‘ธปท.’ ยกระดับมาตรการจัดการ ‘บัญชีม้า’ แบ่งเป็น 5 เฉดสี หากติดกลุ่ม ‘ดำ-เทา-น้ำตาลเข้ม’ จะรับเงินโอนไม่ได้ นำร่องกลุ่ม ‘บัญชีม้าดำ-เทาเข้ม’ เริ่ม 31 ม.ค.นี้ ส่วน 'ม้าเทาอ่อน-น้ำตาลเข้ม' ดำเนินการภายใน มี.ค.68
...................................
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงาน ‘Media Briefing เรื่อง ธปท. ยกระดับมาตรการจัดการบัญชีม้าและผลักดันแนวทางการร่วมรับผิดชอบ’ ว่า ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงินมาอย่างต่อเนื่อง และมีการปรับเปลี่ยนมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา
โดยที่ผ่านมามีการดำเนินการสำคัญ อาทิ การกำกับดูแลให้สถาบันการเงินมีมาตรฐานการให้บริการ mobile banking ที่ปลอดภัยมากขึ้น เช่น การห้ามส่ง SMS ที่มีการแนบลิงก์ การกำหนดให้สแกนใบหน้าก่อนโอนเงิน และการยกระดับการจัดการบัญชีม้าจากระดับบัญชีเป็นระดับบุคคล รวมทั้งให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างธนาคาร ซึ่งช่วยให้บัญชีม้าถูกระงับเป็นจำนวนมากและเปิดใหม่ได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ดี รูปแบบและพฤติกรรมของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนไปต่อเนื่อง ทำให้ความเสียหายจากภัยทุจริตทางการเงินไม่ได้ลดลง ในครั้งนี้ ธปท. จึงยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน โดยเพิ่มความเข้มข้นในการจัดการกับบัญชีม้า คือ บัญชีม้าดำ และบัญชีม้าเทา และขยายผลการจัดการบัญชีต้องสงสัย หรือบัญชีม้าน้ำตาล เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันความเสี่ยงและแก้ปัญหาภัยทุจริตทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“เดิมเรามีเรื่องบัญชีม้าดำ บัญชีม้าเทา ถ้าคุณถูกแปะว่าเป็นม้าดำ ม้าเทา เงินจะออกบัญชีไม่ได้ คือ ถ้าเงินของลูกค้าหรือเหยื่อถูกส่งไปแล้ว อย่างน้อยออกไม่ได้ แต่คงไม่ตอบโจทย์ของเหยื่อ เพราะเมื่อเงินออกไปแล้ว ก็จะถูกล็อกค้างในนั้น แต่ ณ สิ้นเดือน ม.ค.นี้ คือ วันที่ 31 ม.ค.2568 เป็นต้นไป ทุกธนาคารตกลงกันแล้วว่า ถ้าเป็นบัญชีม้าดำ และบัญชีม้าเทาเข้ม จะไม่มีการให้เงินเข้าไปในบัญชีเหล่านี้แล้ว ถ้าลูกค้าพยายามจะโอน ก็จะโอนแล้วเด้ง โอนไม่ได้” นางรุ่ง กล่าว
นางรุ่ง กล่าวว่า ธปท.ยังกำหนดมาตรฐาน mobile banking Security เพิ่มเติม โดยหากลูกค้าใช้โทรศัพท์มือถือที่มีระบบปฏิบัติการล้าสมัย จะต้องถูกกำหนดเพดานในการโอนเงิน และมีเพดานการโอนเงินต่ำกว่าลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือที่มีระบบปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน เนื่องโทรศัพท์มือถือมีระบบปฏิบัติการล้าสมัยดังกล่าว มีช่องโหว่ และอาจถูกมิจฉาชีพเข้าควบคุมโทรศัพท์มือถือได้ง่าย รวมทั้งให้ธนาคารมีระบบแจ้งเตือน การหน่วง และระงับการโอนเงินตามความเสี่ยง
