คนร้ายก่อเหตุตัดต้นไม้ขวางถนน วางวัตถุต้องสงสัย แขวนป้ายผ้าเขียนข้อความขู่ห้ามล่าสัตว์ แถมเผากล้องวงจรปิด สร้างสถานการณ์ป่วนหลายจุดในพื้นที่ อ.ศรีสาครและ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่วน อส.สุไหงโก-ลก จับกุมแรงงานต่าวด้าวชาวกัมพูชา 11 คน ด้านตม.นราฯ เปิดตัวเลขต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 354 ราย
เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 31 ม.ค.64 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ อ.ศรีสาคร และ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ว่าในช่วงเวลา 01.00 - 05.00 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุสร้างสถานการณ์ป่วนหลายจุดในพื้นที่ อ.ศรีสาคร และ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
จุดแรกคนร้ายได้ลอบวางเพลิงเผาสัญญาณโทรศัพท์มือถือของบริษัททรูและดีแทคในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านไอร์กาแซ ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้รับความเสียหาย
จุดที่ 2 คนร้ายได้แขวนป้ายผ้าที่บริเวณสะพานรอยต่อ ระหว่างหมู่ที่ 1 บ้านไอร์ตุย ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส กับ หมู่ที่ 4 บ้านกลูบี ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาสโดยมีข้อความว่า "เพื่อความปลอดภัยของท่านขอความร่วมมือชาวไทยพุทธ ห้ามล่าสัตว์ป่าหรือหมูป่าในบริเวณพื้นที่ทำกินของชาวไทยมุสลิม"
จุดที่ 3 คนร้ายได้พ่นสีเขียนข้อความว่า "ทหารออกไป" บนถนน 4217 สายศรีสาคร - จะแนะ บริเวณพื้นที่บ้านไอร์แยง หมู่ที่ 3 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
จุดที่ 4 คนร้ายได้ตัดต้นไม้ล้มขวางถนนพร้อมวางวัตถุต้องสงสัยและเผากล้องวงจรปิด สถานที่เกิดเหตุ ถนน 4115 สายดุซงญอ-ร่มไทร บริเวณบ้านริแง หมู่ที่ 3 ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ใกล้เขตรอยต่อกับบ้านไอร์ปีแซ หมู่ที่ 5 ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส โดยคนร้ายได้วางวัตถุต้องสงสัยจำนวน 2 จุด ไกล้จุดที่ตัดต้นไม้ล้ม 1 จุดและที่ทางแยกเข้าบ้านยารอ หมู่ที่ 10 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส 1 จุด
จุดที่ 5 คนร้ายได้เผากล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณตลาดชุมชนเมาะตาโกะ หมู่ที่ 4 บ้านเมาะตาโกะ ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
จุดที่ 6 คนร้ายได้แขวนป้ายผ้าที่บริเวณกูโบร์ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านสุแฆ ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส โดยมีข้อความว่า "เพื่อความปลอดภัยของท่านขอความร่วมมือชาวไทยพุทธ ห้ามล่าสัตว์ป่าหรือหมูป่าในบริเวณพื้นที่ทำกินของชาวไทยมุสลิม"
จุดที่ 7 คนร้ายได้เผายางรถยนต์ บนถนนสาย 4217 บริเวณก่อนถึง หมู่ที่ 1 บ้านน้ำวน ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.ศรีสาคร และ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบวัตถุสงสัยและเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุ
@@อส.สุไหงโก-ลก รวบ 11 แรงงานต่าวด้าวชาวกัมพูชา
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 31 ม.ค.64 ขณะเจ้าหน้าที่ อส.อ.สุไหงโก-ลก ที่ 6 ปฏิบัติงานจุดตรวจบริเวณริมถนนสาย 42 สุไหงโกลก-ตากใบ ใกล้ปั๊มปตท.บ้านกวาลอซีรา ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่พบบุคคลกลุ่มหนึ่งพร้อมสัมภาระ กำลังเดินเท้าเข้ามาบริเวณดังกล่าว จึงเรียกให้หยุดและเข้าตรวจสอบ ในเบื้องต้นพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา จำนวน 11 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 7 คน จึงรายงานนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมนำกำลังเข้าควบคุมต่างด้าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งหมดเป็นแรงงานสัญชาติกัมพูชาที่เดินทางมาจากกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยลักลอบเข้าประเทศไทยทางเรือบริเวณช่องทางธรรมชาติ บ้านกวาลอซีรา ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อเดินทางกลับประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายฐานความผิดบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ก่อนจะนำไปกักตัวยัง สภ.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส
@@ตม.นราฯ เปิดตัวเลขต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 354 ราย
พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ยกเว้นบุคคลตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนั้นหากบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายจะถูกส่งฟ้องศาลและดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและเสียค่าปรับก่อนผลักดันกลับประเทศภูมิลำเนา
ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่า การดำเนินการดำเนินมาตรการป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่ดำเนินการอยู่ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากประเทศมาเลเซียยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยหากมีผู้ติดเชื้อเข้ามาภายในประเทศไทยก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักกับพื้นที่ จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบหากพบคนไทยในประเทศมาเลเซีย ลักลอบเข้ามาโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบและกักตัวที่ศูนย์กักกันของรัฐ รวมทั้งบุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย
สำหรับแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือน มี.ค.63 - 31 ม.ค.64 สามารถจับกุมต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาผิดกฎหมายจำนวน 354 ราย ผลักดันกลับประเทศ จำนวน 279 ราย