สภาโหวต ‘ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า’ ยืนคว่ำด้วยคะแนน 196 เสียง หลังวุ่นขอโหวตขานชื่อ ด้าน ‘ก้าวไกล’ ยันทำเต็มที่แล้วไม่เสียใจ เล็งบรรจุเป็นนโยบายหาเสียงรอบหน้า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 2 พ.ย. 2565 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ....หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เวลา 15.09 น. ได้เริ่มการลงคะแนนด้วยการขานชื่อเป็นรายบุคคล โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วย และยังมีส.ส.หลายคนที่ไม่มีการขานลงมติเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่งดออกเสียง อย่างไรก็ตาม มีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลบางคนที่โหวตเห็นด้วย เช่น นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ส.ส.ชุมพร พรรค ปชป. นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรค ปชป. นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรค ปชป. นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรค ปชป. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนากล้า นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ศท. นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร พรรค พปชร. เป็นต้น ขณะที่ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ต่างลงมติเห็นด้วยไปในทิศทางเดียวกัน
เมื่อขานชื่อลงคะแแนนเรียบร้อยแล้ว ส.ส.จำนวนมาก ประมาณ 30 คนที่มาโหวตลงคะแนนไม่ทัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้แย่งกันขานชื่อ จนเกิดความชุลมุนมั่วไปหมด ส.ส.บางคนขานชื่อตัวเองถึง 3 รอบ ทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ต้องบอกให้สมาชิกใจเย็นๆ เพราะเกรงว่ากรรมการ ที่ทำหน้าที่นับคะแนนจะจดผลคะแนนไม่ทัน และอาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกรรมการใช้เวลารวมคะแนนนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรค พท. ลุกขึ้นถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมใช้เวลานับคะแนนนานจนผิดสังเกตขนาดนี้ ทั้งที่มีคนนับถึง 6 คน นายสุชาติ จึงชี้แจงว่า ไม่ใช่หน้าที่ของประธาน ต้องถามกรรมการที่ได้รับมอบหมาย แต่สุดท้ายการนับคะแนนก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ จนนายสุชาติ ได้สอบถามกรรมการนับคะแนนว่านับคะแนนเสร็จเรียบร้อยหรือไม่ เพราะมีสมาชิกกระวนกระวายใจ และย้ำว่าอยากให้ทำให้ละเอียดจะได้ไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ ระหว่างรอคะแนน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ได้แจ้งงว่าทางพรรค ก.ก. ได้ย้อนดูเทปในช่วงการขานชื่อลงคะแนน พบว่ามีสมาชิกหมาย 225 และหมายเลข 255 โหวต 2 ครั้ง ทำให้นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงว่า หมายเลขของตนคือ 255 แต่นายธีรัจชัย แย้งว่า ผู้ที่ขานหมายเลข 255 เป็นผู้ชาย
โดยนายสุชาติ ยืนยันว่า อำนาจการนับคะแนนอยู่ที่กรรมการที่ตั้งขึ้น ทำให้น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. หนึ่งในกรรมาการนับคะแนน แจ้งว่าขอให้วางใจการทำหน้าที่นับคะแนน เพราะกรรมการประกอบด้วยฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล จึงจะทำหน้าที่ด้วยความรอบคอบ แต่นายธีรัจชัย ยังคงข้องใจการลงคะแนนของหมายเลย 225 และหมายเลข 255 ทำให้นายสุชาติ ชี้แจงว่า ถ้ามีใครมีหลักฐานว่าขานชื่อซ้ำโดยทุจริต ก็ไม่ต่างจากการกดบัตรแทนกัน มีสิทธิที่จะไปฟ้องต่อได้