นางรุ่ง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาพาณิชย์ เพื่อกำหนดแนวทางการร่วมรับผิดชอบและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น (Shared responsibility) จากภัยทุจริตทางการเงิน ที่มีมาตรฐาน เพื่อที่ว่าเมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับแก้ไขแล้ว จะสามารถดำเนินการออกประกาศแนวทางฯได้โดยเร็ว ไม่รอนาน
ด้าน น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. กล่าวว่า มาตรการยกระดับการจัดการบัญชีม้าเพิ่มเติม ประกอบด้วย
1.การกวาดล้างบัญชีม้าให้ได้มากขึ้น โดยปรับเงื่อนไขการเข้าข่ายเป็นบัญชีม้าให้เข้มขึ้น โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น พฤติกรรมการโอนของบัญชีม้า มูลค่าของธุรกรรม เป็นต้น และแบ่งบัญชีม้าเป็น 5 เฉดสี จากเดิม 3 เฉดสี ได้แก่ 1.บัญชีม้าดำ หรือกลุ่มที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประกาศชื่อ ซึ่งจะถูกระงับบัญชีทันที 2.บัญชีม้าเทาเข้ม หรือกลุ่มที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความแล้ว 3.บัญชีม้าเทาอ่อน หรือกลุ่มที่มีผู้เสียหาย แต่ยังไม่ได้แจ้งความ
4.บัญชีม้าน้ำตาลเข้ม หรือกลุ่มที่ยังไม่มีผู้เสียหาย แต่ธนาคารมั่นใจว่าเป็นบัญชีม้าและพอจะแจ้งตำรวจได้ และ5.บัญชีม้าน้ำตาลอ่อน หรือกลุ่มที่ยังไม่มีผู้เสียหาย แต่ธนาคารสงสัยว่าจะเป็นบัญชีม้า
“ถ้าเราระบุว่าคนนี้เป็นม้าเร็วเกินไป ก็อาจจะกระทบคนสุจริตเยอะ แต่หลังจากทำกันมา 6 เดือน แบงก์มีข้อมูลที่ดีพอและค่อนข้างมั่นใจว่า ถ้าเห็นพฤติกรรมแบบนี้ จะเป็นม้าเทาเข้ม ถ้าลงมาหน่อย คือ อยู่ในทอดที่ 2 ทอดที่ 3 อาจโดนเอาบัญชีมาใช้ ไม่ใช่ม้าจริงๆ แต่ถ้ามีพฤติกรรมว่า โอนเงินออกไปคริปโทฯ ก็จะบอกได้ว่า อันนี้เป็นม้าค่อนข้างแน่ และถ้าเป็นม้าค่อนข้างแน่ หรือมีความเสี่ยงสูง ก็จะถูกระงับบัญชี แต่ถ้าเป็นม้าเทาอ่อน ก็จะเรียกให้เข้ามายืนยันตัวตน
แล้วที่มากกว่านั้น คือ เดิมเรามีพูดถึงม้าน้ำตาล แต่ด้วยกลไกของกฎหมาย จึงยังไม่มีหลังพิงให้มีการแชร์ชื่อ เพราะยังไม่เกิดความเสียหาย ยังไม่มีคดี แต่ตอนนี้ มันมีพฤติกรรมบางอย่างที่มั่นใจพอสมควร และระบุได้ว่า เป็นม้าน้ำตาลได้ ซึ่งม้าน้ำตาลจะแบ่งเป็น 2 เฉดสี คือ ม้าน้ำตาลเข้ม ม้าน้ำตาลอ่อน ถ้าเป็นม้าน้ำตาลเข้ม แบงก์จะแจ้งตำรวจ เพื่อให้มีกลไกไปขยายผลไปทั้งระบบ ซึ่งการแบ่งเฉดสีมากขึ้นนี้ จะทำให้ช่วยเหยื่อและป้องกันได้เร็วขึ้น” น.ส.ดารณี ระบุ
2.การจัดการบัญชีม้าระดับบุคคลที่เข้มข้นขึ้น โดยธนาคารต้องขยายให้การระงับการโอนเงินออกจากบัญชีม้าและการปฏิเสธการเปิดบัญชีใหม่ ครอบคลุมไปถึงกรณีของบัญชีที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะเป็น บัญชีม้า แต่ยังไม่ถูกแจ้งความว่าทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมด้วย รวมทั้งธนาคารจะต้องกันเงินไม่ให้เข้าไปยังบัญชีของม้าทุกประเภทที่ระบุได้ชัดเจนว่ามีความเสี่ยงสูงภายในเดือน มี.ค.2568
