ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา เผยผลตรวจปลอกกระสุนปืนยิงบิหลั่น อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี มาจากปืนกระบอกเดียวกับที่เคยใช้ถล่มป้อม ชคต.ปะกาฮะรัง 3 ศพ - ป้อม ชรบ.ลำพะยา 15 ศพปีที่แล้ว ส่วนที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าค้นบ้านเป้าหมาย พร้อมคุมตัวชายต้องสงสัยให้ที่พักพิงคนร้ายไปเข้ากระบวนการซักถาม ด้านแม่ทัพภาค 4 สั่ง รปภ.ฐานที่ตั้ง-เข้มจุดตรวจ ห้ามกำลังพลเล่นโทรศัพท์
ความคืบหน้าการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ลอบโจมตี นายรอมลี วาเงาะ โต๊ะบิหลั่นมัสยิดบ้านควนลาแม ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 46/2 บ้านควนลาแม หมู่ 3 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จนเสียชีวิต เหตุเกิดถนนสายบ้านคลองช้าง หมู่ 4 ต.นาเกตุ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.64 ที่ผ่านมา โดย นายรอมลี ยังเป็นครูครูโรงเรียนบ้านนากัน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ด้วยนั้น
ล่าสุด วันจันทร์ที่ 19 เม.ย.64 เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา ได้รายงานผลการตรวจพิสูจน์อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในคดียิงโต๊ะบิหลั่นรอมลี จากของกลางทั้งหมด 5 รายการ ได้แก่
1. ปลอกกระสุนปืนเล็กกลขนาด 223 (5.56 มม.) จํานวน 49 ปลอก
2. ปลอกกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จํานวน 4 ปลอก
3. หมอนรองกระสุนปืนลูกซอง (พลาสติก) ขนาด 12 จํานวน 1 อัน
4. กระสุนปืนเล็กกลขนาด 223 (5.56 มม.) จํานวน 4 นัด
5. กระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จํานวน 1 นัด
ผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนเบื้องต้น พบว่า ของกลางรายการที่ 1 คือ ปลอกกระสุนปืนเล็กกลขนาด 223 (5.56 มม.) จํานวน 49 ปลอก ใช้ยิงมาจากอาวุธปืนจํานวน 4 กระบอก ประกอบด้วย
- ปืน HK33 จํานวน 11 ปลอก เป็นปืนที่เคยก่อคดีความมั่นคงรวม 3 คดี
- ปืนเอ็ม 16 จำนวน 12 ปลอก เป็นปืนที่เคยก่อคดีความมั่นคงรวม 5 คดี
- ปืนเอ็ม 16 จำนวน 18 ปลอก เป็นปืนที่เคยก่อคดีความมั่นคงรวม 7 คดี
- ปืนเอ็ม 16 จำนวน 8 ปลอก เป็นปืนที่เคยก่อคดีความมั่นคงรวม 7 คดี
อาวุธปืนทั้ง 4 กระบอกนี้ เคยใช้ก่อเหตุยิงถล่มฐาน ชคต.ปะกาฮะรัง ที่บ้านกอแลปิเละ อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 23 ก.ค.62 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และอาวุธปืน 3 ใน 4 กระบอก เคยใช้เก่อเหตุยิงถล่มป้อม ชรบ.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 มีผู้เสียชีวิต 15 ราย
ขณะที่ของกลางรายการที่ 2 ปลอกกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 จํานวน 4 ปลอก พบว่ายิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน แต่ไม่พบประวัติเคยใช้ก่อเหตุในคดีอื่น และของกลางรายการที่ 3- 5 อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่
ด้านผลการตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดที่คนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีรถของนายรอมลี เป็นเหล็กเส้นตัดท่อน จํานวน 8 ท่อน ยังไม่พบว่าของกลางถูกตัดมาจากเครื่องตัดเดียวกันกับคดีความมั่นคงอื่นๆ ที่มีประวัติเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10
@@จนท.ค้นบ้านเป้าหมายกรงปินัง คุมตัวชายต้องสงสัย
วันเดียวกัน กำลังผสมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ชุดเครื่องมือพิเศษ สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายเลขที่ 75/5 ในพื้นที่บ้านอุเป หมู่ 9 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เนื่องจากมีข่าวสารความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 5 คน คือ 1. นายรอมลี เจะอามะ 2. นายรีสวัน เจ๊ะโซะ 3. นายวันฮาซัน อะซู 4. นายมะรอซี มามะหยง และ 5. นายซาราฟี ดีสะเอะ เข้าไปในพื้นที่บ้านอุเป
