แม้เส้นกราฟที่เห็น เราอาจดูสบายใจขึ้น ว่ามีแนวโน้มไม่สูง แต่ก็อาจขึ้นได้ จึงอยากชวนคนไทยทุกคน คือ วิธีการลดจำนวนคนไข้ลง โดยการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และโรคติดต่อจะไม่ติดต่อ หากเราไม่ติดต่อกัน ใช้เวลาอยู่นอกบ้านให้น้อยที่สุด เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
กรมวิทย์ฯ - อย. แจงสถานการณ์ไม่ปกติ ลัดขั้นตอนการประเมินชุด Rapid Test จาก 3 เดือน เหลือ 7 วัน ได้ใบอนุญาตนำเข้าแล้ว ยังติดตามผลต่อ ส่วนข่าวสเปนสั่งซื้อไปใช้แล้วเจอปัญหา ล่าสุดบริษัทที่ได้รับใบประเมิน ขอยกเลิกการนำเข้าแล้ว
ปัจจุบันมีคนจำนวนหนึ่งเข้ามาตรวจที่โรงพยาบาล ไม่ยอมบอกความจริง เป็นกลุ่มเสี่ยง ไปไหนมา อย่างน้อย ชุดทดสอบรวดเร็ว Rapid test ก็ช่วยป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ได้ระดับหนึ่ง
ปิดเมืองหรือไม่ ยัง ประชาชนยังสามารถเดินทางได้อยู่ แต่จะยุ่งยาก รัฐไม่สนับสนุนให้คนเดินทาง ฝ่ายความมั่นคงจะจัดตำรวจ ทหาร ตั้งด่านรอยต่อระหว่างจังหวัด ดู ยานพาหนะนั้น เว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 1 เมตรหรือไม่ ผู้โดยสารสวมหน้ากากผ้าหรือไม่ ตรวจวัดอุณหภูมิ มีการสังสรรค์บนรถหรือไม่
เเท็กทีมผู้เชี่ยวชาญเเพทย์-สาธารณสุข รับมือโควิด-19 'อนุทิน' ขอปชช.มั่นใจในทีมงาน ไม่ทำให้ผิดหวัง ย้ำให้คนไทยเว้นระยะห่างทางสังคม ปรับพฤติกรรมอยู่ร่วมกัน ป้องกันระบาด ด้าน 'นพ.ปิยะสกล' วอนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ จะคุมโรคสำเร็จ ทุกคนต้องช่วยกัน ขณะที่ผอ.รพ.ศิริราช เผยมาตรการครั้งนี้ไร้ช่องโหว่
หมายเหตุ:นพ. รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นพ.ทรงคุณวุฒิและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 หัวข้อ “เราชนะ โควิด-19 ได้อย่างไร....ปิดหรือไม่ปิดประเทศ” โดยมีการขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก ผศ.ดร.นพ.พัฒนา เต็งอำนวย
ประเทศจีนกับประเทศทางตะวันตก ที่มีเสรีประชาธิปไตย จึงมีความแตกต่างกัน ไม่มั่นใจว่า การปิดเมือง จะทำได้จริงอย่างประเทศจีนหรือไม่ ในประเทศประชาธิปไตย และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะปิด เมืองหรือประเทศเป็นระยะเวลายาวนานการวางแผนของประเทศจึงต้องหาจุดสมดุลที่ดีที่สุด ในการต่อสู้ระยะยาว ด้วยกำลังทรัพยากรที่มีอยู่
"...เชื้อพวกนี้ไม่ได้ร้ายแรง แต่เมื่อไรที่จู่โจมคนที่มีโรคประจำตัว หรือผู้สูงอายุ ก็จะร้ายแรงทันที สังเกตได้ว่าที่ผ่านมา ยังไม่ค่อยพบประวัติผู้ติดเชื้อในเด็ก ดังนั้น คนที่มีอายุน้อยก็จะมีภูมิคุ้มกันทำให้ป่วยน้อย อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องช่วยกันดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวเป็นพิเศษ..."
ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าการจัดการโรค คือการจัดการความตื่นตระหนกของสาธารณชน ไทยเราก็ทำได้ดีพอสมควร ผมตีความว่า มีเป้าหมายยึดกุมสถานการณ์การระบาด ไม่ใช่ยุติการระบาด ซึ่งทำไม่ได้ และจะประสบความสำเร็จตามแนวทางนี้ต้องสื่อสารให้คนไทยรวมตัวกันต่อสู้ ไม่ใช่กล่าวโทษกันไปกันมา โดยตนเองไม่ทำอะไรที่เป็นมาตรการด้านบวก
นายกรัฐมนตรี ส่งสารถึงคนไทยสถานการณ์การระบาด COVID-19 ขออย่าได้ตื่นตระหนก มีสติ ระมัดระวัง รับผิดชอบรักษาสุขภาพตนเอง ผู้อื่น เชื่อผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี