“ควิก บิ๊ก วิน” ของ ศอ.บต.เริ่มแล้ว ตามนโยบายของ ปิยะศิริ วัฒนวรางกูร เลขาธิการคนใหม่
โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วนที่สอดรับกับอายุรัฐบาลเสียงข้างน้อย 4 เดือน คือ ฟื้นเศรษฐกิจรากหญ้า และเร่งการศึกษาสร้างอาชีพ
เมื่อเร็วๆ นี้ ปิยะศิริ หรือ “เลขาฯบอย” ลงพื้นที่ลั่นฆ้องเปิด “มหกรรม THAI DEEP SOUTH CONNECT ของดีพื้นที่ วิถีพื้นถิ่นชายแดนใต้ ครั้งที่ 3” ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยก่อนเริ่มพิธีเปิด ได้มีการยืนสงบนิ่ง 93 วินาที เพื่อถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ปิยะศิริ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างทำพิธีเปิดงานว่า ศอ.บต.ยืนยันว่างานนี้ไม่ใช่เพียงแค่การ “จัดอีเวนต์” แต่คือความพยายามสร้าง “ตลาดชุมชนเชิงเศรษฐกิจ” ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้มอบคูหา หรือ “บูธ” ฟรีให้แก่ผู้ประกอบการกว่า 300 ราย พร้อมอัดฉีดโปรโมชั่นรวมมูลค่ากว่าแสนบาท เพื่อดึงนักท่องเที่ยวและกำลังซื้อจากประเทศมาเลเซียเข้าสู่พื้นที่อย่างเร่งด่วน
กลยุทธ์สำคัญของ ศอ.บต. คือเน้นการ “เปิดพื้นที่” ให้กับผู้ประกอบการใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 300 คูหา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ ซึ่งเป็นการลดภาระและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับประชาชนโดยตรง ทั้งยังสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มและเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางการค้าที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ผ่านสินค้าประเภท “ของดีพื้นที่ วิถีพื้นถิ่น”
และเพื่อสร้างความคึกคัก บวกกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในงาน ศอ.บต.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชั่นพิเศษ มูลค่ารวมกว่าแสนบาทตลอด 3 วัน อาทิ ช้อปดี มีคืน (จับรางวัลทุกวัน) เพียงซื้อสินค้าครบ 100 บาท ลุ้นรับเครื่องใช้ไฟฟ้ารวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท และสินค้า/คูปองแทนเงินสดอีกกว่า 30,000 บาท

TikTok Challenge: การแข่งขันทำคลิป Video Content ประชาสัมพันธ์งาน ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 10,000 บาท และยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การเช็คอินรับคูปองเงินสดสำหรับใช้จ่ายภายในงาน, กิจกรรมวงล้อลุ้นโชค และการแข่งขันกินเก่ง ชิงเงินรางวัล
หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด เลขาฯบอย ได้เดินช้อป ชิม และพูดคุยสอบถามความรู้สึกของผู้ค้าและประชาชนที่มาเที่ยวชมงานอย่างใกล้ชิด โดยได้กล่าวเน้นย้ำถึงเป้าหมายที่แท้จริงของการจัดงานว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคนที่มาเข้าร่วมงาน ไม่ใช่พิธีเปิด
“ผู้ประกอบการที่มา ไม่ได้เกิดจากการที่มาขายของแล้วไม่ต้องจ่ายตังค์ คือมาฟรี แต่สิ่งสำคัญ คือ เขาเห็นความมีชีวิต เพราะเป็นโอกาสยากมากเลยที่จะมีการจัดรวมแหล่งซื้อขายอะไรกันแบบนี้”

ปิยะศิริ เน้นถึงบทบาทหลักของหน่วยงานรัฐยุคใหม่ ว่าจะต้องเป็นผู้สร้างความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ไม่ใช่ทำเองทุกเรื่อง แต่ต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน โดยเฉพาะรากหญ้า โดยสร้างโอกาสให้เท่าเทียม ทั่วถึง ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ไม่ว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะเป็นอย่างไร แต่ประชาชนยังต้องซื้อ ต้องกิน ต้องจับจ่าย
นอกจากนั้น ยังมีกลยุทธ์ใช้จุดแข็งของพื้นที่เพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาสร้างความคักคักภายในประเทศ และในพื้นที่ด้วย
“เราเลือกพื้นที่เมืองชายแดน เนื่องจากว่าเป็นจุดผ่านเข้า-ออกของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย เราจำเป็นที่ต้องใช้กำลังซื้อของคนภายนอกด้วย แล้วเราคาดหวังว่าอาจจะมีความฟลุคหรือมหัศจรรย์ในการจับคู่ธุรกิจบ้าง อาจจะมีคำสั่งซื้อที่มากกว่าการซื้อปกติที่เราอุดหนุนกันเอง” เลขาฯบอย ระบุ
การจัดมหกรรม THAI DEEP SOUTH CONNECT ครั้งที่ 3 ที่เบตง จึงเป็นกลไกสำคัญที่ ศอ.บต. ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่เป้าหมาย และเปิดประตูการค้าชายแดนอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้จุดแข็งของพื้นที่เพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศมาหมุนเวียนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มั่นคง ยั่งยืนยิ่งกว่าเดิม
