ขบวนรถไฟสายชายแดนใต้ให้บริการได้ตามปกติทุกขบวนหลังเกิดน้ำท่วม คนร้ายยิงชาวบ้านนราธิวาส ดับ 1 ราย ทหารซ่อมบ้านให้ไทยพุทธยากไร้ไม่ให้ย้ายถิ่นฐานหนีไฟใต้
วันที่ 8 ธ.ค.63 บรรยากาศที่สถานีรถไฟปัตตานีและสถานีรถไฟยะลา การเดินรถไฟสามารถวิ่งได้เป็นปกติ ทุกขบวน ทั้งขบวนสายยาวกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก และขบวนรถท้องถิ่นในจังหวัดภาคใต้ หลังจากที่ต้องหยุดเดินรถไฟบางขบวนมากว่า 1 สัปดาห์ จากสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะที่ จ.นครศรีธรรมราชและอีกหลายจังหวัดในภาคใต้ ที่เส้นทางรถไฟบางช่วงเสียหายไม่สามารถวิ่งได้ตามปกติทุกขบวนได้ โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก
นายนิติ ชัยภูมิ รักษาการนายสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก กล่าวว่า รถไฟสายใต้ ขบวนรถเร็วและรถด่วนพิเศษทักษิณ สุไหงโก-ลก - กรุงเทพฯ งดให้บริการและรถไฟขบวนท้องถิ่นเปิดเดินรถสิ้นสุดปลายทางที่สถานีรถไฟพัทลุง จากกรณีรางรถไฟบางส่วนได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราช ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมรางรถไฟที่ จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลายแล้วและอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงเส้นทาง ทั้งนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย เริ่มให้บริการตามปกติจนถึงปลายทางในทุกขบวน มาตั้งแต่เวลา12.00 น.ของวันที่ 6 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้รถทุกขบวนเดินปกติแล้ว
นางอรชรชาวี แวหามะ ชาวจ.ปัตตานี กล่าวว่า วันนี้เดินทางไปหาดใหญ่ ใช้รถไฟเป็นประจำ เพราะราคา ถูกและสะดวกดี ตนเป็นแม่ค้า ขายของได้กำไรไม่มาก จำเป็นต้องคำนวณค่าใช้จ่าย ปกติจะไปซื้อของทุกอาทิตย์ แต่ช่วงที่รถไฟหยุดวิ่งก็ไม่ได้ไป เพิ่งไปวันนี้ ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะภัยธรรมชาติ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ช่วงที่รถไฟหยุดวิ่งไม่ได้กังวล เพราะรถไม่วิ่งเราแค่ไปรับของมาขายไม่ได้ แต่รู้สึกสงสารคนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราชและหลายจังหวัด พยายามติดตามข่าวตลอด เพื่อให้กำลังใจเขา
คนร้ายยิงชาวบ้านนราธิวาส ดับ 1 ราย
เมื่อเวลา 07.50 น.วันที่ 8 ธ.ค.63 พ.ต.ต.ลัทธวิชย์ แคยิหวา สวญ.สภ.ปะลูกาสาเมาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่จำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดเเละขนาดยิงประชาชน เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณซอยตรงข้ามวัดเชิงเขา ม.4 ต.ปะลูกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนคว่ำบริเวณริมทาง ทราบชื่อ นายต่วนนัสรัน มือคะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/1 หมู่ 10 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จุดเกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 4 ปลอก ตกอยู่ใกล้ผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นวัตถุพยานเพื่อนำตรวจสอบต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายต่วนนัสรันฯ กำลังเดินทางกลับบ้านพัก ระหว่างทางได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ยิงใส่จนเสียชีวิต แล้วคนร้ายจึงได้หลบหนี
ส่วนประเด็นสาเหตุอยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยทางเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่า นายต่วนนัสรันฯ เคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองอาวุธปืน ถูกจำคุก 6 เดือนและเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อ 30 ต.ค.63 ที่ผ่านมา
รวบผู้ต้องสงสัยยิงตำรวจโคกโพธิ์
ด้านความคืบหน้ากรณีคนร้ายยิง ร.ต.ท.วีระศักดิ์ สารพร รอง สวป.สภ.โคกโพธิ์ เสียชีวิต เหตุเกิดริมถนนตรงข้ามหน้าโรงพยาบาลโคกโพธิ์ เมื่อคืนวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดทาง พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อย ผกก.สภ.โคกโพธิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตรวจพิสูจน์ด้วยอุปกรณ์พิเศษ เพื่อตรวจหาคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย จากในพื้นที่บ้านคลองช้างออก ม.7 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ตรวจสอบประวัติพบเป็นบุคคลตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินและมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ จึงนำส่งตัวที่หน่วยซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ปัตตานี
ทหารซ่อมบ้านไทยพุทธ ป้องกันย้ายหนีไฟใต้
ร.ท.วิรุจ นพรัตน์ ผบ.ร้อย.ทพ.4814 พร้อมกำลัง ชป.รปภ.วัดรัตนานุภาพและกำลังเจ้าหน้าที่ชุดช่าง ร่วมกับ ชคต.โต๊ะเด็ง ดำเนินการซ่อมแซมต่อเติมบ้านให้กับนางอุไรวรรณ สิมศิริวงษ์ บ้านเลขที่ 143/1 หมู่ 1 บ.โต๊ะเด็ง ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ตามโครงการกิจกรรมพัฒนาชุมชนไทยพุทธให้มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ 2563
ร.ท.วิรุจ นพรัตน์ ผบ.ร้อย.ทพ.4814 กล่าวว่า ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ได้เล็งเห็นความสำคัญของกิจกรรมนี้และได้มอบหมายให้ ร้อย ทพ.4814 ลงพื้นที่คัดเลือกบ้านที่มีความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยได้เล็งเห็นว่า บ้านของนางอุไรวรรณ สิมศิริวงษ์ อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นหญิงหม้าย มีบุตร 5 คน มีรายได้ต่อเดือน 800 บาท จากเงินผู้สูงอายุ โดยไม่มีรายได้อื่นๆ อีกเลย สมควรได้รับการคัดเลือก พร้อมทั้งได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดช่างและชุด รปภ. ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ดำเนินการซ่อมแซมและต่อเติมบ้านให้นางอุไรวรรณ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีขวัญกำลังใจและมีแรงจูงใจ ที่จะไม่ย้ายถิ่นฐานออกนอกพื้นที่จากสถานการณ์ความไม่สงบที่ต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า16 ปี
สำหรับกิจกรรมพัฒนาชุมชนไทยพุทธให้มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน มีวัตถุประสงค์ เพื่อซ่อมแซมบ้านพักของชาวไทยพุทธ ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ให้มีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีขวัญกำลังใจและแรงจูงใจ ที่จะไม่อพยพย้ายถิ่นฐานออกนอกพื้นที่ โดยเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการล้วนมีฐานะยากจน อีกทั้งไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซมบ้าน หน่วยงานราชการต่างเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวพร้อมสนับสนุนงบประมาณและชุดช่าง เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนไทยพุทธในพื้นที่