กระทั่งเวลา 17.15 น. ภายหลังการนับคะแนนเรียบร้อยแล้ว นายสุชาติ ได้ประกาศผลการลงมติ ปรากฏว่าที่ประชุมยังคงโหวตไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15 ถือว่าที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับ ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต
@ก้าวไกล ไม่เสียใจ เล็งบรรจุเป็นนโยบายหาเสียง
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. แถลงข่าวหลังสภามีมติคว่ำร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ฉบับที่.. พ.ศ. … หรือพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า
โดยนายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวมีกำลังใจดีไม่เสียใจเลย เพราะเราเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกลก็ควรที่จะภูมิใจกับผลงานของเขา และควรที่จะยิ้มสู้อยู่ คนที่ร้องไห้ได้คนเดียวคือ นายเท่าพิภพ ก็คงจะต้องใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณเพื่อนส.ส. และขอบคุณประชาชนที่คอยให้การสนับสนุนร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า มาโดยตลอด แม้วันนี้เราจะยังไม่สามารถปลดล็อกความเลื่อมล้ำ แต่ตนเชื่อว่ายังสามารถปักหมุดได้ในระดับหนึ่ง ในการเป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกลตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ถ้าครั้งนี้ส.ส.ยังไม่สามารถโหวตและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในรัฐสภา ก็เหมือนกับเป็นการปิดประตูไปบานหนึ่งและเราต้องเปิดประตูบานใหม่ คือการเลือกตั้งที่จะถึง
"แน่นอนว่านโยบายสุราก้าวหน้าจะเป็นนโยบายที่เป็นเรือธงของพรคคก้าวไกล ซึ่งหากประชาชนชอบนโยบายนี้ก็ขอให้เลือกพรรคที่สนับสนุนเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และการทลายกลุ่มทุนผูกขาด และในที่สุดก็จะไปปรับปรุงเค้าโครงด้านเศรษฐกิจใหม่ เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการไทย และเกษตรกรไทยไปสู่เวทีโลกได้ ฉะนั้นขอยืนยันว่าเราเสียดายแต่ไม่เสียใจ ยังเข้มเเข็งและพร้อมที่จะทำงานต่อเพื่อประชาชนให้มากขึ้น" นายพิธา กล่าว
ด้านนายเท่าพิภพ กล่าวว่า มันยากที่คนธรรมดาทำอะไรและจะมาไกลได้ขนาดนี้ ตนไม่เคยเชื่อในความมหัศจรรย์และปาฏิหาริย์เท่าไหร่ แต่วันนี้ก็ก็หวังลึกๆตั้งแต่ออกจากบ้านว่า จะมีเรื่องมหัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์อะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไร ตนคิดเสมอว่าเรามาไกลขึ้น และวันนี้ซึ่งเป็นวันที่เรารอมา 6 ปี ก็ได้รู้อะไรบางอย่าง ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ตลอดช่วงเวลาที่ทำการเมืองมา เราอาจจะเสียร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ที่ไม่ผ่านไป แต่ตนเชื่อว่าสิ่งที่ได้มาในใจคือความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้น และประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มา จากการทำกฎหมายฉบับนี้ ก็ต้องขออภัยกับทุกคนที่อยู่นอกสภาและได้ฝากความหวังไว้กับตน ซึ่งจะขอโทษด้วยตัวเอง
