ประชาชนลุกฮือประท้วง ย่านธุรกิจใจกลางเมืองซิดนีย์ เมลเบิร์น และบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เรียกร้องนายกฯ สก็อตต์ มอร์ริสัน ลาออก หลังทำงานผิดพลาด แก้สถานการณ์ไฟป่า-โลกร้อน ไม่ได้ผล
วันที่ 10 มกราคม 2563 เพจ Thaipress Australia และสื่อของออสเตรเลีย รายงานว่า มีนักเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลายพันคนได้รวมตัวกันในย่านธุรกิจใจกลางเมืองของซิดนีย์ เมลเบิร์น และบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เรียกร้องให้นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ลาออก เนื่องจากทำงานผิดพลาดโดยเฉพาะเรื่องไฟป่าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จนทำให้ไฟป่าลุกลามขนาดนี้
พร้อมกันนี้ มีการเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายค่าชดเชยให้กับนักดับเพลิงที่เสียชีวิต รวมถึงบ้านเรือนที่เสียหายจากไฟป่า และยุติการรับเงินสนับสนุนจากธุรกิจถ่านหินด้วย
สำหรับการประท้วงครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังประชาชนไม่พอใจการบริหารจัดการไฟป่า โดยผู้ชุมนุมหลายคน ระบุ เป็นการเข้าร่วมประท้วงครั้งแรก เนื่องจากพวกเขารู้สึกไม่พอใจ นายกฯ แก้ปัญหาไฟป่า และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศช่วงที่ผ่านมา “วิกฤตไฟป่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่มีใครปฏิเสธ แต่รัฐบาลก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น”
ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา รายงานสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย และ เซาท์ออสเตรเลีย ยังคงรุนแรง เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและกระแสลมแรง และอาจต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้ หน่วยงาน South Australia Country Fire Service (CFS) ได้ประกาศปิดสนามบินเมือง Kingscote เป็นการชั่วคราว และอพยพประชาชนออกจากสนามบินดังกล่าวไปยังศูนย์อพยพเมือง Kingscote และเมือง Penneshaw รวมทั้งปิดถนนเส้นทางออกจากเมือง Kingscote ภายหลังสถานการณ์ไฟป่าในเขต Kangaroo Island โดยเฉพาะบริเวณ Vivonne Bay, Seal Bay และ Cape Gantheaume ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น (emergency warning)
อย่างไรก็ดี หน่วยงาน CFS ยืนยันว่า ศูนย์อพยพเมือง Kingscote และเมือง Penneshaw ยังคงเป็นพื้นที่ปลอดภัยและขอให้ประชาชนพำนักในศูนย์ดังกล่าวไปก่อน
ขอบคุณภาพประกอบจาก:https://www.facebook.com/unistudentsforclimatejustice/