"ที่ผ่านมา ฮ่องกงมีประชาธิปไตย และมีเสรีภาพถือว่ามากที่สุดในโลก มีกฎหมายการปกครองตนเองที่ทันสมัย ดังนั้น 1 ประเทศ 2 ระบบ ต้องปฏิบัติตามไม่ควรถูกทำลายลง หรือท้าทายอำนาจรัฐส่วนกลาง วันนี้เราไม่อนุญาตให้ใครมาก้าวก่ายหรือแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกง เราจะไม่ปล่อยให้สถานการณ์ที่ฮ่องกงเลวร้ายลงไปกว่านี้"
วันที่ 27 กันยายน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยสถานีวิทยุ FM 100.5 MCOT News Network ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน จัดเวทีเสวนาหัวข้อ "ฮ่องกงวันนี้และอนาคต" ณ บมจ.อสมท
นายหยาง ซิน อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ปาฐกถาพิเศษ "อนาคตของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง" ตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ที่ฮ่องได้รับความสนใจจากคนไทยมากมาย โดยต้นตอของปัญหานั้นเกิดมาจากวัยรุ่นฮ่องกงที่ไปเที่ยวไต้หวันกับแฟน แล้วฆ่าแฟน หนีกลับมาที่ฮ่องกง ซึ่งในประเด็นการกระทำความผิดเกิดที่ไต้หวัน ศาลฮ่องกงไม่มีเขตอำนาจพิจารณา เพราะฮ่องกงไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไต้หวันและจีน ในระบบกฎหมายฮ่องกง ดังนั้น รัฐบาลฮ่องกงจึงได้เสนอให้มีการปรับแก้กฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นกรณีๆ ไป เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม
อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีการตกลงสนธิสัญญา ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับ 20 ประเทศ ขณะที่จีนมีกว่า 50 ฉบับ "คนฮ่องกงไม่เข้าใจระบบของกฎหมาย เขามีความกังวลตรงนี้ ประกอบกับมีการปล่อยข่าวลือ จึงนำมาสู่การเดินขบวนการประท้วงลุกลามบานปลายเกินขอบเขต ทั้งการปิดล้อมสนามบิน กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำลายสถานีรถไฟใต้ดิน และทำร้ายตำรวจ"
นายหยาง ซิน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีคนบางกลุ่ม เรียกร้องเอกราชให้กับฮ่องกง ซึ่งถือเป็นข้อเรียกร้องที่เกินขอบเขตการเป็น 1 ประเทศ 2 ระบบ ขณะเดียวกันชาติตะวันตกก็เข้ามาแทรกแซงและก้าวก่ายการเมืองภายในฮ่องกง สื่อตะวันตกเองก็รายงานสถานการณ์ไม่ตรงกับความจริง ส่งเสริมพวกหัวรุนแรง ทำให้วันนี้ฮ่องกงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากประชาคมโลก
"ปัจจุบันสถานการณ์ที่ฮ่องกงเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เราสามารถยุติความรุนแรงได้ คนฮ่องกงบางส่วนออกมาประณามการกระทำของผู้ก่อการร้าย ในส่วนของรัฐบาลฮ่องกงก็ได้ยกเลิกการพิจารณากฎหมายที่เป็นปัญหาไปแล้ว รวมถึงมีการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน ชีวิตความเป็นอยู่ และลดภาษี เป็นต้น"
สำหรับการชุมนุมประท้วงที่ผ่านมา นายหยาง ซิน ให้ข้อมูลว่า สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้กว่า 1,740 คน ในจำนวนนี้ 79 คน เป็นผู้ก่อการจราจล
ขณะที่จุดยืนต่อสถานการณ์ที่ฮ่องกงของรัฐบาลจีนนั้น นายหยาง ซิน กล่าวว่า ห้ามมีการก่อจราจล หรือใช้ความรุนแรง เราสนับสนุนให้ผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเข้มงวด รวมทั้งตำรวจ หน่วยงาน องค์กรตุลาการ ปราบปรามการใช้ความรุนแรง
"ที่ผ่านมา ฮ่องกงมีประชาธิปไตย และมีเสรีภาพถือว่ามากที่สุดในโลก มีกฎหมายการปกครองตนเองที่ทันสมัย ดังนั้น 1 ประเทศ 2 ระบบ ต้องปฏิบัติตามไม่ควรถูกทำลายลง หรือท้าทายอำนาจรัฐส่วนกลาง วันนี้เราไม่อนุญาตให้ใครมาก้าวก่ายหรือแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกง ซึ่งจะถือเป็นการทำลาย 1 ประเทศ 2 ระบบ อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของจีน เชื่อว่า ประชาชนจีนจะลุกขึ้นมาคัดค้านแน่นอน และเราจะไม่ปล่อยให้สถานการณ์ที่ฮ่องกงเลวร้ายลงไปกว่านี้"
อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า 1 ประเทศ 2 ระบบ ทำให้ฮ่องกงเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นศูนย์กลางการค้าขาย ศูนย์กลางการขนส่ง ฮ่องกงจึงเหมือนหลังพิงมาตุภูมิ มุ่งหน้าสู่โลก และเป็นจุดสำคัญ นโยบายOne Belt, One Road (OBOR)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร วิเคราะห์ 'ฮ่องกง' ทำไมต้องประท้วง
ขอบคุณภาพจาก:https://www.facebook.com/pg/news1005fm/photos/?ref=page_internal
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/