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบ พบบุคคลตามเป้าหมายอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว แต่กลุ่มผู้ต้องสงสัยมองเห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงวิ่งหลบหนีออกจากบ้าน ฝั่งเจ้าหน้าที่จึงได้ขอให้หน่วยเหนือสนับสนุนการบินลาดตระเวนเฝ้าทางอากาศ เพื่อไล่ติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัยหลบหนี แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ เช่นเดียวกับกำลังเดินเท้าที่ออกลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ ก็ไม่พบร่องรอย
จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน โดยมีนายอัมราน ยะยือริ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 อ.กรงปินัง เป็นพยานการตรวจค้น ภายในบ้านพบตัวเจ้าของบ้านและสมาชิกรวม 5 คน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดสิ่งของ 7 รายการ และตรวจสอบรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน เก็บสารพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลในการหาความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายตามที่มีฐานข้อมูล
ขณะเดียวกันได้นำตัว นายสุไลมาน เจะยะ อายุ 24 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านและเป็นผู้ต้องสงสัยให้ที่พักพิงและสนับสนุนอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกก่อความไม่สงบ ไปทำประวัติและลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กรงปินัง ก่อนส่งตัวเข้าศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามต่อไป
นอกจากนั้น ยังได้จับกุม นายซูไฮมี เจะยะ อายุ 20 ปี ฐานมียาเสพติดประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครอง จึงคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
@@สั่งเฝ้าระวัง รปภ.ฐานที่ตั้ง - เข้มจุดตรวจ - ห้ามเล่นมือถือ
อีกด้านหนึ่ง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น พร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมีความพยายามที่จะก่อเหตุร้ายในพื้นที่ เพื่อให้ปรากฏเป็นภาพข่าวออกไปสู่สาธารณะ โดยเฉพาะการก่อเหตุกับเป้าหมายอ่อนแอ และเป้าหมายที่มีการระวังป้องกันตนเองต่ำ ฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น จึงขอให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้
1.ในห้วงเดือนรอมฎอน ให้พยายามหลีกเลี่ยงงานด้านการเมืองที่ต้องเข้าไปพบปะประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา
2. ให้ตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการ รปภ.ฐานปฏิบัติการ เช่น ระบบป้องกันภัยรอบฐาน (เครื่องกีดขวางต่างๆ, การออกไปซุ่มนอกฐาน ฯลฯ) เขตการยิง, ยามคอยเหตุ, ที่ฟังการณ์, สัญญาณแจ้งเหตุ เป็นต้น และให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ
3. ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ พิจารณารูปแบบการปฏิบัติภารกิจและห้วงเวลาให้เหมาะสม เน้นการเคลื่อนไหวในห้วงเวลากลางคืนให้มากขึ้น
4. จุดตรวจ, ด่านตรวจ จะต้องไม่ละเลยการจัดชุด รปภ.หัว-ท้ายจุดตรวจ และห้ามเล่นโทรศัพท์ขณะปฏิบัติหน้าที่
5. เมื่อเกิดเหตุร้ายในพื้นที่ใด ให้รายงานเหตุการณ์ ผอ.รมน.ภาค 4 ทราบทันที
@@ยิงใส่รถกระบะชาวบ้านที่สะบ้าย้อย ไร้เจ็บ
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 18 เม.ย.64 ตำรวจ สภ.สะบ้ายอย จ.สงขลา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายนราธิป สมาน ขณะกำลังขับรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ขอ 7143 สงขลา เหตุเกิดในท้องที่หมู่ 1 บ้านโคกสิเหรง ต.ทุ่งพอ อ.สะบ้าย้อย แต่กระสุนพลาดเป้า ไม่โดนสนายนราธิป แต่เจาะเข้าบริเวณประตูรถได้รับความเสียหาย จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบยิงในครั้งนี้