‘สันติ’ ไม่กลัวฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ปมท่อส่งน้ำอีอีซี เมินเอกชนจี้เซ็นสัญญา 17 มิ.ย. ถามกลับใครจะมาสั่งได้ ขณะที่ผลสอบเบื้องต้นไม่พบผิดปกติ เผย ‘อาคม’ สั่งสอบเพิ่มประเด็นความจุ-ปริมาณน้ำ 'วงษ์สยามฯ' ขอสงวนสิทธิดำเนินคดีหน่วยงานรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2565 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ว่า ขณะนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง สั่งให้ตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับปริมาณน้ำต่อปี และประเด็นเกี่ยวกับความจุน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการตรวจสอบในเบื้องต้น ไม่พบความผิดปกติ และโครงการมีความโปร่งใส
นายสันติ กล่าวยืนยันว่า ผลสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการระเบียบกฎหมาย ก็ยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้อง แต่ที่ให้สอบเพิ่มเติมนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการขอขยายเวลาการตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากเวลากระชั้นชิดทำให้ตรวจไม่ทัน ซึ่ง นายอาคม ให้ไปดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบท่อการส่งน้ำและปริมาณความจุเพิ่มเติม เพื่อให้มีความชัดเจนเกี่ยวปริมาณน้ำมีความลักลั่นอะไรหรือไม่ เพื่อให้ รมว.คลัง มีความมั่นใจ
เมื่อถามว่าการตรวจสอบที่ล่าช้าจะทำให้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลในครั้งที่สอง เกิดความเสียหายและฟ้องร้องต่อรัฐหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ทีโออาร์ระบุไว้แล้วว่าการก่อสร้างต้องรอบคอบ อีกทั้งฝ่ายค้านออกมาตีข่าวที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจึงต้องดูทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหาให้กระจ่าง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ประชาชนเข้าใจ ส่วนที่ฝ่ายค้านจะเอาเรื่องนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่าถ้าเราทำถูกต้องตามกฎระเบียบกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของรัฐ ก็ไม่กลัว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เตรียมทำหนังสือถึง กรมธนารักษ์ เพื่อขอนัดหมายลงนามในสัญญาโครงการภายในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ยังเป็นไปได้หรือไม่ นายสันติ ตอบว่า "ใครจะมาสั่งได้"
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ทำหนังสือถึง รมว.คลัง เรื่อง ขอนัดหมายเพื่อลงนามสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ขอนัดลงนามสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ภายในวันที่ 17 มิ.ย.2565 และขอให้แจ้งผลการพิจารณาให้บริษัทฯทราบภายในวันที่ 10 มิ.ย.นี้
“การประวิงเวลาในการปฏิบัติตามพันธะของรัฐที่มีต่อบริษัทฯ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ จนไม่อาจจะเยียวยาได้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีต่อหน่วยงานของรัฐพนักงานเจ้าหน้าที่และบุคคลผู้เกี่ยวข้องทั้งทางอาญาและทางแพ่งจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท” บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ระบุ
สำหรับหนังสือดังกล่าว ระบุว่า "ตามที่ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด (บริษัทฯ) ได้มีหนังสือชี้แจงความเสียหายอันเนื่องมาจากการทอดเวลาในการลงนามสัญญาซึ่งจะส่งผลให้กรมธนารักษ์ได้รับผลตอบแทนและส่วนแบ่งรายได้ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย (ที่กรมธนารักษ์กำหนดไว้ เดือนละ 41,092,029.66 บาท โดยแบ่ง เป็นค่าผลตอบแทนเดือนละ จำนวน 3,720,363 บาท ส่วนแบ่งรายได้เดือนละ จำนวน 37,371,666.66 บาท)
และบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีต่อหน่วยงานของรัฐ พนักงานเจ้าหน้าที่ และบุคคลผู้เกี่ยวข้องทั้งทางอาญาและทางแพ่งจนถึงที่สุด เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทฯ ประกอบกับ บริษัท ฯ ได้รับความเสียหายจากการเตรียมการ เพื่อดำเนินการ ซึ่งไม่เป็นไปตามแผนงานตามโครงการฯ ที่เสนอต่อกรมธนารักษ์ และผู้ใช้น้ำมีความสับสนในการเจรจากับบริษัทฯ ส่งผลให้ไม่สามารถเตรียมการรับน้ำได้ และอาจส่งผลกระทบให้ไม่สามารถส่งจ่ายน้ำได้อย่างต่อเนื่อง นั้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ได้รับสิทธิบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โดยได้รับความเห็นชอบจากมติคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ในการประชุม ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการคัดเลือกเอกชนเพื่อจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุที่มีราคาเกินห้าร้อยล้านบาท พ.ศ. 2564 ข้อ 29 กล่าวคือ
