กงสุลใหญ่โกตาบารู ประชุมหารือหน่วยงานไทยและมาเลเซีย ช่วยนำยานพาหนะคนไทยที่ตกค้างในมาเลย์ช่วงโควิดระบาด 196 คัน กลับเข้าไทยทางด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก
วันที่ 16 มี.ค.64 ที่ห้องประชุมศุลกากรพิพัฒน์ชั้น 3 ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายมงคล สินสมบูรณ์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นประธานการประชุมนำยานพาหนะกลับเข้าประเทศไทยทางด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมที่เป็นตัวแทนจากมาเลเซีย ประกอบด้วยสรรพากร ตำรวจสันติบาล และด่าน ตม.ประเทศมาเลเซีย
ส่วนผู้ร่วมประชุมฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก, หัวหน้าด่านตม.สุไหงโกลก, หัวหน้าสรรพากร ตัวแทนจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และสาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลก รวมทั้งหมดกว่า 30 คน
การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากที่ อ.สุไหงโก-ลก ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนคนไทยจำนวนหลายรายที่มียานพาหนะจอดไว้ในประเทศมาเลเซียในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถนำยานพาหนะกลับเข้าประเทศไทยได้ ฉะนั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหา และหาแนวทางการปฏิบัติในการช่วยให้ประชาชนสามารถนำยานพาหนะกลับเข้ามายังฝั่งประเทศไทย ทาง อ.สุไหงโก-ลก
นายมงคล สินสมบูรณ์ กงสุล ใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเรียกร้องจากคนไทยที่อยู่ในประเทศมาเลเซียและต้องกลับไทยในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ต้องการจะนำยานพาหนะกลับมาพร้อมกับตัวเองด้วย โดยผ่านการลงทะเบียนกับกงสุลใหญ่ แต่ไม่สามารถนำกลับมาได้ ทำให้ยานพาหนะตกค้างในประเทศมาเลเซีย แต่เจ้าของได้กลับมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว
ทำให้ทาง อ.สุไหงโก-ลก ได้เปิดลงทะเบียน เมื่อวันที่ 1-15 ก.พ.64 ที่ผ่านมา มีเจ้าของรถลงทะเบีนทั้งหมด 196 คัน แยกเป็นรถยนต์ จำนวน 139 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 57 คัน โดยจะเริ่มให้นำยานพาหนะที่ลงทะเบียนไว้กลับเข้าประเทศได้ประมาณวันที่ 21 มี.ค.64
วิธีการนำรถออกจากมาเลเซีย จะนำออกได้วันละไม่เกิน 10 คัน โดยจะให้เจ้าของรถยนต์ที่ลงทะเบียนของแต่ละวัน เตรียมเอกสารไปให้พร้อมเพื่อรับรถ บริเวณด่านศุลกากร เวลา 19.00 น.ของวันกำหนด และจะหยุดดำเนินการในศุกร์กับวันเสาร์ทุกสัปดาห์ ตามวันหยุดราชการของประเทศมาเลเซีย
นางอิรวานา อับดุลซามัน หัวหน้าด่าน ตม.รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า รถที่จะนำออกมาควรมีทะเบียนและมีเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะระหว่างการเดินทางมาอาจเกิดอุบัติเหตุ หรือถูกเจ้าหน้าที่แต่ละรัฐตรวจสอบ ตนทราบแค่การดำเนินการของรัฐกลันตัน ส่วนการดำเนินการในรัฐอื่นๆ ของมาเลเซียไม่แน่ใจ ทีสำคัญอยากให้มีการเตรียมเอกสารเพื่อการตรวจสอบข้อมูลประวัติรถ เพื่อป้องกันรถที่อาจจะมีคดีมา