
ในคณะรัฐมนตรีชุด “4 เดือน” ที่นำโดยพรรคภูมิใจไทยนั้น มีรัฐมนตรีหน้าใหม่ “ป้ายแดง” หลายคน และเป็นคนรุ่นใหม่ด้วย ทว่าโดยมากมักเข้ารับตำแหน่งในฐานะ “ตัวแทนบ้านใหญ่”
แต่สำหรับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ชื่อ “อามินทร์ มะยูโซ๊ะ” ต้องบอกว่าเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ป้ายแดงที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ เพราะเป็น “สส.นราธิวาส” และเขาได้เป็นรัฐมนตรีโดยที่เพิ่งเป็น สส.เพียงแค่สมัยแรกเท่านั้น
“ทีมข่าวอิศรา” มีโอกาสได้สัมภาษณ์รัฐมนตรีช่วยฯ อามินทร์ มะยูโซ๊ะ ถึงเส้นทางการเมืองที่ผ่านมา นโยบายที่จะเร่งผลักดันในห้วงเวลาแค่ 4 เดือนของรัฐบาลเฉพาะกิจ และความคาดหวังทางการเมืองนับจากนี้
@@ รับแจ้งข่าวเป็นรัฐมนตรี ในวันที่ต้องเสียมารดา...

ทีมข่าวเดินทางไปสัมภาษณ์ รัฐมนตรีอามินทร์ ที่สำนักงานพรรคกล้าธรรม ในอำเภอสุไหงโก-ลก โดยเขาเปิดใจด้วยเรืองดราม่าในชีวิตจริงว่า ในวันที่ ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แจ้งข่าวดีให้เขาไปทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นวันที่เขาต้องสูญเสียมารดาผู้ให้กำเนิดไปพอดี จึงมีหลากหลายความรู้สึกปะปนกัน ทั้งดีใจ ตื้นตันใจ และเสียใจกับการจากไปของแม่
แต่ก็ได้บอกกับตัวเองว่าจะตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนโยบายของผู้กองธรรมนัส ที่บอกให้ตนดูแลคนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พี่น้องมุสลิมทั้งในพื้นที่ และทั่วประเทศไทย
“คำแรกที่ท่านธรรมนัสพูดกับผม ท่านบอกว่า เราไปดูแลพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นะ ไปดูแลพี่น้องมุสลิม ไปดูแลพี่น้องมุสลิมทั่วประเทศ บอกตรงๆ พี่น้องต่างศาสนิก (ร.อ.ธรรมนัส) พูดกับเราอย่างนี้ ถามว่าจะรู้สึกอย่างไร ภูมิใจไหม"
"ในวันที่ท่านพูดออกมา เป็นวันที่แม่ผมเสียชีวิต มันทั้งเสียใจและทั้งตื้นตันใจ...ผมจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด และก็จะให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องมุสลิมทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วก็ทั่วประเทศ ผมไม่ทำให้พี่น้องต้องอับอายขายหน้าอย่างแน่นอน ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการทำงาน"
@@ รับบัญชาตรงจากนายกฯ อนุทิน

นอกจากรับนโยบายสายตรงจากผู้กองธรรมนัสแล้ว อามินทร์ ยังเล่าให้ฟังถึงภารกิจเร่งด่วนที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล โดยตรงด้วย
“ท่านนายกฯให้ความสำคัญกับการบูรณาการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และปัญหายาเสพติด ผมได้รับโจทย์การทำงานโดยอาศัยความจริงใจและการบูรณาการร่วมกัน ท่านให้โจทย์มาว่า ลองไปดูว่าความสงบต้องทำอย่างไร ต้องบูรณาการร่วมกัน ต้องจริงใจต่อกัน”
“โจทย์สำคัญยังครอบคลุมถึงมิติทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ท่านนายกฯให้ไปดูความเป็นอยู่ของพี่น้อง ทั้งด้านการเกษตร เรื่องค่าครองชีพ ไปดูมาว่าเราทำอะไรได้บ้าง ก็เป็นโจทย์ใหญ่ของผม รวมถึงทุกๆ กระทรวงที่นายกฯมอบหมายมาให้”
@@ ปักธง “กล้าธรรม” หวังกวาดยกชายแดนใต้

