มท.1 ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมปัตตานี นราธิวาส ชาวบ้านร้องเขื่อนบางลางปล่อยน้ำ ทำสามจังหวัดจม เดือดร้อนถ้วนหน้า จี้รัฐเยียวยา ด้านหัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนฯ แจงต้องรอส่วนกลางอนุมัติ ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยย่านการค้าปัตตานียังทรงตัว ปภ.สรุปเดือดร้อนสะสม 66,326 ครัวเรือน
วันที่ 12 ม.ค.64 ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประสบอุทกภัยหนัก ในพื้นที่ ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพใน อ.แม่ลาน 300 ชุด และ อ.สุไหงโกลก 500 ชุด โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. พล.ท.เกรียงไกร ศรีรัก แม่ทัพภาคที่ 4 นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและประชาชนผู้ประสบอุทกภัยร่วมให้การต้อนรับ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ เพื่อมาให้กำลังใจแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและนำความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี ที่กำชับให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมารับฟังปัญหาและแนวทางการช่วยเหลือ โดยพบว่า ในระยะยาวจะต้องมีการเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำของเขื่อนบางลาง และการทำที่กั้นน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งทางรัฐบาลจะนำไปพิจารณาและหาทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวต่อไป
สำหรับ จ.ปัตตานี มีน้ำไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปัตตานี อ.แม่ลาน อ.สายบุรี อ.หนองจิก อ.กะพ้อ อ.ไม้แก่นและอ.ยะรัง รวม 16 ตำบล 101 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 9,082 หมู่บ้าน ส่วนของ จ.นราธิวาส มีพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 11 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงปาดี อ.สุคิริน อ.ระแงะ อ.ยี่งอ อ.จะแนะ อ.เมืองนราธิวาส อ.รือเสาะ อ.ศรีสาคร อ.แว้ง อ.ตากใบ โดยมีพื้นที่ประสบภัย 49 ตำบล 209 หมู่บ้าน 39 เขตเทศบาล มีผู้ประสบภัย 16,051 ครัวเรือน รวม 30,573 คน
@@ชาวบ้านร้องเขื่อนบางลางปล่อยน้ำท่วมทำเดือดร้อน
จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา ในช่วงที่ผ่าน มาทำให้บ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มองว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนบางลาง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมหลากในหลายพื้นที่และอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเยี่ยวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
นายกอเซ็ง ชาว จ.ปัตตานี กล่าวว่า ต้นทุเรียนปลูกมา 20 ปี 20 ต้นในพื้นที่ 3 ไร่ตายหมด มะนาวที่ปลูกไว้ก็ตายหมดและมีต้นใหญ่ๆ ล้มไปเยอะมาก ก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้ว่าเขาจะช่วยไหม เพราะการช่วยเหลือเขาจะช่วยแค่ที่ช่วยได้ แต่ไม่ได้ช่วยเพื่อแก้ปัญหาจริงๆ ก็อยากเรียกร้องว่า ครั้งนี้ทุกคนก็รู้ว่า น้ำมาจากเขื่อนบางลางทั้งหมด ในพื้นที่ไม่มีฝนตกหนัก ตลอดเวลาที่เขื่อนปล่อยน้ำมา สร้างผลกระทบและความสูญเสียให้กับครอบครัวและชาวบ้านคนอื่นๆในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เยอะมาก มีทั้งพื้นที่ทำกิน น้ำเข้าบ้านเยอะมาก รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ของอะไรอีกที่ไม่สามารถยกขึ้นที่สูงได้ เพราะน้ำมาเร็วและแรงมาก ถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่จะช่วยเหลือเยียวยาหรือมีมาตรการที่ดีกว่าที่ผ่านมา ไม่ใช่ไปกองอยู่ที่อำเภอหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ กว่าจะถึงชาวบ้านต้องผ่านผู้นำ คนเดือดร้อนชาวบ้าน ควรมีวิธีในการช่วยเหลือให้ถึงมือเกษตรกรจริงผู้เดือดร้อนจริง
@@หน.กองโรงไฟฟ้าเขื่อนฯ แจงต้องรออนุมัติจากส่วนกลาง
ทางทีมข่าวอิศรา ได้โทรศัพท์สอบถามถึงเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากการปล่อยน้ำของเขื่อนบางลาง กับทางนายสมชาย จันทร์เย็น หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลางยะลา ซึ่งได้กล่าวว่า ในเรื่องการเยียวยาให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลาและ จ.ปัตตานี ที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากการปล่อยน้ำของเขื่อนบางลาง ต้องรอการอนุมัติการช่วยเหลือจากการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ทางส่วนภูมิภาคยังไม่สามารถตอบได้ ที่ได้ทำไปก่อนหน้านี้ เป็นการลงพื้นที่ชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้น เพื่อแจกจ่ายถุงยังชีพและน้ำดื่ม บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยจากการระบายน้ำของเขื่อนบางลาง
