
IMF ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 68 โต 2.1% ส่วนปีหน้าโต 1.6% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง แนะทางการไทยใช้นโยบายการคลังแบบ ‘เฉพาะจุด-ระมัดระวัง’ ชี้ ‘นโยบายการเงิน’ อาจผ่อนคลายได้เพิ่มเติม
.........................................
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่สรุปผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 2568 ของคณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยมีเนื้อหาว่า ในโอกาสที่คณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจ ประจำปี 2568 (Article IV Consultation 2025) ระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-13 พ.ย.2568 นั้น Mr. Peter Breuer หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินฯ ได้สรุปผลการประเมินเบื้องต้น มีประเด็นสำคัญ ดังนี้
ในครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 3 ซึ่งดีกว่าที่ IMF ประเมินไว้ อย่างไรก็ดี คาดว่าในภาพรวมทั้งปี เศรษฐกิจจะขยายตัวชะลอลงเหลือร้อยละ 2.1 ในปี 2568 และร้อยละ 1.6 ในปี 2569 ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อ IMF คาดว่าจะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องและทยอยปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 1-3 ได้ภายในปี 2570 ทั้งนี้ ในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงด้านลบอยู่
ทั้งนี้ ภายใต้ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและขีดความสามารถของนโยบายที่จำกัด IMF แนะนำให้ทางการไทย ดำเนินนโยบายแบบผสมผสานอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งในช่วงที่หนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับสูง ทางการไทยควรใช้นโยบายการคลังแบบเฉพาะจุดและระมัดระวัง พร้อมกับมีแผนการเข้าสู่สมดุลการคลังระยะปานกลาง (medium-term consolidation strategy) ที่น่าเชื่อถือ
ส่วนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันยังเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และอาจผ่อนคลายได้เพิ่มเติมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงด้านอุปสงค์และเงินเฟ้อ
ขณะเดียวกัน ด้วยหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทางการไทยควรเร่งฟื้นฟูช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อ ผ่านมาตรการทางการเงินที่ช่วยลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้ เช่น มาตรการเฉพาะกิจล่าสุดในการช่วยเหลือลูกหนี้ เพื่อให้การส่งผ่านนโยบายการเงินมีประสิทธิผลต่อเนื่อง ในการนี้ ทางการไทยชี้แจงว่าได้มีการดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมาอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงวินัยทางการคลังและความยั่งยืนของการดำเนินนโยบาย
ที่ผ่านมา ทางการไทยได้ออกมาตรการและมีโครงการใหม่ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในหลายมิติ ซึ่ง IMF มองว่าควรต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่ไทยจะเติบโตในอัตราที่ต่ำลง และต้องทำควบคู่ไปกับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อเพิ่มผลิตภาพและยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วย
ทั้งนี้ ทางการไทยได้รับฟังและให้ความเห็นต่อผลการประเมินเบื้องต้นของ IMF แล้ว โดยเห็นสอดคล้องกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะความท้าทายในการดำเนินนโยบายที่ต้องรอบคอบและรัดกุม ภายใต้ขีดความสามารถทางนโยบายที่มีอยู่ และความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งความจำเป็นในการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
อ่านประกอบ :
เปิดรายงาน'IMF'แนะลด‘แจกเงิน’เปลี่ยนเป็นลงทุน-‘ธนาคารโลก’ชี้เท1.4 แสนล.กระตุ้นGDPแค่0.3%
IMF มองจีดีพีไทยปีหน้าโต 2.9% แนะ‘กนง.’ลดดบ.อีก 1 ครั้ง-‘ธปท.’ชี้เศรษฐกิจ ต.ค.67 ดีขึ้น
