หมายเหตุ:นพ. รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นพ.ทรงคุณวุฒิและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 หัวข้อ “เราชนะ โควิด-19 ได้อย่างไร....ปิดหรือไม่ปิดประเทศ” โดยมีการขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก ผศ.ดร.นพ.พัฒนา เต็งอำนวย
ประเทศจีนกับประเทศทางตะวันตก ที่มีเสรีประชาธิปไตย จึงมีความแตกต่างกัน ไม่มั่นใจว่า การปิดเมือง จะทำได้จริงอย่างประเทศจีนหรือไม่ ในประเทศประชาธิปไตย และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะปิด เมืองหรือประเทศเป็นระยะเวลายาวนานการวางแผนของประเทศจึงต้องหาจุดสมดุลที่ดีที่สุด ในการต่อสู้ระยะยาว ด้วยกำลังทรัพยากรที่มีอยู่
"...เชื้อพวกนี้ไม่ได้ร้ายแรง แต่เมื่อไรที่จู่โจมคนที่มีโรคประจำตัว หรือผู้สูงอายุ ก็จะร้ายแรงทันที สังเกตได้ว่าที่ผ่านมา ยังไม่ค่อยพบประวัติผู้ติดเชื้อในเด็ก ดังนั้น คนที่มีอายุน้อยก็จะมีภูมิคุ้มกันทำให้ป่วยน้อย อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องช่วยกันดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวเป็นพิเศษ..."
ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าการจัดการโรค คือการจัดการความตื่นตระหนกของสาธารณชน ไทยเราก็ทำได้ดีพอสมควร ผมตีความว่า มีเป้าหมายยึดกุมสถานการณ์การระบาด ไม่ใช่ยุติการระบาด ซึ่งทำไม่ได้ และจะประสบความสำเร็จตามแนวทางนี้ต้องสื่อสารให้คนไทยรวมตัวกันต่อสู้ ไม่ใช่กล่าวโทษกันไปกันมา โดยตนเองไม่ทำอะไรที่เป็นมาตรการด้านบวก
นายกรัฐมนตรี ส่งสารถึงคนไทยสถานการณ์การระบาด COVID-19 ขออย่าได้ตื่นตระหนก มีสติ ระมัดระวัง รับผิดชอบรักษาสุขภาพตนเอง ผู้อื่น เชื่อผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี
หลังจากที่องค์การอนามัยโลก ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นการระบาดใหญ่ พลันที่มีสัญญาณเตือนออกมา ผู้นำหลายๆ ประเทศทั่วโลก ได้ออกมาแถลง พร้อมกับสื่อสารความจริงกับคนในประเทศ เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
งานสร้างสุขที่ปลายทางครั้งที่ 3 ชวนแพทย์ร่วมเล่าประสบการณ์ว่าครอบครัวควรทำอย่างไรเมื่อต้องดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ควรบอกความจริงหรือไม่ บอกข่าวร้ายอย่างไร ตัดสินใจแบบไหนดีในช่วงท้าย ร่างกายจะทรมานแค่ไหน ฯลฯ รวมถึงแนวทางในภาพใหญ่ที่ควรผลักดันระบบอาสาสมัครและให้ ‘ชุมชน’ มีส่วนร่วมในเรื่องนี้
‘สมศักดิ์’ สั่งผบ.เรือนจำ เช็คบัญชีประวัติผู้ต้องขังพ้นโทษ พฤติกรรมเลวร้าย ย้อนหลัง 5 ปี หวังติดตามอยู่พื้นที่ไหน ได้ป้องกัน ย้ำรวบรวมไม่ครบ มีหลุดไป คราวนี้เรากลายเป็นจำเลย
หมายเหตุ : วันที่ 27 ม.ค. 2563 นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงถึงสาเหตุไม่สั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมพวก รวม 4 คน ในคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ณ สำนักงานอัยการสูงสุด
กระแสกัญชาทางการแพทย์ ตลอดปี 2562 มีบรรยากาศทั้งฝุ่นตลบ น่าตื่นเต้น แต่ก็ยังลมเพลมพัด เรียกว่ามีบรรยากาศตื่นเต้น พีคสุดช่วงประกาศใช้พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 จากนั้นก็แผ่วๆ