ทุกครั้งที่บ้านเมืองต้องเผชิญกับวิกฤติ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติ กองทัพมักมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพราะมีกำลังพล อุปกรณ์ และเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมสรรพ
วิกฤติโรคระบาดหนนี้ก็เช่นกัน ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าได้สั่งการให้กำลังพลระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ
หนึ่งในนั้นคือ "โครงการทหารพันธุ์ดี" ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร จากครอบครัวและหน่วยทหาร ขยายฐานสู่ชุมชน
"โครงการทหารพันธุ์ดี" จัดตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยพระราชทานเมล็ดพันธุ์พืชผักแก่กำลังพลของกองทัพ พร้อมส่งเสริมให้มีความรู้ความสามารถในการปลูกผักปลอดภัย ได้มาตรฐาน เพื่อนำมาบริโภคและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน พร้อมช่วยเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ถือเป็นการน้อมนำศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะเป็นโครงการช่วยเหลือกำลังพลแล้ว ทางหน่วยยังได้ต่อยอดพัฒนา นำไปช่วยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกลด้วย ทั้งในแง่นำผลผลิตไปมอบ และการนำองค์ความรู้ไปเผยแพร่
ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด ผลผลิตจากโครงการทหารพันธุ์ดีจำนวนไม่น้อยได้ถูกส่งต่อถึงมือพี่น้องประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยประทังความเดือดร้อน
อย่างที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ลานหน้าโครงการทหารพันธุ์ดี กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 151 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่15 (ผบ.พล.ร.15) และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส (ผบ.ฉก.นราธิวาส) พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และกำลังพล ได้ร่วมกิจกรรม Army delivery บุกถึงบ้านส่งต่อความห่วงใย แจกจ่ายผลผลิตทางการเกษตร "โครงการทหารพันธุ์ดี" ถึงมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่
วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เป็นการปฏิบัติตามนโยบายข้อสั่งการของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4
พล.ต.ไพศาล ได้ปล่อยขบวนรถกว่า 20 คัน และนำผลผลิตทางการเกษตรจากโครงการทหารพันธุ์ดี ตลอดจนเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ห่างไกลพื้นที่เมือง และไม่สามารถเดินทางออกมารับความช่วยเหลือได้ ประกอบด้วย กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ พร้อมทั้งมอบหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ เพื่อใช้ในการป้องกันตนเองในแต่ละครัวเรือน ตลอดจนจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการพี่น้องประชาชนในพื้นที่บ้านปิเหล็ง หมู่ 6 และ หมู่ 7 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 340 ครัวเรือน
พร้อมกันนี้ยังได้แจกแผ่นพับเพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เรื่องของการฉีดวัคซีน และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างความรับรู้ ความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนอย่างถูกต้อง เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความเชื่อมั่น เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน ซึ่งจะช่วยให้ลดอาการรุนแรงของโรค และลดการเสียชีวิตได้
"เพราะทหารเป็นที่พึ่งของประชาชน พวกเราจะผ่านวิกฤติ covid-19 ไปด้วยกัน" พล.ต.ไพศาล กล่าว
โอกาสนี้ ผบ.พล.ร.15 พร้อมด้วย พ.ท.กฤตณ์พัทธ์ กรกัน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้ลงพื้นร่วมตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองโควิด19 บริเวณชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) เกาะสะท้อน หมู่ 1 บ้านปูยู ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมทั้งประชุมพบปะหารือกับผู้นำท้องถิ่น ปลัดประจำ ต.เกาะสะท้อน นายก อบต.เกาะสะท้อน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
ปัจจุบัน (ณ วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค.) ในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 40 ราย ทำให้ทางจังหวัดมีคำสั่งปิด ต.เกาะสะท้อน เนื่องจากเป็นสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ 1,832 ครัวเรือน จำนวน 10,307 คนได้รับความเดือดร้อน ทางหน่วยทหารในพื้นที่จึงได้เข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนของบริโภคอุปโภค พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนในด้านต่างๆ
ขณะเดียวกัน กำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้จัดกำลังพลลงพื้นที่เพื่อนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนดด้วย