าวร้ายกันและกัน คำว่าฉากทัศน์ในสังคมไทยนั้น ก็มีความแปลกคือว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่เสื่อมมาเรื่อย เสื่อมเพราะความหูเบา ความเชื่อง่าย อิจฉาริษยา อาฆาตพยายาท หวงแหนสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ไม่เคยจะแบ่งปันให้ใคร สิ่งเหล่านี้ผมถือว่าเป็นอากัปกริยาที่มีความหมายลบต่อสังคม
หลายคนบอกอยากเป็นประชาธิปไตย แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าประชาธิปไตยนั้นคืออะไรไม่ใช่เลือกตั้ง ตั้งรัฐบาล เขียนรัฐธรรมนูญ รัฐประหาร ปัญหาที่ผ่านมาของไทยนั้นคือการทุจริต แม้ว่าหลายรัฐบาลจะมีความตั้งใจดี แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พอ มันต้องอาศัยความคิดที่ดีด้วย การปฏิบัติที่ดู พูดน้อยทำมาก เราไม่มีสิ่งเหล่านี้มานานแล้ว การจะมีสังคมที่ดีไม่ใช่เรื่องของความมั่งคั่ง การมีคนรวย แต่จริงๆคือสังคมนั้นจะมีความสุขหรือไม่ ในทุกชั้นวรรณะอย่างพอเพียง ซึ่งคำว่าพอเพียง ทุกวันนี้ก็กลายเป็นสิ่งที่พูดเป็นเรื่องตลก ทั้งๆที่ความหมายมันลึกซึ้งมาก ความพอเพียงไม่ใช่เรื่องกีดกันความร่ำรวย
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันคนทั่วโลกหมดความเชื่อมั่นในเรื่องสถาบันการเมือง นักการเมือง แต่เมืองไทยนั้นหมดความเชื่อมั่นเลื่อมใสไปทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ซึ่งส่วนตัวขอไม่บอกว่าตรงนี้ใครผิดใครถูก แต่ถามว่าประเทศนั้นจะไปทางไหนถ้าหากคนเสื่อมศรัทธา เลื่อมใส ในสถาบันที่เป็นความหวังกับประชาชนได้ ทุกๆสังคมถ้ามีแต่ความผิดหวัง มีความไม่เชื่อถือ มีความไม่นับถือไม่ไว้ใจก็จะเป็นสังคมที่ไม่มีความสุข แต่สังคมที่ดีไม่ใช่การมีความสุข แต่เป็นการมีความหวัง ที่ผ่านมาผมได้คุยกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่หลายคนก็เป็นเรื่องเศร้าสำหรับประเทศ ว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เราละเลยสิ่งดีงามทั้งหมดได้อย่างไร ทั้งการเห็นผิดเป็นชอบ เห็นชั่วเป็นดี เห็นการโกหกเป็นของธรรมดา เรามีแต่พวกหิวแสงและสี
สำหรับผมได้คุยกับหลายคนเขาอยากไปอยู่ต่างประเทศทั้งเด็กและคนรุ่นใหม่ เพราะประเทศไทยดูไม่มีความหวัง แต่ถ้าเป็นผมคงไปอยู่ต่างประเทศไม่ได้ คือเราควรที่จะมีเยื่อไยกับประเทศชาติ ประเทศที่เราเกิด ดังนั้นเราจะทำอย่างไรที่จะทำให้เด็ก คนรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังของประเทศไทยเหล่านี้ไม่คิดจะไปต่างประเทศ ปัญหาเร่งด่วนของไทยที่สุดตอนนี้ก็คือเรื่องการศึกษา ความเหลื่อมล้ำทางโอกาส ปัญหาที่ผมพูดทั้งหมดมันไม่มียาสำเร็จรูปแก้ปัญหาให้หมดไป แต่มันต้องเริ่มจากจุดที่ถุกต้อง เพื่อจะแก้ปัญหาต่อๆไป
อีกปัญหาที่คนไทยตอนนี้ไม่ยอมมีลูก จริงๆก็เพราะคนไทยมองไม่เห็นอนาคตแม้แต่กับตัวเขาเอง ไปที่ไหนก็เห็นแต่ข้อมูลปลอม ข้อมูลเฟค แล้วเด็กไทยก็มีข่าวถูกจับเข้าคุกเป็นประจำ ก็ต้องถามว่าสนุกมากหรือที่เห็นเด็กต้องเข้าคุก เด็กไม่ได้รับการประกันตัว ไม่ละอายบ้างหรือ หรือทีโกงกินไม่อาย ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าเด็กทำถูกทุกอย่าง แต่เราจับเด็กเข้าคุกนะ ถ้าหากสังคมมันมาอยู่ที่จุดที่การจับเด็กเข้าคุกเป็นของสนุก เป็นของที่เป็นธรรม มันจะเป็นสังคมที่น่าอยู่ได้อย่างไร และสังคมที่ไม่ยอมรับแตกต่าง ที่แม้ความเห็นบางอย่างจะผิดก็ตาม แต่ก็ต้องบอกว่าสิทธิในการแสดงความเห็นมันควรเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกับสิทธิในที่อยู่อาศัย สิทธิการรักษาพยาบาล
สำหรับการทำธุรกิจ ธุรกิจที่มีการผูกขาด การใช้คอนเน็คชั่น การจ่ายเงินให้กับพรรคการเมือง สิ่งเหล่านี้ก็ควรต้องหมดไป แต่สิ่งเหล่านี้ต้องค่อยๆเป็น จะเป็นทันทีไม่ได้ แม้แต่พรรคการเมืองที่จะบอกจะเปลี่ยนก็จะเปลี่ยนทันทีไม่ได้ ก็ต้องรอคอย นี่เป็นความจริงของชีวิตที่เราต้องคอยให้โอกาสเขา ปัจจุบันเรามีนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ก้าวหน้าแต่ก็ต้องให้เวลาเขา
แต่การศึกษาที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้ก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ จริงๆก็มีเรื่องน่าแปลกใจว่าเด็กต่างจังหวัดนั้นเขาเป็นเด็กที่ได้ทุนการศึกษากันมาก ก็เห็นว่าคุณภาพโรงเรียนในต่างจังหวัดเขาก็ดีขึ้น แต่ก็เป็นโรงเรียนเหล่านี้ก็เป็นโรงเรียนเอกชน ซึ่งภาครัฐก็ต้องมีการพัฒนาตรงนี้ไม่งั้นก็ตายหมด สุดท้ายผมอยากจะบอกว่าฉากทัศน์อนาคตสังคมไทยขึ้นอยู่กับการศึกษา ขึ้นอยู่กับความร่วมมือกันทั้งหลายฝ่าย ซึ่งมันจะช่วยดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ที่คิดจะไปอยู่ต่างประเทศให้เขาเกิดมีความหวังในเมืองไทยอีกครั้งหนึ่งได้ เพื่อที่ว่าประเทศไทยจะได้ไม่เสื่อมทรามเหมือนกับในต่างประเทศ นี่คือโจทย์ของประเทศไทยทั้งประเทศ ซึ่งคิดว่าจริงๆเราก็มีคำตอบของโจทย์เหล่านี้อยู่แล้ว