ด้าน จ.ยะลา ทางนายชัยสิทธิ์ พาณิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เรียกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ยะลาและทุกหน่วยงานร่วมประชุม เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการฟื้นฟูเยียวยาในด้านต่างๆ ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ รวมไปถึงผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนบางลาง โดยให้หน่วยงานรวบรวมข้อมูลความเสียหายในแต่ละพื้นที่มานำเสนอในที่ประชุมและร่วมทำแผนการแก้ไขปัญหาหาหลักเกณฑ์แนวทางในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัต และแผนการดำเนินการช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป
@@ย่านการค้าปัตตานี ถนนหลายสายน้ำยังทรงตัว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในช่วงบ่ายวันนี้ (12 ม.ค.64) สถานการณ์น้ำท่วมถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ยังคงมีน้ำท่วมสูงและบางสายยังไม่สามารถใช้การได้ เช่นถนนหนองจิก ประตูทางเข้าเมืองปัตตานี ที่ยังคงมีระดับน้ำที่สูงอยู่ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมการสัญจรได้ปิดเส้นทางไว้ให้สัญจรไปมาได้แค่ฝั่งเดียว ส่วนถนนพิพิธย่านการค้าและเศรษฐกิจเมืองปัตตานี ระดับน้ำยังไม่ลด เจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กกั้นไว้ทั้ง 2 ฝั่งถนน เพื่อไม่ให้รถสัญจรไปมาได้
ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ได้มีทางสมาคมกู้ชีพ กู้ภัย มุสลิมเบตง โดยนายอารยะ อิมัม นายกสมาคมกู้ชีพ กู้ภัย มุสลิมเบตง ได้นำอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย มุสลิมเบตง ซึ่งเป็นตัวแทนเครือข่ายองค์กรมุสลิม อ.เบตง ได้นั่งเรือลงพื้นที่ ต.ท่าสาป ต.ยุโป ต.ตาเซะ ในเขต อ.เมือง จ.ยะลา และ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อนำถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปแจกจ่ายแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากประสบภัยน้ำท่วม เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม
@@ปภ.สรุปน้ำท่วมชายแดนใต้ เดือดร้อนสะสม 66,326 ครัวเรือน
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) มีรายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 4 จังหวัด ในวันนี้ (12 ม.ค.64) ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงในหลายพื้นที่ ซึ่งยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 14 อำเภอ 60 ตำบล 213 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 36,779 ครัวเรือน แยกเป็น จ.นราธิวาส ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อ.สุไหงโก-ลก รวม 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 3,208 ครัวเรือน
จ.ยะลา ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.เมืองยะลา อ.รามัน อ.เบตง และ อ.บันนังสตา รวม 12 ตำบล 26 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 15,229 ครัวเรือน
จ.ปัตตานี ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ คือ อ.เมืองปัตตานี อ.แม่ลาน อ.สายบุรี อ.หนองจิก อ.กะพ้อ อ.ยะรัง อ.ไม้แก่น และอ.ทุ่งยางแดง รวม 43 ตำบล 167 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 18,337 ครัวเรือน
จ.สงขลา ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อ.สะบ้าย้อย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน มี่ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน
ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันน้ำไหลหลากและดินสไลด์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ตั้งแต่ 4 - 12 ม.ค.64 สะสมรวมทั้งหมด 32 อำเภอ 193 ตำบล 1,034 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบสะสมรวมทั้งหมด 66,326 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย (ยะลา 2 ราย สงขลา 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 2 ราย(สงขลา)