"...เมื่อต้นปี 'บริษัทเอาอีก' ปล้นโบรกเกอร์ไปชุดใหญ่ แต่โบรกเกอร์เป็นบริษัท ต้องรับผิดชอบตัวเอง ก็กลืนเลือด ตัดขาดทุนกันไป จะฟ้องร้องเป็นความกันหรือไม่ ก็แล้วแต่ผู้ถือหุ้นแต่ละโบรกฯ ซึ่งปกติมักไม่สนใจเรื่องยาวๆ แบบการเป็นความกันเท่าไหร่ คนประพฤติมิชอบก็ลอยนวลกันต่อไป..."
ในตลาดทุน (หุ้น + หุ้นกู้) เขาก็ปล้นกันมาเรื่อยๆ
เมื่อต้นปี 'บริษัทเอาอีก' ปล้นโบรกเกอร์ไปชุดใหญ่ แต่โบรกเกอร์เป็นบริษัท ต้องรับผิดชอบตัวเอง ก็กลืนเลือด ตัดขาดทุนกันไป จะฟ้องร้องเป็นความกันหรือไม่ ก็แล้วแต่ผู้ถือหุ้นแต่ละโบรกฯ ซึ่งปกติมักไม่สนใจเรื่องยาวๆ แบบการเป็นความกันเท่าไหร่ คนประพฤติมิชอบก็ลอยนวลกันต่อไป
คราวนี้เรื่องใหญ่เป็นหมื่นล้าน เกี่ยวข้องหมดทั้งผู้ถือหุ้น (มือใหญ่ มืออาชีพ และรายย่อยๆ) กรรมการ บริษัทสอบบัญชี และ 'ทางการ' จะทำไงต่อไปล่ะ
ขอเล่าเป็นนิยาย ให้คนที่งงๆ พอเข้าใจกระบวนการ โดยหวังลมๆ แล้งๆ ว่าถ้า 'สังคม' เข้าใจมากขึ้น อาจจะมีคนคิดทำหนังแบบประเทืองปัญญาออกมาบ้าง
ผู้ร่วมทุน
คุณ ล. ลูกชายบริษัทจดทะเบียนอีกแห่ง กำลังหนุ่มแน่น น่าจะอยากถางทางตั้งกิจการของตนเอง ก็เลยสองคนกับคุณ ม. 'มืออาชีพ' ของบริษัทในเครือดอดไปซื้อกิจการบริษัทโนเนมนัก ในตลาดหุ้น แล้วก็สวมกิจการบริษัทใหม่ของตัวเองลงไป (เขาเรียกว่าเดินเข้าทางประตูหลัง ไม่ต้องผ่านการซักไซร้ไล่เลียงคุณสมบัติ และศักยภาพของกิจการจากเจ้าของตลาด)
คุณ ล. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เพราะมีเงิน ส่วนคุณ ม. เป็นหัวหน้าใหญ่บริหารงาน สานฝันให้เป็นจริง
ฝันคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ กำไรมหาศาล มีกิจการแผ่ขยายไปทั่วโลก เป็นบริษัทในฝัน ลือลั่นทั่วยุทธจักรหุ้น แบบที่วัยรุ่นเคยฝันถึงการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทนี่ คนเหล็ก ขวัญใจคนทุกวัย
คุณ ม. นำพาบริษัทโตแบบก้าวกระโดด เพิ่มทุน ซื้อกิจการในประเทศเพื่อนบ้าน กำไรดี โตต่อ เพิ่มทุนอีก กู้เพิ่ม และขยายอีก จนเป็นที่กล่าวขวัญในวงการ และแตะตานักลงทุนเอามากๆ เพราะไม่กี่ปีความใหญ่ของกิจการก็เทียบชั้นบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ได้แล้ว โด่งดังพอจะขึ้นปกนิตยสารว่าด้วยเงินๆ ทองๆ มั่งคั่งๆ
บริษัทสอบบัญชี
กลางฤดูร้อนปีที่แล้วในการประชุมผู้ถือหุ้นตามปกติ มีการเสนอเปลี่ยนผู้ตรวจสอบบัญชี จาก บริษัท บ. เป็น บริษัท ช. ทั้งสองบริษัทอยู่ในพรีเมียลีกด้วยกันทั้งคู่ ฝีมือไม่ยิ่ง ไม่หย่อนไปกว่ากัน ผู้ถือหุ้นเห็นชอบด้วย มอบความไว้วางใจในการเป็นหูเป็นตาแทนตนให้กับผู้สอบบัญชี ช.