"เขาได้หวังว่าผมจะมาเป็นตัวแทน และแก้ไขกฎหมายและก็ต้องกราบขออภัยที่ผมทำไม่สำเร็จ แม้จะเป็นตัวเลขเพียง 2 คะแนน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างแพ้ก็คือแพ้ แต่การแพ้แบบนี้มันคือความเจ็บปวด ผมก็อยากจะรับไว้เอง ยิ่งใกล้มันยิ่งเจ็บ ฉะนั้นก็ไม่เป็นไรขอเศร้าแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวจะกลับไปทบทวนตัวเอง ว่าเราได้ทำอะไรไม่เต็มที่ และจะพยายามร่างกฎกระทรวงที่เป็นของพรรคก้าวไกล ที่เราอยากเห็นว่ากฎกระทรวงมันควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งผมยอมรับว่าเสียเหลี่ยมทางการเมืองผู้เฒ่าในทำเนียบ ถ้าเรามีกฎกระทรวงที่อยากให้แก่ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ออกกฎกระทรวงเช่นนี้มา
ฉะนั้นผมจะร่างเตรียมไว้เลย และจะเริ่มเคมเปญตั้งแต่เสร็จ และวันนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าทำไมต้องเลือกก้าวไกล ซึ่งทางการเลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราก็แก้ได้ภายใน 2-3 วัน ผมจึงมีความหวังว่าสุดท้ายก็ต้องไปทางนั้น และเชื่อว่าไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าผมจะได้รับเลือกหรือไม่ได้รับเลือกให้เป็นส.ส. แต่ก็จะมีเพื่อนๆ ก็จะมีอุดมการณ์ที่จะมาผลักดันเช่นกัน ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นส.ส. แต่สำหรับที่คนในพรรคมีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อประชาชน ทุกคนอยากใช้คำว่าผู้แทนราษฎรได้เต็มปาก จริงๆเราไม่ได้เสียใจที่ไม่ผ่าน แต่เรารู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว" นานเท่าพิภพ กล่าว
ทั้งนี้หลังจากนายเท่าพิภพพูดจบ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ตบเบาๆที่แขนของนายเท่าพิภพ และกล่าวว่า ไม่เป็นไรทำเต็มที่แล้ว
เมื่อถามว่า หลังการลงมติได้ตั้งข้อสังเกตถึงเสียงของพรรคฝ่ายค้านที่หายไปหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่พวกเราก็ทำเต็มที่แล้ว จากนั้นนายเท่าพิภพได้กล่าวแซวผู้สื่อข่าวว่า ทำไมวันนี้ดูเศร้าๆจัง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ช่วงบ่าย ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในวาระการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในการลงมติวาระที่ 3 ทั้งร่าง ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม มีผู้แสดงตน 348 คน ลงมติ 345 คน เห็นชอบ 173 คน ไม่เห็นชอบ 177 คน งดออกเสียง 11 คน และไม่ลงคะแนน 4 คน
หลังจากนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นขอประธานชะลอการพิจารณาสักครู่ เนื่องจากคะแนนไม่เห็นชอบและเห็นชอบห่างกันเพียง 25 คะแนน อาจจะมีผลในการนับคะแนนใหม่ และขอให้ลงมติแบบขานชื่อใหม่ โดยขอใช้สิทธิตามข้อบังคับที่ 85 ซึ่งนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้คัดค้านการขอลงคะแนนใหม่ ขอให้ยึดตามมติเดิม ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวสนับสนุนข้อเสนอของนายณัฐพงษ์ที่ให้ลงคะแนนแบบขานชื่อใหม่ โดยนายสุชาติวินิจฉัยให้นับคะแนนใหม่โดยขานชื่อรายบุคคลในที่สุด แต่เกิดความวุ่นวายโดยการประท้วงเป็นระยะจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล
สุดท้ายเมื่อนับองค์ประชุมเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า มีองค์ประชุม 257 ครบองค์ประชุม จากนั้นเป็นช่วงการขานชื่อเป็นรายบุคคล
อ่านประกอบ
- ก้าวแรก'สุราก้าวหน้า'ลดผูกขาด เพื่อคนตัวเล็ก ภารกิจวัดใจ ส.ส.-ส.ว.ผ่านสภาจบปีนี้
- ผ่านวาระแรก! มติ 178 ต่อ 137 เสียง สภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า
- ‘ก้าวไกล’ ขอ ส.ส.ทุกฝ่ายโหวตผ่าน ‘สุราก้าวหน้า’ ยุพรรคร่วมหนุน เก็บแต้มเป็นผลงานได้
- ครม.เคาะกฎกระทรวง ปลดขั้นต่ำผลิต ‘สุรา’ ‘ก้าวไกล’ มองเป็นเกมการเมือง