เหตุการณ์ "มือมืด" ทุบทำลายพระพุทธรูป "พระพุทธเจ้าองค์ดำ" ภายในวัดวิมลวัฒนาราม อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แม้จะเป็นเรื่องเลวร้ายที่กระทบใจพุทธศาสนิกชน แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ทำให้มองเห็นประสบการณ์ของคนพุทธที่ชายแดนใต้ในการรับมือกับเรื่องราวที่อาจนำไปสู่การ "ตอกลิ่ม" ให้เกิดความขัดแย้งของคนต่างศาสนาได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้นที่ออกมาพยายามหน่วงกระแส ให้สังคมรอฟังผลการชันสูตรหาหลักฐานและจับกุมคนร้ายให้ได้เสียก่อน อย่าด่วนใช้ความรู้สึกตัดสิน แล้วมุ่งโจมตีหรือประณามอีกฝ่ายจนทำให้เกิดความเคียดแค้นชิงชัง แต่แกนนำเครือข่ายชาวพุทธ เรื่อยไปจนถึงชาวบ้านทั่วๆ ไป ก็ตั้งสติ หรือในทางพุทธเรียกว่า "เจริญสติ" กับเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างน่าชื่นชม
รักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประธานสภาประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นคนแรกๆ ที่ออกมากระตุกเตือน
"อยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อน อย่ารีบฟันธง รอตำรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนก่อน เราชอบตัดสินไปก่อนว่าการที่มีคนมาทุบองค์พระคือคนอีกศาสนา แต่ก็ขอประณามคนทำลายองค์พระครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม"
แม้ความรู้สึกลึกๆ ในใจของรักชาติ ไม่เชื่อว่าจะมีคนพุทธที่ไหนกล้าทำเรื่องแบบนี้ แต่ก็ย้ำอยู่ตลอดว่าไม่ควรด่วนสรุป เพราะอาจมีสาเหตุอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น
"คิดว่าคนพุทธ ถ้าไม่เพี้ยน ไม่เมา ไม่บ้า ไม่ขาดสติ ก็คงไม่ทำเรื่องแบบนี้ แต่ก็ยังอยากเตือนสติ ขออย่าไปฟันธงเกินไป เพราะพื้นที่บ้านเรามีความขัดแย้งอยู่ พอต่างศาสนานิก ต่างศาสนาโดนทำลายวัตถุที่เราเคารพบูชา เราก็จะโยนบาปไปให้ต่างศาสนาทันที่ โดยไม่ได้ดู ไม่ได้เห็นอะไร การคิดแบบนี้มันค่อนข้างอันตราย"
"เราก็ไม่รู้วัตถุประสงค์ของคนที่ทำ เขาทำเพราะคึกคะนอง หรือทำเพราะขาดสติ ทำเพื่ออะไรเราไม่รู้ แต่ถ้าเกิดมีการกระทำแบบนี้เพื่อจุดไฟ ก็สามารถจุดได้ง่าย เพราะฉะนั้นเราควรรอผลการพิสูจน์ก่อน เนื่องจากวัดก็อยู่ริมถนน ต้องมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้"
รักชาติ ยอมรับว่า วัดแห่งนี้และพื้นที่นี้เคยเป็นเป้าหมายของผู้ก่อเหตุรุนแรงมาก่อน จึงมีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง แต่เมื่อทุกอย่างยังไม่ชัดเจน ก็ไม่ควรด่วนสรุป และควรนำบทเรียนในอดีตมาใช้รับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน
"ในอดีตวัดแห่งนี้เคยมีพระถูกระเบิดมาแล้วขณะออกบิณฑบาต ทำให้เกิดคำถาม บางคนเขาก็ถามว่าวัดไม่มียามหรือ ก็ตอบไปว่าจริงๆ วัดไม่มียาม ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติ วัดไม่มียาม พอมีเหตุการณ์ความมั่นคง บางวัดจะใช้ชาวบ้านเฝ้า บางวัดก็จะใช้ทหาร ส่วนที่วัดนี้เราไม่แน่ใจ น่าจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามดูแลอยู่ แต่ก็ไม่มั่นใจ อย่างน้อยต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อความแน่ชัดอีกที"
รักชาติ ย้ำด้วยว่า พื้นที่ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี ปัจจุบันนับเป็นพื้นที่ที่มีบรรยากาศดีๆ มีความพยายามของคนในที่ต้องการจูนความสัมพันธ์ดีๆ ระหว่างคนต่างศาสนาให้กลับคืนมา จึงไม่อยากให้เรื่องนี้ทำลายสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ล้วนมีความรู้สึกไม่ต่างกัน คือเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ทุบทำลายพระพุทธรูป แต่ก็ยังมีสติ เพราะทุกคนมีบทเรียนที่เจ็บช้ำในอดีตมามากแล้ว
หญิงวัย 58 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับวัด บอกว่า รู้สึกใจสลาย เป็นเรื่องน่าเศร้าแบบไม่น่าเกิดขึ้นเลย ขอประกาศว่าเราไม่ยอมให้ใครมาทำลายพระพุทธรูป คนที่ทำไม่มีหัวใจ เรียกว่าโหดเกินมนุษย์ ขอให้เขาไม่ตายดี
ชายวัย 46 ปี ชาวบ้านในพื้นที่อีกราย บอกว่า ตกใจมาก เป็นอะไรที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คนไม่หวังดีเข้ามาทำลายเพื่อให้ คนสองศาสนาแตกแยก เราก็มีบทเรียนในอดีต จึงอยากให้ทุกคนใจเย็นๆ รอหลักฐานจากกล้องวงจรปิด มั่นใจว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ คืนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่อยู่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้พวกเราก็อยู่ อยากให้ทุกคนตั้งสติ เพราะถ้าเราใจร้อน อาจตกเป็นเครื่องมือของคนไม่ดีที่ต้องการทำลายพื้นที่นี้
"ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานเร็วๆ บางทีใจคนก็เย็นได้ไม่นาน ถ้าเจ้าหน้าที่เร่งพิสูจน์ได้เร็ว ญหาจะคลี่คลายลงเร็วเช่นกัน" ชายวัย 46 ปี กล่าว
นายมูฮัมหมัดมันโซ สาและ ชาวบ้าน อ.สายบุรี ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม กล่าวว่า เป็นข่าวที่น่ากลัวมากในรอบปี และไม่ควรเกิดขึ้นเลย ขอแสดงความเสียใจต่อพี่น้องพุทธจริงๆ และขอประณามคนที่ทำ เชื่อว่าคนที่ทำต้องไม่มีศาสนา และไม่มีอุดมการณ์
ขณะที่ นายโฮป อดีตแกนนำบีอาร์เอ็นที่พำนักอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อพี่น้องพุทธในพื้นที่อย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตนเองเชื่อว่าคนของบีอาร์เอ็นไม่ก่อเหตุในลักษณะนี้ ขอยืนยันเจตนารมณ์ของบีอาร์เอ็นว่าจะไม่ทำร้ายคนแก่ เด็ก ผู้หญิง คนที่อ่อนแอ ศาสนสถาน สิ่งที่เคารพบูชา รวมถึงต้นไม้
"ปัจจุบันกลุ่มคนก่อเหตุในพื้นที่มีหลายกลุ่ม มีหลายสี และมีหลายอุดมการณ์ มันยากที่จะแยกแยะออก ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ไม่สมควรเกิด ถ้าคนที่ทำมีสติดี ก็ขอประณามต่อการกระทำครั้งนี้"
-------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
มือมืดทุบพระพุทธรูปองค์ดำที่สายบุรี