หลังรับตำแหน่ง รัฐมนตรีอามินทร์ ก็ลุยงานทันที และกิจกรรมแรกคือการลงพื้นที่ตลาดกลางยางพาราจังหวัดยะลา โดยได้ประกาศผลักดันราคา “น้ำยางสด” ให้ขยับขึ้นไปแตะ 70 บาทต่อกิโลกรัม ภายในสิ้นปี
แน่นอนว่าเป้าหมายของรัฐมนตรีอามินทร์ และพรรคกล้าธรรม คือการปักธง สส.ในพื้นที่ชายแดนให้มากขึ้น ซึ่งจากผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 สามจังหวัดชายแดนภาคใต้แบ่งเป็น 13 เขตเลือกตั้ง มี สส.ได้ 13 คน แต่มีพรรคการเมืองได้ สส.กระจายกันไปถึง 5 พรรค ประกอบด้วย
พรรคประชาชาติ 7 คน
พรรคพลังประชารัฐ 3 คน ปัจจุบันย้ายมาพรรคกล้าธรรม 2 คน
พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรครวมไทยสร้างชาติอีกพรรคละ 1 คน

รัฐมนตรีอามินทร์ ตั้งเป้าสูงสุดเอาไว้ว่า จะปักธงพรรคกล้าธรรมให้ได้ทั้ง 13 เขต โดยมีพี่ชายของตน คือ “สส.บีลา” สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ เป็นผู้คัดเลือกตัวผู้สมัคร
“เรากำลังเฟ้นหาผู้สมัครที่มีคุณภาพดีที่สุด สามารถตอบโจทย์พี่น้องประชาชนในทุกๆ เขต เพราะหวังว่าจะได้ สส.มาทุกเขตในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าถามว่ามั่นใจหรือไม่ ก็บอกเลยว่าอยากได้ สส.ทั้งหมดแน่นอน"
@@ ติดร่างแหพื้นที่สีเทา ลั่นขอพิสูจน์ที่ผลงาน

อีกเรื่องหนึ่งที่คาใจคนพื้นที่ คือ การแพร่ระบาดของยาเสพติด และกลายเป็น “พื้นที่สีแดง” ถูกจับตาว่าเป็นแหล่งพักยา ก่อนส่งออกไปยังมาเลเซีย และประเทศที่สาม
ปัญหานี้ทำให้มาเลเซียสั่งปิดด่านและช่องทางธรรมชาติตลอดแนว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของพื้นที่ชายแดนใต้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะอำเภอท่องเที่ยวชายแดนอย่างสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่เลือกตั้งของรัฐมนตรีอามินทร์เองด้วย
เหตุนี้เจ้าตัวจึงยืนยันว่าจะเร่งผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และครบวงจร โดยเร็วที่สุด เพราะพื้นที่ชายแดนใต้เป็นจำเลยเรื่องยาเสพติดมานาน
“ถ้าถามว่าดีไหมที่มาเลเซียประกาศปิดด่านช่องทางธรรมชาติทั้งหมด รื้อด่านออกทั้งหมด อันนี้คือปัจจัยหลักที่เขาเองได้รับผลกระทบ เพราะว่าเขาได้รับข้อมูลมาว่ายาเสพติดทั้งหมดที่ออกไป ออกไปทางสุไหงโก-ลก ตากใบ ไปจากแว้ง ขณะที่ประเทศไทยก่อนหน้านี้ เราไม่ได้เน้นป้องกัน เราเน้นปราบปรามอย่างเดียว ถ้าเกิดว่าเราเน้นป้องกันตั้งแต่ต้นทาง เชื่อว่ายาเสพติดลดแน่นอน
“ผมเองก็ไม่ต่างจากพี่น้องสามจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่นี้ ต้องเผชิญกับการตกเป็นจำเลยสังคม จากกระแสข่าวและข้อครหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพียงเพราะเราอยู่ชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย เราทราบกันดีว่ายาเสพติดเหล่านี้ถูกส่งต่อออกไปยังประเทศที่สาม โดยผ่านพื้นที่ชายแดนบ้านเรา จริงๆ แล้วกลุ่มผู้ค้าเองมีน้อยมากที่เป็นคนไทย ส่วนใหญ่เป็นคนมาเลเซียที่ลักลอบเข้ามา แล้วก็พาออกไป”
“สำหรับตัวผม ยืนยันว่าการเข้ามาดำรงตำแหน่งในระดับสูงเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ฉะนั้นถ้าทำจริงอย่างที่สังคมบางส่วนกล่าวหา แน่นอน…ไม่สามารถมาเป็นรัฐมนตรีช่วยได้แน่นอน เพราะการตรวจสอบเข้มข้น กว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“ขอให้ทุกข้อสงสัยและข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ถูกพิสูจน์ด้วยความจริงและผลงานที่เป็นรูปธรรมที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่แน่นอน” อามินทร์ กล่าว
นี่คือแนวคิดและวิสัยทัศน์ของ รัฐมนตรีอามินทร์ สส.นราธิวาสสมัยแรกที่ได้สัมผัสเก้าอี้รัฐมนตรี และเป็น สส.นราธิวาส ที่ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีคนแรกในรอบ 28 ปี หลังจากคุณอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ แกนนำกลุ่มวาดะห์ เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาล พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อปี 2540 เลยทีเดียว