ฤดูร้อนผ่านเข้าสู่ฤดูฝน แล้วลมหนาวก็โชยมา บริษัทออกหุ้นระดมทุนก้อนโต เพื่อจะขยายกิจการไปยุโรป เงินเพิ่มทุนได้ไปเรียบร้อย แต่ดีลล้ม
ต้นฤดูร้อนปีนี้ 2566 บริษัท ช. ไม่รับรองบัญชีของบริษัท อ้าว เป็นเรื่องละสิ เมื่อบริษัท ช. เปิดเผยผลการสอบบัญชีออกมาว่า บริษัทนี้ 'แต่งบัญชี' มาหลายปี โดยการสร้างรายได้ปลอม ทำยอดซื้อขายวนไปวนมากับบริษัทที่หุ้นใหญ่เกี่ยวพันกัน แต่งลูกหนี้ เจ้าหนี้ สินค้าคงคลัง ฯลฯ สรุปว่า ตัวเลขงบการเงินที่ทำมา หาความจริงไม่ได้ และยอดเงินที่ระดมทุนมาก็หายไปด้วย เมื่อปรับตัวเลขย้อนหลังไป บริษัทขาดทุนมโหฬาร
หุ้นตกฮวบ
เรื่องซุบซิบอย่างเปิดเผยในสโมสรข่าวเดา
- คุณ ล. ในฐานะหุ้นใหญ่ เข้ามารับหน้าจะแก้ปัญหา ชวนฉงนว่า เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หรือว่าสมรู้ร่วมคิด ไม่รู้ (ตื้น) ลึก หนา (บาง) ของบริษัท หรือว่าเหลี่ยมจัดจนกลมกิ๊ก
- คุณ ม. หายไปไหน บินหายไปแล้ว หรือกบดานอยู่เมืองไทยก็ไม่รู้ แล้วเงินหลายพันล้าน (อย่างน้อย) ล่องหนไปหนใด
- คุณ ผ. ที่เข้ามาช่วยงานนี่ คือใคร เข้ามาช่วยแบบไหน มีกระแสข่าวลือบอกว่า เขาอยู่บริษัทที่ทำออร์เดอร์ปลอมนะ ก็ลือกันไป หลายคนเริ่มมองหา 'ผู้รับผิดชอบ' ตามกระบวนการ
- กรรมการบริษัทมหาชนอยู่ไหน ขอชื่อหน่อย รู้ไหมว่าเจอคดีอาญานะ
- ความเห็นหนึ่งบอกว่า พวกสถาบัน ได้ kick back ชัวร์ ถึงเข้าไปซื้อหุ้นง่ายๆ แบบนั้น อีกความเห็นแย้งว่า เขาอาจจะไม่รู้จริงๆ นะ ไม่ใช่เงินบังตา ที่ลงทุนเพราะเชื่อบริษัทสอบบัญชี บ. น่ะซิ ดังระดับโลกแบบนั้น ไม่เชื่อแล้วจะให้ทำไง ให้ไปตรวจบัญชีเองหรือ
- บริษัท บ. ซึ่งเป็นระดับโลก มีชื่อเสียงที่พึงหวงแหน เป็นสอบบัญชีปีก่อนๆ ได้อธิบายอะไรบ้าง และจะต้องรับผิดชอบยังไงบ้าง เหลือเชื่อเกินไปไหมถ้าจะบอกว่าผู้สอบที่เห็นบัญชีทั้งปวงของบริษัท ไม่ระแคะระคายอะไรเลย ซึ่งเข้าข่ายไม่ใช่มืออาชีพ หรือประมาทเลินเล่อร้ายแรง จนทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนที่ฝากความไว้วางใจไว้กับระบบการสอบบัญชี ต้องเสียหายถ้วนหน้ากัน นักลงทุนคนหนึ่งถึงกับบอกว่า จะไปไล่ดูว่า บริษัท บ. สอบบัญชีบริษัทไหนอีกบ้างในตลาด จะไปขายหุ้นทิ้ง เพราะเชื่อไม่ได้อีกต่อไปแล้วว่า อะไรจริง อะไรปลอม
- สภานักบัญชี ผู้ดูแลวิชาชีพนี้ให้น่าเชื่อถือ จะไม่แสดงท่าทีใดเลยหรือเพื่อกอบกู้ความน่าไว้วางใจของวิชาชีพของตนเอง
- สถาบันต่างๆ ที่ดูแลเงินของผู้ออมรายย่อย เช่น กองทุนรวม ฯลฯ คุณมีหน้าที่ต้องจัดการฟ้องร้องจนถึงที่สุด แทนผู้ถือหน่วย และผู้ที่คุณรับผิดชอบดูแลเงินของเขา
แม้สถาบันที่ไม่เสียหาย ไม่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ แต่อยู่ในอาชีพเดียวกัน ก็ควรใส่ใจให้ความร่วมมือด้วย เพราะคราวหน้าอาจจะเป็นคุณก็ได้ ที่โดนคุณทั้งหลายมีหน้าที่รวมหัวกันทำอะไรอีกหลายอย่าง เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดซ้ำซาก และตลาดทุนไทยหมดความน่าเชื่อถือ
- ต.ล.ท. เริ่มขยับ แล้ว ต.ล.ก อยู่ไหน อ้อ กำลังหา ซี.อี. โอ คนใหม่
ถ้าไม่มี ซี. อี. โอ เรื่องยิ่งใหญ่โต เพราะกลายเป็นปัญหาของกรรมการทั้งคณะที่ว่า ทำไมคุณไม่หา ซี. อี. โอ ให้ทัน และเมื่อว่างตำแหน่งเพราะคุณๆ ช้าเอง คุณๆ นั่นแหละที่ต้อง 'เต้น' แทน ร่วมกับคนที่คุณตั้งให้ 'รักษาการ'
ทุกคนมีหน้าที่ ไม่มีตำแหน่งไหนที่ได้มาโดยไม่มีหน้าที่ที่มาพร้อมกัน
ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และอุบัติเหตุนานา ไม่รอถามหรอกว่า 'คุณพร้อมหรือยัง'
เรื่องนี้ยังไม่มีตอนจบ อยู่ที่ว่าตลาดทุนอย่างเป็นทางการที่อายุใกล้จะครึ่งศตวรรษแล้ว มีผู้ร่วมอยู่ในวงการที่โตพอจะมึคนคิดว่า 'ธุระมันใช่' มากพอหรือยัง