อดีตเลขาฯ ศอ.บต. โต้วาทกรรม “เหตุการณ์สงบ งบไม่มา” เผยเงินเสี่ยงภัยต้องมีต่อไปอย่างน้อยอีก 10 ปี แม้จะเกิดสันติสุขตามเป้าปี 70 ชี้เป็นเงินบำรุงขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมแก้ปัญหาและดับไฟใต้
นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมชาวปัตตานี อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้เข้าร่วม “งานวันครู จ.ปัตตานี” ในฐานะเจ้าของโครงการ “สรรเสริญครูอาชีพ ครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษาดีเด่นจังหวัดปัตตานี” โดยได้ร่วมมอบโล่เกียรติยศพร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท ให้กับครูดีเด่นจำนวน 3 ราย โดยมีคณะครูเข้ารวมงานกว่า 400 คน
นายภาณุ กล่าวตอนหนึ่งว่า เราคงเคยได้ยินได้ฟังมาในข้อกล่าวหาที่ว่า ถ้าเหตุการณ์สงบ งบประมาณจะถูกตัด หรือเงินเสี่ยงภัยของครูและเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่มี ขอย้ำถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่า ถ้าพี่น้องเหล่าเจ้าหน้าที่เราทำงานสำเร็จ คือเกิดสันติสุขตามเป้าหมายในปี 2570 ขอได้มั่นใจว่า “เงินเสี่ยงภัย” จะยังจำเป็นต้องมีอยู่ โดยเปลี่ยนเรียกเป็น “เงินบำรุงขวัญ - เงินเพิ่มพิเศษเฉพาะพื้นที่” ในจำนวนเท่าเดิมต่อไปอีก 2 ระยะตามแผนการพัฒนา คือ อย่างน้อย 10 ปี ด้วยเหตุผลว่า
1.เป็นเงินรางวัลพิเศษที่เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ได้ร่วมกันปฏิบัติงานพลิกฟื้นสันติสุขจากที่เป็นปัญหาก่อเหตุร้ายมาร่วมกว่า 20 ปี
2.ปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนาภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่คนยากจนเรื้อรัง อยู่ในลำดับต่ำ 10 ของประเทศไทยติดต่อมากว่า 10 ปี
3.ความเป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากวีถีชีวิตของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แตกต่างจากพื้นที่อื่น ทั้งประเทศ ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จะต้องทุ่มเทเสียสละมากกว่าพื้นที่ปกติ
นายภาณุ กล่าวอีกว่า ในประเด็นข้อกล่าวหาโดยรวมที่ว่า “ปัญหาจบ งบไม่มา” นั้น ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ เงินที่มากในพื้นที่นั้นคือ
“งบกำลังพลที่เพิ่มขึ้น” เพื่อใช้ดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน
“งบพัฒนา” ที่ใช้เยอะกว่าที่อื่นตามสภาวะปัญหาความเหลื่อมล้ำที่มากกว่าที่อื่น
และ “เงินเยียวยาผู้สูญเสีย” ทั้งตัวคนและทรัพย์สิน
ทั้งหมดนี้ ต้นเหตุเกิดจากการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ รัฐบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ทำพื้นที่ให้สงบปลอดภัย ดังนั้นฝ่ายผู้ก่อเหตุร้ายจึงต้องต่อสู้และสร้างกระแสต่อต้านบิดเบือนและการกล่าวหาให้ร้ายดังที่ว่ามานี้