"...ห้ามไม่ให้ผู้ใดขายที่ขาด แก่คนนอกประเทศที่เข้ามาอยู่ยังไม่ถึงสิบปี แต่จะให้เช่านั้นได้ไม่ห้าม....อย่าให้ลอบขายด้วยโวหาร..... ว่าให้เช่าคือเอาเงินล่วงน่ามากกว่ากำหนดเช่าตามเดือนตามปี....แต่ว่าห้ามไม่ให้ฉ้อเบียดบังเอาที่แลเรือนแลสวนแลนาของผู้อื่นที่ไม่เป็นสิทธิแก่ตัวไปขายกับคนนอกประเทศให้เป็นความยุ่งยิ่งกันขึ้น....”
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ได้ออกประกาศกำหนดที่ให้ขายให้เช่าแก่คนนอกประเทศและประกาศฝรั่งทำหนังสือสัญญา (ประกาศปีมโรง นักษัตรอัฐศก)
ขออัญเชิญความบางตอนมา ดังนี้
“....พระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ทรงพระราชดำริหเห็นพร้อมกันกับความคิดท่านเสนาบดี ปรารถนาจะใคร่ทำนุบำรุงพระนครแลราษฎรให้มีทางที่ทำกิน แลค้าขายให้เจริญทรัพยสมบัติดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ครั้งนี้คนชาติที่มีผิวขาวที่เรียกว่าฝารั่งนอกเข้ามาสัญญาว่า จะขอมาซื้อที่อยู่ตั้งทำมาหากินในพระอาณาจักรนี้ คล้ายกันกับจีนและชาวประเทศอื่น ซึ่งเข้ามาอยู่แต่ก่อน จึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดยอมให้พวกฝารั่งนอก ซื้อที่เช่าที่ในเขตรแขวงที่ไม่ใกล้นัก ไกลนัก แต่กรุงเทพมหานคร คือภายในพระนครแลห่างกำแพงพระนครออกไปเพียงสองร้อยเส้นเข้ามาโดยรอบในเขตรเท่านี้
ห้ามไม่ให้ผู้ใดขายที่ขาด แก่คนนอกประเทศที่เข้ามาอยู่ยังไม่ถึงสิบปี แต่จะให้เช่านั้นได้ไม่ห้าม....อย่าให้ลอบขายด้วยโวหาร..... ว่าให้เช่าคือเอาเงินล่วงน่ามากกว่ากำหนดเช่าตามเดือนตามปี....
แต่ว่าห้ามไม่ให้ฉ้อเบียดบังเอาที่แลเรือนแลสวนแลนาของผู้อื่นที่ไม่เป็นสิทธิแก่ตัวไปขายกับคนนอกประเทศให้เป็นความยุ่งยิ่งกันขึ้น....”
อีกฉบับหนึ่งชื่อว่า “ประกาศฝรั่งทำหนังสือสัญญา” ประกาศ ณ วันพฤหัส แรมค่ำหนื่ง เดือนเจ็ด ปีมโรง นักษัตรอัฐศก ฉบับนี้มีข้อความยาวมาก จึงขออัญเชิญมาเฉพาะข้อความที่เหมือนกับฉบับแรก มาดังนี้ ครับ
“....จึงทรงพระราชดำริหพร้อมกับความคิดท่านเสนาบดีจะยอมให้ฝรั่งเสศ อังกฤษอเมริกัน แลคนซึ่งขึ้นกับฝรั่งเสศอังกฤษอเมริกัน....ห้ามมิให้ที่มาใหม่อยู่ในประเทศนี้ยังไม่ถึงสิบปี ซื้อที่ขาดเป็นของตัว แต่จะเช่าอยู่นั้นได้....”
บันทึกท้ายเรื่อง
ก่อนอื่นกระผมขอบอกไว้แต่เบื้องต้นว่า ประกาศกำหนดที่ให้ขาย ให้เช่า แก่คนนอกประเทศ และประกาศฝรั่งทำหนังสือสัญญา มิใช่มีอยู่ตามเนื้อเรื่องที่กระผมนำมาแสดงไว้เท่านั้น ความจริงยังมีอยู่อีกเป็นอันมากในประกาศปีมโรงสองฉบับและฉบับอื่นๆ การที่นำมาเฉพาะบางตอน ก็เนื่องจากมีเนื้อที่จำกัด และต้องการให้ทราบประวัติศาสตร์ว่าประเทศสยามเคยมีพระเจ้าอยู่หัวพร้อมกันทั้งสองพระองค์ คือ พระบามสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและ พระบามสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังประจักษในฉบับแรก
ประกาศทั้งสองฉบับมีเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน ซึ่งท่านแต่ปางก่อนใช้คำว่า “สุขุมคัมภีรภาพ” จะแลเห็นถ้อยคำสำนวนเฉียบแหลมคมคายและเด็ดขาด ขึงในที่ควรขีง อ่อนโยนละมุนละไม ในที่ควรอ่อนโยนละมุนละไม มีความแจ่มชัด ในทุกถ้อยกระทงความ
อนึ่ง ถ้อยคำและตัวสะกดได้คงรักษาของเดิมไว้ทุกประการ
ขอให้ทุกท่านผู้ได้อ่านใคร่ครวญพิจารณาดูเอาเองเถิด....”
***********************
หมายเหตุ รายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวกับกฎหมายที่ดินนี้โปรดดูใน “รวมกฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน” อนุสรณ์ ในพิธีเปิดอาคารใหม่ในกรมที่ดิน ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๑๑