การลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร แม้จะใช้เวลาเพียง 1 วัน คือ วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ.68 แต่ทุกสิ่งที่ได้ทำ เหมือนต้องการลบล้างภาพอดีต และเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการแก้ไขปัญหา
นอกจากเอ่ยขออภัยอย่างน้อย 2 ครั้งจากความผิดพลาดที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ตากใบ เมื่อเกือบ 21 ปีก่อน อดีตนายกฯยังได้เผชิญหน้ากับครอบครัวเหยื่อ จากเหตุการณ์สำคัญที่เป็นความรุนแรงที่มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมก่อ
นั่นก็คือเหตุการณ์กรือเซะ หรือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากถึง 108 ราย
อ่านประกอบ : ย้อนรอยกรือเซะ...ปะทะ11จุด-109ศพ-เยียวยา302ล้าน!
การพบหน้ากับทายาทเหยื่อเหตุการณ์กรือเซะ เกิดขึ้นที่ศูนย์การเรียนรู้ TK Park โดยอดีตนายกฯทักษิณ กำลังเดินพบปะผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชนที่มารอต้อนรับ จังหวัดนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้แนะนำ คอลีเยาะ หะหลี ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ไปรอต้อนรับ โดยบอกว่า หญิงคนนี้คือผู้สูญเสียจากเหตุการณ์กรือเซะ เพราะบิดาบังเกิดเกล้าเสียชีวิตจากการใช้อาวุธในบริเวณมัสยิด
“ทีมข่าวอิศรา” ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คอลีเยาะ เธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้พบกับอดีตนายกฯ
“ท่านทักษิณได้เดินเข้ามาหาฉัน พร้อมกล่าวคำว่าขอโทษ แล้วฉันก็บอกท่านทักษิณฯกลับไปว่า เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว”
คอลีเยาะ ยังบอกกับทีมข่าวว่า “ในฐานะผู้สูญเสียคนหนึ่ง ได้ยินท่านทักษิณพูดถึงกรณีตากใบ กรณีความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วท่านก็ขออภัยกับสิ่งที่เกิดข้อพิดพลาด คือคนอื่นเขาก็ขอโทษกัน ไม่ว่าจะเป็นท่านสุรยุทธ์ (พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ) และอีกหลายๆ ท่าน”
“วันนี้ได้เห็นท่านทักษิณมาเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วท่านก็ขอโทษขออภัย ซึ่งเราเองศาสนาอิสลามสอนให้ให้อภัย แล้วก็บอกท่านว่าพร้อมที่จะขออภัยทุกอย่าง แล้วมาเริ่มต้นใหม่ แก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น ให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข เกิดความสงบสุข มาช่วยกันพัฒนาบ้านเรา ซึ่งเราได้ฟังแล้วก็รู้สึกไม่มีอะไรติดค้าง”
คอลีเยาะ ยังบอกด้วยว่า “เราเห็นแววตาของท่านที่มารอบนี้ เราก็พยายามดูว่าท่านจะจริงใจไม่ ยอมรับว่าตอนแรกยังมีความรู้สึกเคืองๆ อยู่บ้าง แต่พอท่านมา ท่านบอกว่าท่านขออภัยและขอโทษ เราก็สบายใจ”