"...เซลีน ซง (Celine Song) ผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้จากชีวิตจริงของเธอที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ได้นั่งอยู่ในบาร์กับเพื่อนเก่าชาวเกาหลีและสามี คอยทำหน้าที่เป็นล่ามให้ทั้ง 2 คน ท่ามกลางสายตาคนรอบข้างจ้องมองอยู่ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องเรียบง่ายของชีวิต ปัจเจกความเป็นตัวตน พร้อมทางเลือกในการเดินชีวิตของแต่ละคน” (It is about,on a very simple live, what it is like to exist as a person, or what is like to choose a life that you live.)..."
การประกาศผล Academy Awards ครั้งที่ 96 หรือ Oscars 2024 ที่มีขึ้นเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา คาดการณ์กันว่า ภาพยนตร์เรื่อง Oppenheimer หนังชีวประวัติของ เจ รอเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) ผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์จะกวาดรางวัลสาขาสำคัญ ๆ ไปหมด รวมทั้งสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ 1 ใน 10 ภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าประกวดชิงรางวัลดังกล่าวมีเรื่อง Past Lives (ครั้งหนึ่ง…ซึ่งคิดถึงตลอดไป) ที่ได้รับการกล่าวขานกันมาก เป็นภาพยนตร์ที่สามารถตรึงใจคนดูและมีอารมณ์ร่วมตลอดความยาว 106 นาที เพราะอยู่กับเรื่องราวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำมาฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปีที่แล้ว แต่หวังว่าภายหลังการประกาศผล Oscars จะถูกนำกลับเข้ามาฉายอีกหรือสามารถรับชมผ่านสตรีมมิ่ง เพราะผมก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นนักสปอยล์หนังใน Weekly Mail ฉบับนี้
Past Lives เป็นเรื่องย้อนอดีตสมัยเรียนชั้นประถมของเด็กเกาหลีหญิงชาย 2 คน นอร่า (Nora) และแฮซอง (Hae Sung) ทั้งสองมีความผูกพันกันทั้งในเรื่องการเรียน เป็นเพื่อนสนิทแบบปาท่องโก๋ รู้ใจซึ่งกันและกัน แต่ทั้งสองต้องแยกจากกันเมื่อนอร่าอพยพตามครอบครัวไปแคนาดาเมื่ออายุ 12 ปี เพื่อแสวงหาชีวิตตามที่พ่อและแม่ได้ใฝ่ฝันไว้ ในขณะที่นอร่าฝันอยากเป็นนักวรรณคดี ตั้งใจว่าวันหนึ่งเธอจะต้องคว้ารางวัลโนเบลสาขานี้ในฐานะคนเกาหลีคนแรก
เมื่อทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกใน 12 ปีต่อมา ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงอย่างสวยงาม แต่ด้วยอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้ความผูกพันกลับไม่เหมือนดั่งที่คิด เพราะทั้งคู่ต้องการทำในสิ่งที่ตนมุ่งมั่นไว้ในชีวิต จึงทำให้ทั้งสองตัดสินใจเลิกติดต่อกัน อย่างไรก็ดี ในอีก 12 ปีต่อมา ทั้งสองคนได้มาเจอกันอีกครั้งที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นความตั้งใจของแฮซองที่ต้องการมาพบกับนอร่า โดยที่นอร่าแต่งงานแล้ว สามีเป็นชาวอเมริกัน ในขณะที่แฮซองเพิ่งแยกทางกับแฟนมา ถือเป็นเรื่องราวที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยเรื่องราวของความผูกพัน ขนบธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ไปจนถึงเส้นทางเดินของชีวิตที่เรียกอดีตกลับคืนไม่ได้
พวกเราคงคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ “รัก 3 เส้า” ที่ต้องลุ้นว่านางเอกจะเลือกใครดี แต่ Past Lives เป็นภาพยนตร์ที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น เพราะได้ให้ข้อคิดตามความเชื่อของคนเกาหลีในเรื่อง “อินยอน” (In Yeon) ซึ่งหมายถึง “พรหมลิขิตหรือโชคชะตา” ที่เชื่อว่าคนเรามาเจอกันเกิดจากสายสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อน อินยอนเกิดขึ้นได้ทุกโอกาสแม้แต่ช่วงเสี้ยวเวลาที่คนแปลกหน้าเดินผ่านกันและเพียงเสื้อผ้าสัมผัสกัน ในขณะที่คู่รักที่ตกลงปลงใจแต่งงานกัน หมายถึงอินยอนถูกผูกโยงผ่านชีวิตที่เกิดข้ามภพข้ามชาติมากกว่า 8,000 ครั้ง [1]
คำสนทนาของตัวละครและทุกฉากถูกบรรจงสร้าง เก็บรายละเอียดทุกขั้นตอน เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ เพื่อให้คนดูได้คิดตาม (แม้แต่ 3 ช่วงชีวิตของนอร่าและแฮซอง ถูกเลือกจังหวะชีวิตทุก 12 ปี) ทำให้ผู้ชมคิดและตั้งคำถามไปพร้อมกันว่า “ในอดีต ถ้าฉันตัดสินใจแบบนั้น แบบนี้ ตอนนี้ฉันจะเป็นอย่างไร?” เพราะทางเลือกนั้น ไม่ว่าจะเรื่องการศึกษา อาชีพ คนที่เราคบหา ทั้งเพื่อนเรียน เพื่อนร่วมงาน รวมถึงแฟน ล้วนแล้วแต่ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้
สำหรับนอร่าและแฮซอง การที่ได้มาพบกันอีกครั้งหลังจากผ่านห้วงเวลากว่า 24 ปี “อินยอน” มีความหมายที่ลึกซึ้งมากกว่าคนทั่วไป เพราะทั้งคู่มีความรู้สึกพิเศษให้กัน ซึ่งไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่คนรัก และไม่ใช่อดีตคนรัก แต่ทำให้ได้เรียนรู้ว่า “พวกเราทุกคนล้วนต้องกลายเป็นคนใหม่ ผ่านการทิ้งบางอย่างไว้เบื้องหลัง” แต่ในขณะเดียวกัน การที่นอร่าได้เจอแฮซองช่วยให้เธอได้ติดต่อกับเด็กหญิงคนนั้นอีกครั้ง ได้รับรู้ว่าสาวน้อยคนนั้นอยู่แห่งหนใดในอดีต และเลือกทางในอนาคตที่เปลี่ยนไปไม่ได้ ท้ายสุดเราจะเลือกเติบโตแบบไหน และจะเลือกทำหรือเลือกจดจำสิ่งต่าง ๆ คงขึ้นอยู่กับตัวเราเอง [2]
ฉากที่น่าจะทรงพลังที่สุด ทำให้คนดูลุ้น กลับมาคิดถึงชีวิตตัวเองและกระชากความรู้สึกมากที่สุดคือฉาก 2 นาทีสุดท้ายที่นอร่าเดินลงมาส่งแฮซองขึ้นแท็กซี่ไปสนามบิน ภายหลังที่ทั้งสองได้เจอกันเพียง 2 วัน 1 คืน เป็นฉากที่ทั้งสองเดินไปด้วยกัน แต่กลับไม่พูดไม่จากัน เป็นช่วงภาวะความเงียบงัน แต่ผู้ชมสัมผัสได้ถึงอารมณ์ภายในของทั้งสองที่ไม่ยากเกินคาดเดา ท้ายสุดแท็กซี่ก็มาถึงพร้อมกับพาแฮซองจากไป
เซลีน ซง (Celine Song) ผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้จากชีวิตจริงของเธอที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ได้นั่งอยู่ในบาร์กับเพื่อนเก่าชาวเกาหลีและสามี คอยทำหน้าที่เป็นล่ามให้ทั้ง 2 คน ท่ามกลางสายตาคนรอบข้างจ้องมองอยู่ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องเรียบง่ายของชีวิต ปัจเจกความเป็นตัวตน พร้อมทางเลือกในการเดินชีวิตของแต่ละคน” (It is about,on a very simple live, what it is like to exist as a person, or what is like to choose a life that you live.)
แหล่งที่มา:
[1] โจนี่ วิวัฒนานนท์, Past Lives หนังรักสามเส้าโดยค่าย A24 แด่โชคชะตา พื้นที่เล็ก ๆ ในใจของคนสองคนที่คิดถึง แต่รักกันไม่ได้, The Cloud, 10 กรกฎาคม 2566, https://readthecloud.co/past-lives/
[2] ประวิทย์ แต่งอักษร, Past Lives (2023) หนังโรแมนติกดราม่าที่ละเมียดละไมอ่อนหวาน ว่าด้วย “ชีวิตแต่หนหลัง และบางเรื่องที่ไม่เคยเลือนหาย”, The Standard, 7 กรกฎาคม 2566, https://thestandard.co/opinion-past-lives-2023/