เมื่อย่างเข้าหน้าร้อนของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่ต้นยางพาราผลัดใบและทิ้งใบ เป็นสัญญาณเตือนให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราต้องหยุดกรีดยาง เพื่อเป็นการพักต้นยาง ทำให้ชาวสวนยางต้องหาอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวแบบไม่ขาดตอน
ริมถนนสาย 410 บริเวณตั้งแต่ กม.23-27 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา หากใครได้ขับรถผ่านไปในช่วงนี้ จะเห็นการตากดอกหญ้าริมถนน และร้านขายไม้กวาดดอกหญ้าของชาวบ้านจำนวนมากหลากหลายร้านตลอดเส้นทาง
การผลิตไม้กวาดดอกหญ้าเป็นอาชีพเสริมของชาวบ้านอัยเยอร์เวงในช่วงที่ต้องหยุดกรีดยาง...
น.ส.รอฮานา เทพสุวรรณ เจ้าของร้านขายไม้กวาดดอกหญ้าร้านหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนสาย 410 เล่าว่า พื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง นับเป็นแห่งเดียวใน อ.เบตง ที่มีการทำไม้กวาดดอกหญ้า ถือภูมิปัญญาที่ตกทอดมาแบบรุ่นสู่รุ่น ครอบครัวเธอก็ทำมาตั้งแต่รุ่นก่อน โดยเธอและสมาชิกในครอบครัว 3- 4 คน จะช่วยกันทำไม้กวาดดอกหญ้าขายในช่วงที่ยางพาราผลัดใบ
"การทำไม้กวาดดอกหญ้าของชาวบ้านอัยเยอร์เวอร์ มักจะเริ่มทำในช่วงหน้าร้อน เป็นช่วงที่ชาวบ้านหยุดกรีดยาง และจะมีดอกหญ้าซึ่งเป็นพืชที่ขึ้นตามป่าเขาและริมถนนตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก" รอฮานา บอก
และว่า ขั้นตอนการทำไม้กวาดดอกหญ้า เริ่มจากการไปเลือกเก็บดอกหญ้าที่มีลักษณะสมบูรณ์ อยู่ในช่วงดอกบานพอดี แล้วนำมาตากแดดเป็นเวลา 2-3 วัน ซึ่งชาวบ้านมักจะนำมาตากกันริมถนน เมื่อแห้งดีแล้วจะทำการสลัดดอกหญ้าออก แล้วมัดขึ้นรูปเป็นไม้กวาด
"เราจะนำดอกหญ้ามาแบ่งออกเป็น 1 กำมือ แล้วมัดด้วยเชือกไว้ก่อน เมื่อมัดด้วยเชือกแล้ว ต่อมาก็เอาก้านดอกหญ้านำมามัดรวมกับดอกหญ้าที่ได้มัดไว้ก่อนหน้านั้น แล้วก็นำก้านดอกหญ้ามาหุ้มก้านไม้ไว้ และมัดให้เเน่นอีกรอบหนึ่ง ตกแต่งให้สวยงาม เป็นไม้กวาดที่มีดอกหญ้าเรียงกันเต็มสมบูรณ์ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย" รอฮานา เล่าด้วยความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นบ้านเกิดของเธอ
สำหรับไม้กวาดดอกหญ้าของชาวบ้านอัยเยอร์เวง มีจุดขายที่แตกต่างจากที่อื่น คือ มีความคงทน ซึ่งเทคนิคอยู่ที่การเลือกดอกหญ้าอายุพอดี ไม่อ่อนหรือแก่จัดจนเกินไป รวมไปถึงการมัดขึ้นรูปไม้กวาดที่แน่นหนาและแข็งแรง หากเก็บหรือใช้ดี ๆ ระวังไม่ให้โดนน้ำ ไม้กวาดดอกหญ้าอัยเยอร์เวงจะมีอายุการใช้งานถึง 3 – 4 ปีเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าคุ้มค่ามาก
น.ส.รอฮานา บอกด้วยว่า ไม้กวาดดอกหญ้าอัยเยอร์เวง ราคาขายด้ามละ 50 บาทเท่านั้น โดยในส่วนของลูกค้า หลักๆ มักจะเป็นคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง และ อ.เบตง โดยส่วนใหญ่จะชื่นชอบการใช้ไม้กวาดที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เพราะมีความคงทน คุ้มค่า ใช้ได้นานหลายปี ทำให้หลายคนซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของใช้และของฝากญาติสนิทมิตรสหาย
จากการสอบถามเจ้าของร้านไม้กวาดดอกหญ้าหลายๆ ร้าน ทราบว่า การทำไม้กวาดดอกหญ้าขาย สามารถสร้างรายได้เสริมให้สมาชิกในครอบครัวได้ประมาณ 300-500 บาทต่อวัน หรือประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว เป็นการสร้างได้เสริมที่เข้ามาชดเชยรายได้หลักจากการกรีดยางที่ต้องหายไปในช่วงนี้
แต่ปีนี้ลูกค้าในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียไม่มี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ได้ จึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการขาย จากเดิมที่เปิดร้านขายริมถนนหน้าบ้าน ก็เพิ่มช่องทางโซเชียลมีเดียเข้าไป เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสั่งซื้อไม้กวาดดอกหญ้าทางออนไลน์ได้ แก้ปัญหายอดจำหน่ายลดลงจากการขายแบบออนกราวด์
นี่คือประโยชน์จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถ่ายทอดกันรุ่นสู่รุ่น และควรรักษาไว้ให้อยู่คู่ดินแดนแห่งนี้ตลอดไป...