นราธิวาสเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 หลังติดเชื้อรายวันโผล่อีก 19 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ด้านผู้ว่ายะลา สั่งปิดสถานบันเทิงถึง 1 พ.ค. พร้อมเปิดโรงพยาบาลสนาม สัปดาห์หน้า ส่วนที่เบตงยกระดับคุมเข้มเข้า-ออกเมือง หลังยะลาพบป่วยใหม่ 3 ราย สงขลาติดเชื้อรายวัน 17 ราย สะสม 181 ราย
วันที่ 17 เม.ย.64 ที่ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ติดยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 โดยมีนายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงานในครั้งนี้
นายเจษฎา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส รายแรกเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางสานักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสและเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้มีการบริหารจัดการดูแลผู้ต้องขังโดยใช้มาตรการ Bubble and Seal โดยมีการแยกกลุ่มเปราะบาง คือ กลุ่มอายุมากกว่า 55 ปี กลุ่มมีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มที่มีอาการ PUI ซึ่งมีความเสี่ยงสูง และกลุ่มผู้ป่วยยืนยันเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลสนามเรือนจำจังหวัดนราธิวาส และในขณะนี้มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ต้องขัง ผู้พ้นโทษและในกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามเรือนจำจังหวัดนราธิวาส รองรับในการรับดูแลรักษาผู้ป่วยอาจไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนการควบคุม ป้องกันโรค และการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทำอย่างไรที่จะสามารถควบคุมจำกัดการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายไปสู่พื้นที่วงกว้างทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งจากการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสให้โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง จัดหาเตียงรองรับผู้ป่วยให้เพียงพอ แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น จึงได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 2 เพื่อรองรับการให้บริการผู้ป่วยไวรัสโคโรนา (โควิด-19) กลุ่มแรกเป็นผู้ต้องขังจาก เรือนจำชั่วคราวโคกยามู อ.ตากใบ ผู้พ้นโทษ ซึ่งในรอบแรก จำนวน 65 ราย เป็นการช่วยเหลือจังหวัด ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้และเป็นเตรียมความพร้อม ผู้พ้นโทษในการกลับสู่สังคม
ด้านนายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ตามที่ได้รับรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส รายแรกเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา และในขณะนี้มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มเรือนจำ กลุ่มนอกเรือนจำ และประชาชนทั่วไป ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ ณ ปัจจุบัน( 17 เม.ย.64) มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันที่กาลังรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 353 ราย รายใหม่ 19 ราย จากสถานการณ์คาดการณ์ว่า จะมีแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ต้องขังและผู้พ้นโทษ ซึ่งขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งแรกที่ได้เปิด เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา รองรับในการรับดูแลรักษาผู้ป่วยอาจไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่
ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ในฐานะรับผิดชอบทางด้านการสนับสนุนบุคลากร ทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับการให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ทำหน้าที่ใน การคัดกรองและแยกผู้ป่วยโดยใช้ระดับความรุนแรงของโรค เพื่อที่จะจัดลำดับความสำคัญในการรักษาผู้ป่วยและจัดระบบบริการ ซึ่งในโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ที่จะทำการเปิดในวันนี้สามารถรองรับผู้ป่วย ได้ จำนวน 186 เตียง และในรอบแรกจะรับผู้ต้องขังจากเรือนจำชั่วคราวโคกยามู อ.ตากใบ และผู้พ้นโทษ จานวน 65 ราย ส่วนในผู้ป่วยกลุ่มอื่น ๆ จะทยอยเข้ารับการรักษาจนเต็มจำนวนเตียง
@@ผู้ว่ายะลา สั่งปิดสถานบันเทิงถึง 1 พ.ค. - รพ.สนาม พร้อมเปิดสัปดาห์หน้า
วันที่ 17 เม.ย.64 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดยะลา ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา เพื่อหารือและกำหนดแนวทางถึงการดำเนินงานป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดยะลา ให้เป็นไปตามแนวทางที่ทาง ศบค.กำหนด ภายหลังกำหนดพื้นที่สถานการณ์ใน 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ควบคุมสุงสุด 18 จังหวัดและพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด
ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการปิดสถานบันเทิง โดยใช้อำนาจคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา กำหนดให้ปิดตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.- 1 พ.ค.64 ส่วนการเปิดโรงพยาบาลสนามนั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งอาคารสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 144 เตียง โดยภายในอาคารแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ชั้น 1 ผู้ป่วยชาย ชั้น 2 ผู้ป่วยหญิง และชั้น 3 โชนอำนวยการ คาดว่า สัปดาห์หน้าจะสามารถเปิดทำการได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดยะลาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสม 5 ราย เป็นผู้ป่วยที่พบยังไม่แสดงอาการ 4 ราย ส่วนอีก 1 ราย มีอาการ การแพร่ระบาดมีแนวโน้วการระบาดในองค์กร และสถานประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน มีกิจกรรมเดินทางไปหลายพื้นที่ กลับมาทำงานต้องประเมินความเสี่ยงตนเอง องค์กร สถานประกอบการ ต้องจัดทำแผนการเฝ้าระวังกลุ่มผู้สัมผัสสูง หลีกเลี่ยงการเดินทางหากไม่จำเป็น พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการ WFH หลังสงกรานต์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ในจังหวัดที่มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น ป้องกันตนเองตลอดเวลา
@@เบตงยกระดับคุมเข้มโควิด หลังยะลาพบป่วยใหม่ 3 ราย
ส่วนที่ห้องประชุมไกรลาส ชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอเบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) เพื่อยกระดับการคุมเข้มการป้องกันการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายหลัง จ.ยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 5 ราย โดยมีตำรวจ ฉก.ตชด.44 ปลัดอำเภอ จนท.รพ.เบตง ผอ.รพ.สต. นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล ท้องถิ่นอำเภอเบตง ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมประชุม
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า จากการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ในครั้งนี้ ได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมบูรณาการในหมู่บ้านดำเนินการ ตั้งจุดตรวจ จุดคัดกรอง การเข้าออกหมู่บ้าน ให้ทุกฝ่ายจัดเตรียมความพร้อมสถานที่กักตัวสำรอง เพื่อรองรับผู้เข้าสังเกตการณ์อาการเริ่มป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมเน้นย้ำศูนย์ปฏิบัติการตำบล (ศปก.ต.) ร่วมค้นหาและคัดกรองคนในหมู่บ้านที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเชิงรุก และประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ยกระดับปฏิบัติการการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยกระดับการปฏิบัติคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเบตง ณ ด่าน กม 23
ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ยะลา ระลอกใหม่ (เริ่ม 1 -17 เม.ย.64) พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย โดยพบในพื้นที่ อ.เมือง 2 ราย และ อ.เบตง 1 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต จึงขอประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย ร้านอาหาร ยังไม่ปิด แต่ให้มีการจัดการตามรูปแบบที่เคยปฏิบัติ มีแอลกอฮอล์ล้างมือ เว้นระยะห่างในการเข้าใช้บริการ ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นการชั่วคราวเวลา 14 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 – 23 เม.ย.64 พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดฯ และหากผู้ใดไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกเคหสถานมีความผิดตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติโรดติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
@@สงขลาติดเชื้อรายวัน 17 ราย ยอดสะสม 181 ราย
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเมื่อวานนี้มียอดผู้ติดเชื้อสูงถึง 89 ราย ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.สงขลา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ( 17 เม.ย.64) จำนวน 17 ราย แยกเป็น กลุ่มแรกเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มสถานบันเทิง จำนวน 3 ราย กลุ่มที่ 2 เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 13 ราย และกลุ่มที่ 3 เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 1 ราย
สำหรับตัวเลขผู้ป่วยยืยันสะสม (ตั้งแต่ 1 เม.ย.- ปัจจุบัน) มีจำนวน 181 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในประเทศ จำนวน 179 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 181 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงรอผลการตรวจอีกจำนวน 811 ราย
ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้พิจารณาการออกคำสั่งจังหวัดในการห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยงและการสั่งปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว รวมถึงมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากขณะนี้สงขลามียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ รวมเป็น 181 ราย ซึ่งเป็นเคสที่เกี่ยวเนื่องกับคลัสเตอร์สถานบริการในกรุงเทพมหานครและการเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าสาธารณสุขได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการตรวจหาผู้ติดเชื้อในกลุ่มประชากรเสี่ยงเพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม สำหรับรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายจารุวัฒน์ กล่าวว่า ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งระดับจังหวัดและพื้นที่ในการเฝ้าระวังและสอบสวนโรคผู้สัมผัสเสี่ยงทุกราย เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค พร้อมขอความร่วมมือทุกคนระมัดระวังตนเอง โดยให้ยึดหลักD-M-H-T-T การรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิ เช็คอินไทยชนะอย่างเคร่งครัดและให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของจังหวัดสงขลาจากหน่วยงานของทางราชการเท่านั้น