ลงทะเบียน "เราชนะ" รอบผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนวันแรกที่ธนาคารกรุงไทย สาขายะลา ประชาชนแห่ต่อคิวเพียบ คาดตัวเลขอยู่ที่ 30,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนชรา ขณะที่ผู้สูงวัยเบตงดีใจได้สิทธิ์ แนะรัฐทำระบบให้เข้าถึงง่าย นราธิวาสไม่แออัด ด้านปัตตานีผู้พิการแห่ขอรับสิทธิ์
วันที่ 15 ก.พ.64 เป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนในโครงการ "เราชนะ" สำหรับกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนทั่วประเทศ โดยรัฐบาลได้เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15-25 ก.พ.64 ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และหน่วยบริการเคลื่อนที่ โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด เพื่อยืนยันตัวตนและกำหนดรหัส 6 หลักของตัวเอง ซึ่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายจังหวัดมีการเปิดจุดบริการให้ประชาชนออกมาลงทะเบียน
ที่ธนาคารกรุงไทยยะลา สาขาสิโรรส อ.เมือง จ.ยะลา มีประชาชนเดินทางไปลงทะเบียนใช้สิทธิ์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางธนาคารได้ใช้บริเวณลานจอดรถของธนาคารเป็นสถานที่ให้บริการ เพื่อลดความแออัด และลดความเสี่ยงของโรคโควิด-19 รวมทั้งได้ขอความร่วมมือประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดอย่างเคร่งครัด
นางลัดดา พุทธชาติ คลังจังหวัดยะลา กล่าวว่า โครงการ "เราชนะ" มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือด้วยการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยจะสนับสนุนวงเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสุดท้ายแล้ว และสำหรับพี่น้องประชาชนที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ์ใดๆ ก็สามารถเข้ามารับสิทธิ์ได้ ทางจังหวัดขอเชิญชวนให้เข้ามารับสิทธิ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประชาชนในจังหวัด
นายอรรถพล พิมเสนศรี ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาสิโรรส ยะลา กล่าวว่า ประมาณการตัวเลขลงทะเบียนอยู่ที่ 30,000 ราย ซึ่งภาพรวมตั้งแต่เช้ายังไม่พบปัญหาหนัก มีเพียงแต่บางคนลงทะเบียนในเว็บไซต์มาแล้ว แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทางเราก็บอกให้ไปยกเลิกก่อน ส่วนของผู้ป่วยติดเตียง ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะครอบคลุมด้วยหรือไม่ แต่หากมีผู้ป่วยติดเตียง ทางเราก็จะทำการบันทึกข้อมูลไว้
สำหรับพี่น้องประชาชนที่จะมาลงทะเบียน ยังสามารถทยอยกันมาได้ ทางธนาคารกรุงไทยยินดีที่จะให้บริการ พร้อมทั้งมีธนาคารพันธมิตรที่มาร่วม และหากว่ามีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก คาดว่าอาจจะมีการเปิดบริการวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ต้องประเมินดูอีกครั้ง
@@ ผู้สูงอายุเบตงดีใจได้ลงทะเบียนเราชนะ ติงรัฐทำระบบให้เข้าถึงง่าย
ด้านบรรยากาศการลงทะเบียนโครงการ "เราชนะ" ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปเข้าแถวรอรับสิทธิ์ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเบตง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก มีการตั้งจุดคัดกรองและลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ โดยประชาชนที่มาลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและคนพิการ บางคนมาด้วยตนเองคนเดียว แต่บางคนก็มีญาติมาด้วย
นายโฆสิต ทองรุด ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาเบตง กล่าวว่า ได้กำหนดให้ผู้ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองเบตง เดินทางมาลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15-19 ก.พ.64 ส่วนวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. ให้ผู้ที่อยู่ ต.ยะรม และ ต.อัยเยอร์เวง เดินทางมาลงทะเบียน และวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. ให้ผู้ที่อยู่ ต.ตาเนาะแมเราะ และ ต.ธารน้ำทิพย์ เดินทางมาลงทะเบียน
จากนั้น วันที่ 22-25 ก.พ. เปิดให้ผู้ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองเบตง เดินทางมาลงทะเบียนอีกครั้ง พร้อมเก็บตกในพื้นที่อื่นๆ เพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัดของประชาชน ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19
ผู้ที่เดินทางมารับสิทธิ์ จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดเพื่อยืนยันตัวตน และกำหนดรหัส 6 หลักของตัวเอง เมื่อได้รับสิทธิ์ "เราชนะ" แล้ว สามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ร่วมโครงการผ่านเครื่องรูดบัตร หรือสแกนผ่านแอปฯ "ถุงเงิน" ลักษณะเดียวกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังจะโอนวงเงินงวดแรก จำนวน 4,000 บาท ในวันที่ 8 มี.ค.64 และทยอยโอนจนครบ จากนั้นจะได้รับเงิน 1,000 บาท ทุกวันศุกร์ หรือทุกวันที่ 12, 19, 26 มี.ค.64 วงเงินดังกล่าวไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แต่สามารถสะสมใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 พ.ค.64
นางพจนา (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี เป็นผู้สูงอายุที่เดินทางมารอลงทะเบียนโครงการเราชนะ แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน เล่าว่า ตนมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ และลูกๆ ส่งเงินให้ใช้จ่าย เมื่อมีโครงการช่วยเหลือเยียวยา "เราชนะ" แต่โทรศัพท์ที่ใช้เป็นรุ่นเก่า ไม่สามารถลงทะเบียนได้และทำไม่เป็น จึงต้องอาศัยเพื่อนบ้านพามาธนาคาร เนื่องจากร่างกายเคลื่อนไหวลำบาก รู้สึกดีใจที่รัฐให้ความช่วยเหลือ แต่อยากให้มีระบบการช่วยเหลือที่ผู้สูงอายุหรือคนจนๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่านี้
@@ นราธิวาสคนออกลงทะเบียนน้อย ปัตตานีคนพิการแห่เข้าคิว
ขณะที่บรรยากาศที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเปิดจุดให้บริการที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ปรากฏว่ามีผู้มาเข้าคิวเพื่อลงทะเบียนไม่มาก เนื่องจากที่ธนาคารกรุงไทยทุกแห่งได้เปิดจุดบริการประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือพร้อมกัน
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ในพื้นที่เขตเทศบาลเมือง เปิดจุดลงทะเบียน 2 แห่ง คือ ที่หอประชุมอำเภอเมืองปัตตานี ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้พิการ โดยมีมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันโควิด-19
จุดบริการอีกแห่งหนึ่ง คือที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปัตตานี ตั้งอยู่บนถนนหนองจิก ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวะปัตตานี มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้าคิวรับการบริการลงทะเบียน ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สูงอายุ โดยมีญาติและสมาชิกในครอบครัวพามาลงทะเบียน