ไม่แผ่วป่วนใต้! กรรมการสิทธิฯทนไม่ไหว ออกแถลงการณ์ประณาม รับไม่ได้ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนไม่เว้นเดือนแห่งบุญ เร่งฝ่ายความมั่นคงนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหิดล วอนทุกฝ่ายลดความรุนแรง เคารพสิทธิในการมีสันติภาพ ด้านแกนนำกลุ่มด้วยใจ เผยเจ้าหน้าที่สตรีตกเป็นเป้า ฟางเส้นสุดท้ายทำลายหัวใจประชาชน
จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดติดรถยนต์เก๋งของ หมู่ใหญ่ (ม.ญ.) ซูรยานี ซีบะ เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำอำเภอกะพ้อ จ.ปัตตานี บนถนนสาย 4060 สายบุรี-รือเสาะ ท้องที่หมู่ 2 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 17 มี.ค.68 จนทำให้ ม.ญ.ซูรยานี และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย มีเด็กอายุแค่ 6 ขวบรวมอยู่ด้วย โดยนอกจากรถยนต์จะระเบิดแล้ว ยังเกิดเพลิงไหม้จนรถวอดเกือบทั้งคันนั้น
ล่าสุดวันอังคารที่ 18 มี.ค.68 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.68 ซึ่งเป็นเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ และเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิม ได้เกิดเหตุความรุนแรงหลายครั้งและต่อเนื่องกันในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งคาร์บอมบ์ วางระเบิด ลอบยิง ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสา รวมทั้งประชาชน รวมถึงเด็กและผู้หญิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรัพย์สินส่วนบุคคล อาคารราชการ และเส้นทางสัญจรสาธารณะได้รับความเสียหาย
กสม.ขอประณามการกระทำอันโหดร้ายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งมุ่งหมายให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนได้รับอันตรายต่อชีวิตและความเสียหายแก่ทรัพย์สิน และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งไปยังครอบครัวของเจ้าหน้าที่และประชาชนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ทั้งขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว พร้อมขอให้มีการเยียวยาความเสียหายอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
กสม. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินนโยบายสร้างสันติสุขอย่างมีประสิทธิผลในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และให้ทุกฝ่ายเคารพหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อร่วมกันสร้างสันติสุขในพื้นที่
@@ สถาบันสิทธิฯ มหิดล จี้เคารพสิทธิการมีสันติภาพ
วันเดียวกัน สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา และศูนย์สันติวิธีชายแดนใต้ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงรอมฏอน ปี 2568 ที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 2 มี.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการถือศีลอดจนถึงปัจจุบัน
เนื้อหาของแถลงการณ์ระบุว่า เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐบาลไทย หรือฝ่ายขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (บีอาร์เอ็น) หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และเคารพหลักการสิทธิในการมีสันติภาพ (Rights to Peace) ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองในการมีชีวิตที่ปราศจากความหวาดกลัวและภัยคุกคาม ทั้งนี้เพื่อให้พลเรือนทั้งมลายูมุสลิมและไทยพุทธสามารถปฏิบัติศาสนกิจ และดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย
เราเน้นย้ำว่ารัฐบาลต้องแสดงเจตจำนงทางการเมืองที่จริงจังในการเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติภาพ โดยเปิดพื้นที่ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม เคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาใช้แนวทางสันติวิธีและการเจรจา เพื่อสร้างจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นพื้นที่ที่ปราศจากความรุนแรง และขอให้เดือนรอมฎอนนี้เป็นเดือนแห่งการลดความรุนแรง และเป็นจุดเริ่มต้นของสันติภาพที่แท้จริง
@@ “อัญชนา” บอกใกล้เกินขีดที่จะยอมรับไหว
ด้าน น.ส.อัญชนา หีมมิหน๊ะ แกนนำกลุ่มด้วยใจ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์ระเบิดรถยนต์ของ อส.หญิง ประจำอำเภอกะพ้อ ระบุว่า การโจมตีที่มีแนวโน้มถี่ขึ้นทุกวัน รุนแรงมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นการโจมตีเจ้าหน้าที่ที่มีอาวุธ แต่ก็เป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุด เสี่ยงที่สุด คือ “ผู้หญิง”
คำถามคือ
1. การผลักผู้หญิงให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลรบมากขึ้น และกลุ่มพลเรือนที่ติดอาวุธ จะมีความเสี่ยงมากขึ้น
2 การป้องกันความรุนแรงเป็นจุดอ่อนของพื้นที่ในตอนนี้
3 ขบวนการติดอาวุธมีกี่กลุ่มที่ใช้ความรุนแรงได้อยู่ตอนนี้
“แต่เรามองว่า มันใกล้จะถึงจุดต่ำสุดที่ยอมรับได้ในการใช้ความรุนแรงแล้วนะ ประชาชนเริ่มโกรธมากขึ้นกับผลกระทบที่ได้รับ ความกลัวมากขึ้น ถ้าใครทำก็ต้องระบุแล้ว ถ้าใครไม่ทำก็ต้องรีบมาปฏิเสธ ไม่งั้นจะไม่มีความชอบธรรมใดๆ เหลืออยู่ในการต่อรองใดๆ คือเราปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ และทุกคนที่ทำ” อัญชนา ระบุ