
2 คนร้ายควบ จยย.ประกบยิง อส.นราธิวาส ใกล้มัสยิดบางปอ จนมอเตอร์ไซค์ล้มคว่ำ จากนั้นมือสังหารจอดรถ ลงไปหยิบปืนพกประจำกายที่เอวเหยื่อ แล้วกระหน่ำยิงซ้ำจนแน่ใจว่าเสียชีวิต ก่อนหลบหนีอย่างไร้ร่องรอย แถมนำปืนไปด้วย เจ้าหน้าที่ฟันธงฝีมือกลุ่มป่วนใต้ เหตุผู้ตายไร้ศัตรู เป็นเสาหลักครอบครัว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันเสาร์ที่ 25 ต.ค.68 พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกีึ่ยวข้อง เดินทางไปที่บริเวณหน้ามัสยิดดารุสาลาม (มัสยิดบางปอ) แยกทางเข้าบ้านตะเจะ หมู่ 11 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายยิง นายแวมาโซ แวกาเดร์ อายุ 37 ปี สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำอำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 จ.นราธิวาส จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.20 น.วันศุกร์ที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นจุดเกิดเหตุเอาไว้
เบื้องต้นบริเวณหน้ามัสยิด, แยกทางเข้าบ้านตะเจะ และบริเวณริมถนน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้า ขนาด 7.62 มม. ตกอยู่จำนวน 10 ปลอก และปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 15 ปลอก พร้อมกองเลือด นอกจากนั้นบริเวณใกล้ๆ กันยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CPX สีบรอนซ์ ป้ายทะเบียน 1 กย 694 นราธิวาส ซึ่งเป็นของ อส.ผู้ตาย และซองใส่กระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 ซอง ตกอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับศพของ อส.แวมาโซ เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ก่อนจะประสานญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาตามหลักอิสลาม โดยได้ฝังศพไว้ที่กุโบร์บ้านแคนา ท้องที่หมู่ 7 ต.บางปอ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของ อส.รายนี้

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายแวมาโซ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านตามลำพัง ในพื้นที่บ้านแคนา เพื่อเดินทางไปเข้าเวร เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามไล่หลังมา เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ขี่รถเข้าประชิด จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงใส่นายแวมาโซ กระสุนเจาะเข้าที่บริเวณลำตัว ศีรษะและหน้าอกจนพรุนไปทั้งร่าง ทำให้รถเสียหลักล้มคว่ำ
จากนั้นคนร้ายได้จอดรถ วิ่งไปหยิบอาวุธปืนพกของนายแวมาโซ ซึ่งเหน็บไว้ที่เอว แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงซ้ำใส่นายแวมาโซ เพื่อให้มั่นใจว่าเสียชีวิต เสร็จแล้วจึงได้นำอาวุธปืนพกกระบอกดังกล่าวไปด้วย โดยวิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ แล้วหลบหนีไป
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของสมาชิกแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เนื่องจากผู้เสียชีวิตไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร และเป็นเสาหลักของครอบครัว เพียงแต่มีอาชีพเป็น อส. ซึ่งฝ่ายของขบวนการแบ่งแยกดินแดนมองว่าเป็น “คนทำงานให้รัฐ”
