จุฬาราชมนตรีแจ้งด่วนถึงทุกมัสยิดทั่วประเทศ เร่งตามนักเรียนจาก "มัรกัสยะลา" นำตัวเข้าตรวจโควิด หลังพบติดเชื้อ 48 รายกระจายในหลายจังหวัด แถมยังเป็นคลัสเตอร์สายพันธุ์แอฟริกา เตรียมสั่งกักตัว 21 วัน ขณะที่ ศบค.ยะลาสั่งงดละหมาดในมัสยิด-บาลาเซาะห์ บ้านลาเตาะ อ.กาบัง ด้านผู้ว่าฯปัตตานี สั่งตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีก 2 แห่ง ติดเชื้อพุ่ง 144 ราย ทำสะสมทะลุหลักพัน
วันเสาร์ที่ 19 มิ.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ "คลัสเตอร์มัรกัสยะลา" ที่มีเด็กนักเรียนติดเชื้อเดินทางกลับบ้านกระจายไปหลายจังหวัด
ล่าสุด "สำนักจุฬาราชมนตรี" ได้ออกหนังสือด่วน ลงนามโดย นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี แจ้งไปยังประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทุกมัสยิดในสังกัด ได้ดำเนินการสำรวจสัปปุรุษว่า มีนักเรียนที่เดินทางมาจากมัรกัสยะลาหรือไม่ หากมีให้รีบไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชนในเขตพื้นที่ เพื่อรีบไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลหรือจุดบริการในพื้นที่ต่างๆ โดยเร็ว
พร้อมให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข กักตัวเองที่บ้านหรือสถานที่ที่รัฐจัดให้ และขอให้บุคคลดังกล่าวและครอบครัวงดละหมาดที่มัสยิด ทั้งละหมาดญะมาอะห์ และละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) จนกว่าผลตรวจจะชี้ชัดว่า ไม่มีการติดเชื้อ
จากรายงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยยืนยันที่มีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมการรวมกลุ่มที่หมู่ 3 บ้านเปาะยานิ (มัรกัส) ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา (วันที่ 18 มิ.ย.64) มีจำนวนทั้งสิ้น 48 รายแล้ว กระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ ดังนี้ นราธิวาส 4 ราย, ปัตตานี 8 ราย, สงขลา 4 ราย, พัทลุง 3 ราย, สตูล 3 ราย, ตรัง 1 ราย, นครศรีธรรมราช 1 ราย, สุราษฎร์ธานี 8 ราย, กระบี่ 12 ราย, พังงา 3 ราย และภูเก็ต 1 ราย
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ยังมีอีก 17 จังหวัดที่มีนักเรียนกระจายอยู่ โดยจังหวัดที่ไกลที่สุดคือ จ.เชียงราย
สำหรับ "ศูนย์มัรกัสยะลา" หรือ ศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย มัสยิดอิล-นูร เป็นสถานที่เรียนรู้และเผยแผ่ศาสนาอิสลาม โดยก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนในศูนย์ดะวะห์ได้ปล่อยนักเรียนกลับบ้านในภูมิลำเนาของตนเอง ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัด ทา งศบค.จังหวัดยะลา จึงสั่งการให้แจ้งไปยังทาง ศปก.อำเภอของทุกจังหวัดภาคใต้ เร่งหานักเรียนจากศูนย์มัรกัสยะลาเพื่อนำมาตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่
@@ ผลตรวจคลัสเตอร์มัรกัสยะลา เป็นสายพันธุ์แอฟริกา
มีรายงานแจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "คลัสเตอร์มัรกัสยะลา" นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ทำหนังสือด่วนแจ้งไปยังนายอำเภอในพื้นที่ ให้เร่งขยายผลการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากคลัสเตอร์มัรกัสยะลา เนื่องจากผู้ตรวจราชการสาธารณสุข แจ้งว่า ผู้ป่วยจากมัรกัสยะลา ผลการตรวจเชื้อพบว่าเป็นสายพันธุ์แอฟริกา จึงต้องเร่งขยายผลหาผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูงให้หมดโดยเร็ว แล้วนำมากักตัวและอาจต้องขยายเวลากักตัวเป็นเวลา 21 วัน
โดยทางจังหวัดกระบี่พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในวงกว้าง จึงให้ค้นหาผู้ที่เดินทางไปจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้รีบเข้า Local Quarantine ให้หมดโดยเร่งด่วนและให้กักตัวไม่น้อยกว่า 14 วัน การปล่อยตัวผู้ถูกกักตัวกลับ จะต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อจนผลเป็นลบ
@@ ศบค.ยะลา สั่งงดละหมาดที่บ้านลาเตาะ กาบัง
ด้านศูนย์บริหารสถานการณฺโควิด-19 จังหวัดยะลา (ศบค.ยะลา) ได้มีประกาศคำสั่งที่ 102/ 2564 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่าด้วยการงดปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ในพื้นที่เสี่ยง (ฉบับที่ 15 ) กำหนดให้งดการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ ในพื้นที่หมู่ 5 กลุ่มบ้านลาเตาะ (บ้านย่อยลาแล) ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้ป่วยโควิด และเป็นพื้นที่เสี่ยงในการควบคุมการแพร่ระบาด
โดยให้งดการละหมาดญะมาอะห์ ละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะฮ์) ที่มัสยิดและบาลาเซาะห์เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.64 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย สำหรับการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะฮ์) ให้สัปปุรุษละหมาดดุฮ์ริ 4 รอกาอัตในที่พักอาศัยแทน เนื่องจากในสถานการณ์เกิดโรคระบาดร้ายแรง ถือเป็นอุปสรรคที่อนุโลมให้งดเว้นการละหมาดวันศุกร์นั้นได้
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษทั้งจำและปรับ
@@ ปัตตานีตั้ง "รพ.สนาม" เพิ่มอีก 2 แห่ง
ด้านสถานการณ์ที่ จ.ปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดปัตตานี ได้มีประกาศคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่(พิเศษ) ที่ 35/2564 เรื่องการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เนื่องจากจังหวัดปัตตานีมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มสูงขึ้น และพบผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่องทุกวัน จึงจำเป็นต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมขึ้น 2 แห่งดังนี้
1.อาคารอเนกประสงค์และโรงยิมเนเซียม ภายในสนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี
