
เจ้าหน้าที่บุกค้น 2 จุด 2 จังหวัด “ยะหริ่ง ปัตตานี - บาเจาะ นราธิวาส” คุมตัว 4 ผู้ต้องสงสัยส่งศูนย์ซักถามขยายผล คาดเอี่ยวคดีคนร้ายยิงชาวบ้านไทยพุทธ และ อส.ที่ไม้แก่น ปัตตานี ด้านตำรวจสืบสวนชายแดนใต้ออกประกาศเฝ้าระวังเข้มมอเตอร์ไซค์ 3 คันเสี่ยงสูงถูกดัดแปลงเป็น “จยย.บอมบ์”
เมื่อเวลา 04.00 น.วันศุกร์ที่ 15 ส.ค.68 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมจังหวัดปัตตานี สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้าน 2 หลังในพื้นที่ ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิง นายนิตย์ หมานแก้ว อายุ 32 ปี เสียชีวิตที่ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.68 ที่ผ่านมา
โดยที่บ้านหลังแรก มีเป้าหมายคือ นายอามีรูล (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผลการตรวจค้น พบตัวนายอามีรูล ซึ่งแสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน แต่จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ป้ายทะเบียนปัตตานี 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปตรวจสอบ
ส่วนบ้านหลังที่ 2 ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น มี น.ส.กนกวรรณ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นมารดาของนายอามีรูล แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ
หลังจากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอามีรูลไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.ยะหริ่ง และนำตัวส่งศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 (ฉก.ทพ.43) อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อสอบสวนขยายผล โดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึกต่อไป

ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมจังหวัดนราธิวาส ได้นำกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยมีเป้าหมายคือ นายอิบบูรอเฮง (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้ต้องสงสัยอีกรายที่มีความเชื่อมโยงกับคดียิง นายนิตย์ หมานแก้ว และยังเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียิงเจ้าหน้าที่ อส. เมื่อวันที่ 19 พ.ค.68 ที่ อ.ไม้แก่น เช่นกัน
จากการตรวจค้นบ้าน ปรากฏว่ามี นายมาโซร์ ตาเห ผู้ใหญ่บ้านนำตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 2 ราย ได้แก่ นายมะรอซารี (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี และ นายอาซมิง (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ป้ายทะเบียนนราธิวาส 1 คัน และโทรศัพท์มือถืออีก 3 เครื่อง เพื่อนำไปตรวจสอบ
หลังจากการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอิบบูรอเฮง, นายมะรอซารี และนายอาซมิง ไปจัดทำประวัติและตรวจร่างกาย จากนั้นควบคุมตัว นายอิบบูรอเฮง และ นายมะรอซารี ส่งศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 (ฉก.ทพ.43) จ.ปัตตานี ส่วนนายอาซมิง ถูกนำตัวส่งศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 (ฉก.ทพ.46) จ.นราธิวาส เพื่อซักถามขยายผลต่อไป
@@ เฝ้าระวังรถต้องสงสัย 3 คัน เสี่ยง “จยย.บอมบ์”

เมื่อเร็วๆนี้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (บก.สส.จชต.) ออกประกาศด่วนแจ้งเตือนทุกหน่วยงานให้เฝ้าระวังรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 3 คันที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกนำไปใช้เป็น "จยย.บอมบ์" หรือใช้ก่อเหตุรุนแรงในวันสำคัญเชิงสัญลักษณ์ และมีข้อมูลบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่จะเกิดเหตุร้ายในพื้นที่
ประกาศดังกล่าวระบุว่า จากการติดตามบุคคลเฝ้าระวังพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ โดยมีการตรวจพบถึง 63 ครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับรายงานข่าวของหน่วยงานด้านความมั่นคง และเหตุการณ์กล้องวงจรปิดถูกทำลายในหลายพื้นที่ก่อนหน้านี้
หน่วยงานความมั่นคงได้เน้นย้ำให้เพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้ คือ จ.นราธิวาส ที่ อ.บาเจาะ ส่วนใน จ.ปัตตานี มี อ.ไม้แก่น, อ.สายบุรี, อ.ปะนาเระ, อ.มายอ, ทุ่อ.งยางแดง, อ.ยะหริ่ง, อ.ยะรัง และ อ.เมืองปัตตานี
ทางตำรวจได้ระบุรายละเอียดของรถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คันที่เคยถูกใช้ก่อเหตุมาแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกนำกลับมาใช้ซ้ำ โดยอาจมีการดัดแปลงสีหรือสลับป้ายทะเบียน ดังนั้นจึงขอให้กำลังพลตรวจสอบที่หมายเลขตัวถัง และหมายเลขเครื่องยนต์เป็นหลัก เพื่อความแม่นยำ
รถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คัน ได้แก่

1. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ ป้ายทะเบียน ขขข 418 ปัตตานี สีเดิม แดง-ขาว แต่ถูกดัดแปลงเป็น น้ำเงิน-ขาว เคยถูกใช้ก่อเหตุลักทรัพย์ และใช้ก่อเหตุอื่นๆ มาแล้ว 3 ครั้งในพื้นที่ อ.สายบุรี

2. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ ป้ายทะเบียน 1กก 2210 นราธิวาส สีแดง เคยถูกใช้ก่อเหตุชิงทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้งในพื้นที่ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส

3. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 ป้ายทะเบียน กพว 195 ปัตตานี สีแดง เคยถูกใช้ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์เมื่อปี 2561 ป้ายทะเบียนถูกส่งคืนแล้ว แต่ตัวรถอาจถูกดัดแปลงนำไปใช้ก่อเหตุซ้ำเคย