นอกจากนี้ ธนาคารต้องแจ้งเตือนให้ผู้โอนรู้ตัวว่า อาจกำลังโอนเงินไปยังบัญชีม้า เพื่อป้องกันความเสียหายตั้งแต่ต้น และผู้ถูกหลอกไม่ต้องเสียเวลาในการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อรับเงินคืน
“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) ถ้าตอนนี้ใครเผลอไปโอนเงินเข้าบัญชีม้าที่มีการใช้มาแล้ว ทั้งม้าดำ และม้าเทาเข้ม ที่มีคนไปแจ้งความแล้ว ก็จะโอนเงินไม่เข้า หรือ ‘ปิดปากม้า’ แล้วจะมีการส่ง SMS แจ้งเตือนกลับมาที่ลูกค้าด้วยว่า คุณกำลังโอนเงินเข้าบัญชีต้องสงสัย ไม่ใช่แค่โอนแล้วไม่ผ่านเฉยๆ แต่จะมีการแจ้งด้วยว่าคุณกำลังโอนเงินเข้าบัญชีต้องสงสัย ซึ่งเราหวังว่าคำเตือนเหล่านี้จะกระตุ้นผู้โอนเงินว่า ธุรกรรมนี้เป็นธุรกรรมที่ทำกับคนที่ควรทำด้วยหรือไม่
ส่วนม้าเทาอ่อน และม้าน้ำตาลเข้ม ภายในเดือน มี.ค.2568 ก็จะมีการปิดปากม้าได้เหมือนกัน เพราะแม้ว่าจะมีมาตรการกันไม่ให้เงินออกจากบัญชีม้า แต่ดีที่สุดเลย คือ ไม่ตกเป็นเหยื่อ จึงเป็นการกันไว้ตั้งแต่ต้น ดังนั้น ถ้ามีการแชร์ชื่อม้าเทาอ่อนและม้าน้ำตาลเข้มมา ก็จะมีการกันเงินเข้า และภายในเดือน มี.ค.2568 ม้าทุกสีตั้งแต่ม้าน้ำตาลเข้มขึ้น จะต้องมีการกันเงินเข้า กันเงินออก และกันไม่ให้เปิดบัญชีใหม่
ขณะที่ม้าน้ำตาลอ่อน แม้ว่าเราจะบอกว่าให้การดำเนินการเป็นไปตามนโยบายบริหารความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร แต่ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างทำ คือ ม้าน้ำตาลอ่อน จะมีการแชร์ชื่อเหมือนกัน แต่ด้วยรูปแบบพฤติกรรมที่อาจยังไม่ใช่ม้ามากนัก ยังไม่มั่นใจมากนัก ก็จะมีมาตรการตามระดับความเสี่ยงตั้งแต่ระดับต่ำไปถึงระดับสูง คือ การเตือน การหน่วง และการระงับ ซึ่งเราเปิดช่องให้แต่ละแบงก์ดูพฤติกรรมของบัญชีนั้นๆว่าเป็นอย่างไร” น.ส.ดารณี กล่าว
น.ส.ดารณี ระบุว่า การดำเนินการแบ่งบัญชีม้าเป็น 5 เฉดสีดังกล่าว อาจทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบ แต่จะมีการกำหนดแนวทางเพื่อทำให้การปลดหรือการอายัดบัญชีม้าทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้สุจริต
นอกจากนี้ ธปท.จะเข้าไปดำเนินการกับบัญชีม้าที่เป็นนิติบุคคล โดยนิติบุคคลที่เป็นบัญชีม้าดำ คือ มีการแจ้งความแล้ว และ ปปง. ประกาศชื่อแล้ว รวมทั้งมีการกันไม่ให้เงินออกแล้ว ภายในเดือน ก.พ.2568 จะมีการกันไม่ให้นิติบุคคลเหล่านี้เปิดบัญชีใหม่ด้วย และไม่ใช่แค่กันไม่ให้นิติบุคคลเปิดบัญชีใหม่เท่านั้น แต่จะมีการดูด้วยว่า กรรมการที่เป็นผู้บริหาร มีชื่อติดอยู่ในม้าสีใดหรือไม่ หากมีชื่อติด ก็จะเปิดบัญชีใหม่ไม่ได้เช่นกัน หรือเปิดบัญชียากขึ้นและจำกัดการใช้