2.อาคารหอพักนักศึกษา 6 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
พร้อมทั้งให้โรงพยาบาลทุกแห่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบหมายให้ข้าราชการและบุคลากรในสังกัดเข้ามาปฏิบัติงาน ณ โรงพยาบาลสนามโดยสลับหมุนเวียนกัน เพื่อให้ระบบการรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด ทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการ
@@ กลุ่มเวสป้าจิตอาสาเบตง มอบของช่วยบ้านกำปงบารู
วันเดียวกัน กลุ่ม Betong Scooter Vespa Club นำโดย นายอดินันท์ มะลี ได้นำสมาชิกในกลุ่มขี่รถ Scooter Vespa คู่ใจ เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้ นายอัครเดช แตปูซู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เพื่อนำไปมอบต่อให้ชาวบ้านกำปงบารู หมู่ 2 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 34 คน จำนวน 24 ครัวเรือน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
โอกาสนี้ นายอัครเดช ได้กล่าวขอบคุณกลุ่ม Betong Scooter Vespa Club แทนชาวบ้าน และจะนำถุงยังชีพทั้งหมดไปมอบให้ชาวบ้าน ซึ่งแม้ว่าข้าวสารอาหารแห้งจะไม่มากมาย แต่ก็ช่วยในการหุงหาประทังชีวิตได้ในเบื้องต้น สะท้อนให้เห็นความเป็นจิตอาสาในจิตใจคนไทยที่ไม่ทิ้งกันในยามลำบาก
@@ โควิดปัตตานีพุ่ง 144 ราย ยอดสะสมทะลุพัน
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา ประจำวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 144 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,100 ราย รักษาหายแล้ว 390 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย
ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 54 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 67 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 96 ราย โรงพยาบาลสนามสี่ 230 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 20 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 10 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย โรงพยาบาลยะรัง 14 ราย โรงพยาบาลยะหริ่ง 1 ราย โรงพยาบาลไม้แก่น 7 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 18 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 188 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 2 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 391 ราย, อ.หนองจิก 215 ราย, อ.โคกโพธิ์ 20 ราย, อ.ยะหริ่ง 152 ราย, อ.สายบุรี 62 ราย, อ.ไม้แก่น 29 ราย, อ.แม่ลาน 15 ราย, อ.ยะรัง 88 ราย, อ.ปะนาเระ 42 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 8 ราย, อ.มายอ 26 ราย และ อ.กะพ้อ 41 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 42 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 742 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 376 ราย รักษาหายแล้ว 360 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 6 ราย อยู่ระหว่างรอผล 2,956 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 376 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 107 ราย โรงพยาบาลเบตง 52 ราย โรงพยาบาลรามัน 29 ราย โรงพยาบาลยะหา 48 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 25 ราย โรงพยาบาลธารโต 1 ราย และโรงพยาบาลสนาม 114 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 211 ราย, อ.กรงปินัง 70 ราย, อ.เบตง 73 ราย, อ.รามัน 65 ราย, อ.บันนังสตา 94 ราย, อ.กาบัง 19 ราย อ.ธารโต 125 ราย และ อ.ยะหา 85 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 46 ราย ในพื้นที่ อ.รือเสาะ 13 ราย อ.ศรีสาคร 10 ราย อ.เมือง 9 ราย อ.ตากใบ 7 ราย อ.จะแนะ 6 ราย และ อ.ยี่งอ 1 ราย มีผู้ป่วยสะสม 1,358 ราย รักษาหายแล้ว 1,106 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 3 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 547 ราย, อ.ระแงะ 48 ราย, อ.รือเสาะ 54 ราย, อ.บาเจาะ 128 ราย, อ.จะแนะ 48 ราย, อ.ยี่งอ 28 ราย, อ.ตากใบ 375 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 15 ราย, อ.สุไหงปาดี 49 ราย, อ.ศรีสาคร 22 ราย, อ.แว้ง 32 ราย, อ.สุคิริน 7 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 4 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 82 ราย แยกเป็นกลุ่มรอสอบสวนโรค 11 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 19 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงโรงเรียนสอนศาสนา จ.ยะลา 4 ราย และกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 48 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 3,153 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 3,130 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 933 ราย รักษาหายแล้ว 2,206 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 14 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 784 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,138 ราย, อ.เมืองสงขลา 495 ราย, อ.จะนะ 272 ราย, อ.สะเดา 231 ราย, อ.บางกล่ำ 120 ราย, อ.สิงหนคร 42 ราย, อ.รัตภูมิ 31 ราย, อ.เทพา 33 ราย, อ.สะบ้าย้อย 26 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 19 ราย, อ.สทิงพระ 17 ราย, อ.นาหม่อม 16 ราย, อ.นาทวี 11 ราย, อ.ระโนด 13 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 4 ราย, อ.ควนเนียง 2 ราย เป็นกรณีเรือนจำ จ.สงขลา 640 ราย เป็นเรือนจำกลาง 2 ราย เป็นกรณีทัณฑสถานหญิง จ.สงขลา 1 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 20 รายและจากต่างประเทศ 23 ราย