ผบ.ฉก.นราธิวาส นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดอุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการ หลังปะทะกลุ่มก่อเหตุรุนแรงบนเขาหลังหมู่บ้านกาแย อ.จะแนะ พร้อมสั่งกำลังชุดจรยุทธ์ไล่ล่ากดดันกลุ่มคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้เคลื่อนไหวในพื้นที่
วันพฤหัสบดีที่ 10 มิ.ย.64 พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.อ.จิรวัฒน์ จุฬากาญจน์ ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 49 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางขึ้นไปยังเทือกเขาหลังหมู่บ้านกาแย ม.5 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ปะทะกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มนายมูฮำหมัดซากีรีน สาแม ซึ่งเป็นแกนนำระดับสั่งการ เมื่อบ่ายวานนี้ ( 9 มิ.ย.) ที่ขนำหลังหนึ่งบนเทือกเขา พร้อมทั้งได้ตรวจยึดของกลางหลายรายการ
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเก็บวัตถุพยานรวมทั้งคราบลายนิ้วมือแฝงที่ติดอยู่กับของกลาง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยานยังสถานที่เกิดเหตุต่างๆ ว่า สมาชิกในกลุ่มคนร้ายมีใครบ้างและเคยนำระเบิดไปก่อเหตุพื้นที่ใดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำไปสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย
1.กระเป๋าเป้ จำนวน 3 ใบ
2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
3.ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์และระเบิดแสวงเครื่องแบบเหยียบ จำนวน 4 ลูก
4.ตัวจุดชนวนระเบิดแบบเหยียบ 2 ตัว
5.เชื้อปะทุและวงจรอีเล็กทรอนิกส์
6.เสื้อใส่ซองกระสุน 2 ตัว
7.ซองกระสุนพร้อมกระสุน ขนาด7.62 จำนวน 2 ซอง จำนวน 65 นัด
8.ซองกระสุนพร้อมกระสุน ขนาด 5.56 จำนวน 2 ซอง จำนวน 37 นัด
9.บัตรประจำตัวประชาชนของ นายกอเซ็ง บารอวา อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.5 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมายจับ
10.แผงโซลาร์เซลล์แบบพกพา 2 ชุด
นอกจากนี้ พล.ต.ไพศาล ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวความมั่นคง ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในทางลับที่บ้านพักของนายกอเซ็ง บารอวา ในพื้นที่ อ.รือเสาะ ตามที่อยู่ของบัตรประชาชนและพบว่า เจ้าตัวไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมานานแล้ว หลังจากที่ก่อเหตุคดีความมั่นคง นายกอเซ็ง จะมักจะเคลื่อนไหวแอบซ่อนตัวตามเทือกเขาในพื้นที่รอยต่อ อ.จะแนะกับระแงะ และเมื่อลงมือก่อเหตุครั้งใดจะแอบนำสมาชิกในกลุ่มมาพักอาศัยอยู่ตามบ้านของสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่ที่จะลงมือก่อเหตุ เพื่อดูลาดเลาการทำงานของเจ้าหน้าที่และเมื่อลงมือก่อเหตุแล้วเสร็จ ก็จะนำกำลังขึ้นหลบซ่อนตัวบนเทือกเขา
พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส เปิดเผยว่า การตรวจยึดระเบิดและอุปกรณ์ประกอบระเบิดหลายรายการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า สามารถยับยั้งเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ได้ในระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องส่งหน่วยจรยุทธ์ขึ้นไปกดดันกลุ่มผู้ไม่หวังดีอย่างต่อเนื่อง และต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้ากดดันภาคพื้นดิน ซึ่งเป็นบ้านพักต้องสงสัยของกลุ่มสมาชิกแนวร่วมในแต่ละพื้นที่ เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงสามารถที่จะติดต่อกับสมาชิกแนวร่วมได้สะดวก ทำให้เหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นก็ค่อยข้างยาก แถมยังเป็นการใช้จิตวิทยาให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่มีความไว้วางใจกับสมาชิกแนวร่วม ที่อาจจะแปรพักตร์ไปให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแบบถอนรากถอนโคน