“อนุทิน” ส่งรองอธิบดีกรมการปกครองลงพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์สั่ง “ผู้ว่าฯ ปลายขวาน” เร่งหาข้อบกพร่อง อุดช่องโหว่ดูแลพื้นที่ช่วงรอมฎอน พร้อมบูรณาการร่วมมือฝ่ายความมั่นคง เชื่อ “คนมหาดไทย” ทั้ง อส. ผู้ใหญ่บ้าน ตกเป็นเป้าหมาย คนร้ายจ้องเล่นงานให้ครบทั้ง 3 จังหวัด ด้านรอง ผบ.ตร.ประชุมสีกากี สั่งทำแผนป้องกันเมืองทั้งรับและรุก
เมื่อเวลา 13.30 น. วันจันทร์ที่ 10 มี.ค.68 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายดำรงศักดิ์ แก้วดวง ผู้อำนวยการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมด้วย นายอนิรุทร บัวอ่อน ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายซูปียัน แดเมาะเล็ง นายอำเภอสุไหงโก-ลก และปลัดอำเภอสุไหงโก-ลก ได้ร่วมประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ด้วย เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ทั้งนี้ หลังได้รับฟังการรายงานสถานการณ์เหตุคาร์บอมบ์ที่หน้าอาคารหอประชุมที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จาก ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสแล้ว นายอนุทินได้มอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด หาข้อบกพร่องเพื่อนำไปแก้ไข และกำชับให้หาวิธีดูแลพื้นที่ในช่วงเดือนรอมฎอนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะสังเกตได้ว่าเป้าหมายของคนร้ายจะเกี่ยวโยงกับคนของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าจะเป็น อส. (สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน) ผู้ใหญ่บ้าน บุคคลเหล่านี้เป็นบุคลากรของกระทรวงมหาดไทย ต้องมีการประชุมหารือไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยต้องมีการตรึงพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่มีความปลอดภัย
“ผมไม่ได้ใช้คำว่า ‘เชิงรุก’ ไม่ใด้ใช้คำว่า ‘ปราบปราม’ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของมหาดไทย จึงขอความร่วมมือบูรณาการกำลังฝ่ายความมั่นคง เพราะผมคิดว่าเป้าหมายของคนร้ายเขาจะเอาคนมหาดไทยให้ครบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งก็เกิดขึ้นครบแล้ว “ นายอนุทิน ระบุ
ด้าน นายวิรุฬห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ได้เสนอเร่งรัดอบรม อส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 500 นาย ให้เข้าอบรมฝึกฝนยุทธวิธีการต่อสู้การใช้อาวุธ รวมทั้งกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะสามารถนำความรู้ความสามารถไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 4 จะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้
@@ เยี่ยม อส.-ชาวบ้านบาดเจ็บ
หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายวิรุฬห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญและมอบกระเช้าดอกไม้ รวมทั้งเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งจากนายอนุทิน ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ อส.และประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ ซึ่งปัจจุบันยังคงนอนรักษาตัวอยู่ จำนวน 8 ราย คือ
1.นายสงกรานต์ ยูโซะ
2.อส.มัสลัน อารง
3.นางรัชนีวรรณ จุ้ยทอง
4.นายจิรภัทร อาแวสือแม
5.อส.แวซูลกีฟลี วาจิ
6.อส.เอก (อส.อ.) มะดารี ตาเยะ
7.นายหมู่ใหญ่ (ม.ญ.) ณรงค์ชัย รัดรึงสุนทรี
8.อส.อ.อภิชัย บุตตะจีน
โดยก่อนเดินทางกลับ นายวิรุฬห์ ได้เดินทางต่อไปยังวัดชลเฉลิมเขต เพื่อเคารพศพ อส.ทศพล ผายพิมพ์ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมได้พูดคุยกับ นางยุพิน ผายพิมพ์ มารดาของ อส.ทศพล และ น.ส.นฤมล ขานโบราณ ซึ่งเป็นภรรยา โดยได้สั่งกำชับผ่านปลัดจังหวัดนราธิวาสให้ดูแลครอบครัวของ อส.ทศพล เป็นกรณีพิเศษ พร้อมทั้งได้มอบเงินจากนายอนุทิน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวในเบื้องต้นด้วย
@@ รอง ผบ.ตร.สั่งเพิ่มมาตรการคุมเข้มเขตเมือง
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการประชุมติดตามคดีความมั่นคง ที่ห้องประชุมมิตรไมตรี กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมืองนราธิวาส โดยมี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยที่ประชุมได้ติดตามเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่ป้อมริมทางรถไฟ อำเภอเมืองยะลา, เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และเหตุคนร้ายโจมตีและวางระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่า รอง ผบ.ตร.ได้กำชับให้สืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด รวมถึงแนวทางการป้องกันการก่อเหตุ ทั้งรถที่นำมาประกอบระเบิด อุปกรณ์ต่างๆ จะมีแนวทางป้องกันในอนาคตอย่างไร โดยเฉพาะเมืองหลักที่เป็นเมืองเศรษฐกิจ ทั้งเมืองยะลา เมืองปัตตานี เมืองนราธิวาส เมืองเบตง (ยะลา) เมืองสุไหงโก-ลก (นราธิวาส) โดยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายต้องจัดทำแผนป้องกันเมือง ทั้งมาตรการเชิงรุกและมาตรการเชิงรับ เพื่อป้องกันการก่อเหตุ
@@ สงขลาเฝ้าระวัง 4 อำเภอรอยต่อชายแดนใต้ - เมืองหาดใหญ่
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เรียกประชุมด่วนนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ หลังเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากมีพื้นที่ 4 อำเภอของสงขลาอยู่ในพื้นที่สีแดง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเฝ้าระวังทุกจุด
นายโชตินรินทร์ กล่าวว่า ได้กำชับส่วนราชการและนายอำเภอทั้งหมดให้เฝ้าระวังทุกพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ทั้งหมด และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยกับประชาชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ อส. โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ อ.เมือง และ 4 อำเภอในพื้นที่สีแดง (จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี)
“ทางจังหวัดได้ทำงานร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สำคัญจังหวัดสงขลาเป็นเมืองแห่งการรักษาพยาบาล เราจึงได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกทั้งเรื่องสถานที่และอุปกรณ์ กรณีมีผู้บาดเจ็บต้องเคลื่อนย้ายมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในอำเภอหาดใหญ่ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงที” ผู้ว่าฯสงขลา ระบุ