สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยังคงมีรายงานผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา (29-30 เม.ย.64)
เนื่องจากปรากฏคลัสเตอร์ใหม่อีกแห่ง รอบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา ที่ร้าน “เฝออินเตอร์ สงขลา(วชิรา)” พบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นพนักงานของร้านจำนวนถึง 17 คน ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ต้องตามตรวจและกักตัวประมาณ 400 คน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.) จึงมีประกาศด่วน ให้ผู้ที่ไปใช้บริการที่ร้าน เฝอ อินเตอร์ สงขลา (วชิรา) ถนนทะเลหลวง อ.เมืองสงขลา ในระหว่างวันที่ 15-25 เม.ย.64 ไปรับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ในวันที่ 30 เม.ย. ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. ที่บริเวณสนามสระบัวสงขลา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้มีการตั้งเต็นท์เปิดให้บริการตรวจหาเชื้อให้กลุ่มเสี่ยงดังกล่าว
สำหรับ ร้านเฝอ อินเตอร์ สงขลา(วชิรา) เป็นร้านอาหารประเภทชาบู หม้อไฟ ลักษณะทางกายภาพเป็นอาคารห้องแถว 2 คูหา ตั้งอยู่ริมถนนทะเลหลวง ใกล้ปากซอยทะเลหลวง 19 ย่านวชิรา อ.เมืองสงขลา ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่มีประชาชนอยู่ค่อนข้างหน้าแน่น เนื่องจากเป็นย่านที่ใกล้สถาบันการศึกษา มีอาคารร้านค้ามากมาย และไม่ไกลจากชายทะเล
ร้านเฝอ อินเตอร์ฯ เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้า ทั้งแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง กลุ่มคนวัยทำงาน ไปใช้บริการหรือจัดเลี้ยงกันบ่อยครั้ง บรรยากาศคึกคักหนาแน่นตลอด ถือเป็นร้านขายดีร้านหนึ่งในสงขลา
ล่าสุด ร้าน เฝอ อินเตอร์ สงขลา (วชิรา) ได้ประกาศชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ "เฝออินเตอร์ เฝอหม้อไฟ style ชาบู จังหวัดสงขลา" โดยระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางร้านไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ทางร้านต้องรอผลตรวจของทุกคนเพื่อความชัดเจนและถูกต้อง โดยไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดข้อมูล โดยหลังจากทางร้านทราบว่าพนักงานในครัวติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 คน ช่วงค่ำของในวันที่ 25 เม.ย. จึงได้ปิดให้บริการทันทีในวันที่ 26 เม.ย. พร้อมทั้งโทรแจ้งติดต่อประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เพื่อทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในร้านทั้งหมด
นอกจากนี้ทางร้านได้ดำเนินการนำพนักงานทุกคน รวมถึงเจ้าของร้านไปตรวจหาเชื้อ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ผลออกในวันที่ 28 เม.ย. พบว่ามีพนักงานในร้านติดเชื้อเพิ่มอีก 16 คน จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งให้ข้อมูลและความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขครบทุกคนแล้ว เมื่อพนักงานเข้ารับการรักษาแล้ว ทางร้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและไม่มีเจตนาจะปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด แต่ก็ต้องรอสาธารณสุขประมวลผลให้แน่ชัด ซึ่งทางร้านมีการติดต่อประสานไปยังสาธารณสุขจังหวัดตลอด เพื่อไม่ให้ข้อมูลผิดพลาด
ทางร้านกราบขออภัยลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างสูง ในเบื้องต้นเหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทางร้านระวังและป้องกันดีที่สุดแล้ว ทั้งยังตระหนักถึงความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการของทางร้าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางร้านได้เข้มงวดกับมาตรการป้องกันมาตลอด โดยให้พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือขณะปฏิบัติงานตลอดเวลา และหากพนักงานคนใดมีอาการไม่สบายก็ให้หยุดทำงานจนกว่าจะหาย พร้อมทั้งเข้มงวดไปยังลูกค้าที่มาใช้บริการทุกท่านต้องใส่หน้ากากอนามัย ต้องล้างมือกับเจลแอลกอฮอล์ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ ต้องลงชื่อเข้าใช้บริการทุกครั้ง”
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของทีมข่าวฯ พบว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดภายในร้านเฝอ อินเตอร์ฯ จนถูกมองว่าอาจกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ มีจุดเริ่มมาจากพนักงานที่ทำงานในครัวของร้าน ขอหยุดวันสงกรานต์ 13-14 เม.ย. และได้กลับมาทำงานในวันที่ 15 เม.ย.ตามปกติ จนในวันที่ 17 เม.ย.พนักงานรายนี้มีอาการไม่สบาย ทางร้านจึงได้ให้พนักงานหยุดงานเพื่อไปหาหมอ ซึ่งพนักงานรายนี้หยุดไปตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.เป็นต้นมา เนื่องจากอาการป่วยไม่ดีขึ้น จนคืนวันที่ 25 เม.ย.หลังร้านปิด ได้รับแจ้งจากทางญาติของพนักงานว่า ป่วยเพราะติดเชื้อโควิด-19 ทางร้านจึงได้ปิดให้บริการในวันรุ่งขึ้นทันที และนำพนักงานของร้านทั้งหมดไปตรวจและทราบผลในวันที่ 28 เม.ย.ว่า พนักงานติดเชื้อเพิ่มอีก 16 ราย
จากการพบพนักงานในร้านติดเชื้อรวมกันมากถึง 17 ราย จึงทำให้ ร้านเฝอ อินเตอร์ฯ กลายเป็นคลัสเตอร์แห่งใหม่กลางเมืองสงขลา ที่คาดว่าจะมีผู้สัมผัสเสี่ยงมากถึง 400 กว่าคน จากผู้ที่มาใช้บริการตั้งแต่วันที่ 15-25 เม.ย. ซึ่งต้องรอผลตรวจของกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการตรวจในวันที่ 30 เม.ย. และวันถัดๆ ไปว่า จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มจากคลัสเตอร์แห่งนี้อีกกี่คน
---------------------------------------
ภาพประกอบจากเพจเฟซบุ๊ก "เฝออินเตอร์ เฝอหม้อไฟ style ชาบู จังหวัดสงขลา"