3.การขยายการจัดการในวงที่กว้างขึ้น โดยกำหนดให้ธนาคารต้องแลกเปลี่ยนรายชื่อบุคคล ที่ธนาคารตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัยระหว่างกันเพิ่มเติม แม้ยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ไปยังผู้เกี่ยวข้องอื่นๆได้ เช่น ผู้ประกอบการหรือผู้ดำเนินธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้ จากเดิมที่แลกเปลี่ยนกันเฉพาะรายชื่อบุคคลที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามฐานข้อมูล ปปง. และรายชื่อบุคคลที่ถูกแจ้งความหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินทุจริตเท่านั้น
นอกจากนี้ ธปท. ยังกำหนดให้ธนาคารต้องพัฒนาการจัดการบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงจากรูปแบบการหลอกลวงและพฤติกรรมของมิจฉาชีพในอนาคต เช่น การปรับปรุงเงื่อนไขการตรวจจับบัญชีม้าให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ การพัฒนาระบบการตรวจจับบัญชีม้าและพฤติกรรมผิดปกติของลูกค้า เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการได้อย่างเหมาะสมกับพฤติกรรมรายบุคคลอย่างรวดเร็ว
ตลอดจนร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้กำกับดูแลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ปิดช่องโหว่เส้นทางเงินของมิจฉาชีพ
น.ส.ดารณี กล่าวว่า ธปท.เห็นว่าการแก้ไขปัญหาภัยทุจริตทางการเงินให้ได้อย่างยั่งยืน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาคธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม (Telco) หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ในการรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเองตามขอบเขตมาตรฐานที่ผู้กำกับดูแลกำหนดไว้อย่างชัดเจน หากฝ่ายไหนละเลยการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด ควรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น (Shared responsibility)
โดย ธปท.จะประกาศกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบที่ธนาคารพึงปฏิบัติให้ชัดเจน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีร่วมกับผู้กำกับดูแลด้านอื่นๆ ต่อไป
“แบงก์ชาติให้ความเห็นต่อร่างแก้ไข พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่า การร่วมรับผิดชอบนั้น จะต้องรับผิดชอบทุกภาคส่วน ซึ่งต้องมีการกำหนดหน้าที่ ถ้าไม่ทำหน้าที่ ก็ต้องรับผิดชอบ” น.ส.ดารณี กล่าวและว่า ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างหารือกับผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถาบันการเงิน เพื่อกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบที่ธนาคารพึงปฏิบัติให้ชัดเจนกรณีเกิดความเสียหายจากภัยทุจริตทางการเงิน
อ่านประกอบ :
'แบงก์พาณิชย์'แลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามธนาคาร ระงับบัญชีม้าระดับ'บุคคล' 9 เดือน 1.5 หมื่นราย
‘ธปท.’ยกเครื่องอายัด‘บัญชีม้า’เป็นระดับ‘บุคคล’-เพิ่มทางเลือก‘ล็อควงเงิน’ห้ามทำธุรกรรมฯ
‘ธปท.’ออกมาตรการจัดการภัยการเงิน-โอนเงินผ่าน‘โมบายแบงก์กิ้ง’เกิน 5 หมื่น ต้องสแกนใบหน้า