“ข้อ 29 เมื่อได้ผลการคัดเลือกเอกชนที่ผ่านการเจรจากับผู้ได้รับการคัดเลือกแล้ว ให้คณะกรรมการคัดเลือกรายงานการดำเนินการและผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาที่ผ่านการเจรจา กับผู้ได้รับการคัดเลือก และเงื่อนไขสำคัญของสัญญา ให้คณะกรรมการที่ราชพัสดุพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ในกรณีที่ร่างสัญญาที่ผ่านการเจรจากับผู้ได้รับการคัดเลือกตามวรรคหนึ่งมีสาระสาคัญแตกต่างไปจาก ร่างสัญญาที่สานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาแล้ว ให้ส่งร่างสัญญาดังกล่าวให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาก่อนที่จะเสนอคณะกรรมการที่ราชพัสดุพิจารณา
เมื่อคณะกรรมการที่ราชพัสดุให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ ลงนาม ในสัญญาต่อไป”
จากระเบียบข้างต้น บริษัทฯ เห็นว่า เมื่อกระบวนการเปิดประมูลโครงการดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนี้
1) บริษัทฯ เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือก
2) ร่างสัญญาของโครงการฯ ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว
3) คณะกรรมการที่ราชพัสดุให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกและร่างสัญญา
ดังนั้น กรมธนารักษ์ต้องเร่งดำเนินการลงนามสัญญาโดยเร็ว ประกอบกับศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวที่ บมจ. จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EAST WATER) ร้องขอ รวม 2 ครั้ง และมีคำสั่งไม่รับคำร้อง อีก 1 ครั้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของภาครัฐ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันชอบธรรมตามกฎหมายที่กรมธนารักษ์ต้องจัดให้มีการลงนามในสัญญา ในการนี้ บริษัทฯ จึงขอนัดลงนามสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ภายในวันที่ 17 มิถุนายน 2565
อนึ่ง การประวิงเวลาในการปฏิบัติตามพันธะของรัฐที่มีต่อบริษัทฯ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ จนไม่อาจจะเยียวยาได้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีต่อหน่วยงานของรัฐพนักงานเจ้าหน้าที่และบุคคลผู้เกี่ยวข้องทั้งทางอาญาและทางแพ่งจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัทฯ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการเร่งรัดลงนามสัญญาโดยด่วน ผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้บริษัทฯ ทราบภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2565 จักขอบพระคุณยิ่ง"
อ่านประกอบ :
‘ธนารักษ์’ขีดเส้นตาย‘อีสท์วอเตอร์’ส่งแผนคืน‘ทรัพย์สิน’ท่อส่งน้ำ EEC ภายใน 15 มิ.ย.นี้
‘วงษ์สยามฯ’ จี้ ‘รมว.คลัง’ เร่งรัดเซ็นสัญญาท่อน้ำ EEC ล่าช้ารัฐเสียหาย 41 ล./เดือน
‘ธนารักษ์’ส่งเอกสารให้ DSI สอบ‘อีสท์วอเตอร์’ ส่อเลี่ยงภาษี-ลักลอบเชื่อมท่อส่งน้ำ EEC
‘รมว.คลัง’ เซ็นคำสั่งตั้ง ‘วิจักษณ์’ นั่งประธานสอบข้อเท็จจริงฯ ประมูลท่อส่งน้ำ EEC
DSI สอบ‘อีสท์วอเตอร์’ส่อเลี่ยงภาษีท่อส่งน้ำ-‘ธนารักษ์’แจ้งความขัดขวางตรวจทรัพย์สิน
เงินหล่นหาย! โครงการประมูลระบบท่อส่งน้ำอีอีซี 2.5 หมื่นล้าน
อ้างโควิด! ‘อีสท์วอเตอร์’แจ้ง‘ธนารักษ์’ เลื่อนลงพื้นที่ตรวจท่อส่งน้ำ EEC ไม่มีกำหนด
ประภาศ คงเอียด : แจงยิบประมูล‘ท่อส่งน้ำ’ 2.5 หมื่นล. หลังเลื่อนเซ็นสัญญา‘วงษ์สยามฯ’
'บิ๊กตู่'สั่ง'คลัง'ตั้ง กก.ดูประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี ยังไม่เซ็นสัญญา รอผลสอบข้อเท็จจริง
ผู้ใหญ่ในรบ.โทรสั่ง! ‘ธนารักษ์’แจ้งเลื่อนเซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ EEC 2.5 หมื่นล. กะทันหัน
จ่ายก้อนแรก 743 ล้าน! 'ธนารักษ์'เรียก'วงษ์สยามฯ'เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำ'อีอีซี' 3 พ.ค.นี้