ปัตตานีคึกคักรับ "คนละครึ่ง รอบ 2" ร้านค้าแห่เข้าร่วมโครงการกว่าครึ่งหมื่น เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
ตั้งแต่วันพุธที่ 11 พ.ย.63 บรรยากาศที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปัตตานี มีประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แห่ไปใช้บริการที่ธนาคารอย่างเนืองแน่น โดยประชาชนและผู้ประกอบการต่างเข้าคิวเพื่อรอลงทะเบียน แม้จะสามารถลงทะเบียนได้ด้วยตัวเองผ่าน www.คนละครึ่ง.com แต่หลายคนก็ไม่เชี่ยวชาญการใช้โทรศัพท์มือถือ
ขณะที่บางคนก็มีปัญหาการสแกนใบหน้า เนื่องจากใบหน้าเปลี่ยนไปจากภาพบนบัตรประชาชน ก็ต้องเข้าไปติดต่อที่สาขาของธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารของรัฐที่ร่วมรับผิดชอบโครงการ และเป็นผู้จัดทำระบบแอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง"
เหตุนี้เองทำให้มีประชาชนไปรอที่สาขาของธนาคารจำนวนมาก จนต้องเปิดลานชั้นล่าง และใช้พื้นที่บริเวณลานจอดรถใต้ถุนตึก จัดเก้าอี้เรียงคิวเพื่อให้เพียงพอกับจำนวนผู้คนที่ทยอยไปติดต่อขอความช่วยเหลือและลงทะเบียน
โครงการคนละครึ่ง เปิดให้ลงทะเบียนรอบ 2 หลังจากรอบแรกที่เปิดให้ลงทะเบียนเมื่อเดือน ต.ค. มีกระแสตอบรับอย่างกว้างขวาง เพราะมีประชาชนจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นกับร้านค้าที่ติดป้ายเข้าร่วมโครงการ ประชาชนในฐานะผู้บริโภคก็สามารถลดค่าครองชีพรายวันลงได้ ขณะที่ร้านค้าก็สามารถเพิ่มยอดขาย จากเดิมที่เคยขายไม่หมด ของเหลือแบะแบน แต่ช่วงที่มีโครงการคนละครึ่งกลับขายดีและขายหมดทุกวัน
นายสมชาย ตั้งสิริวรกุล ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปัตตานี กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้สิทธิ์ลงทะเบียนรอบ 2 ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเฉพาะ จ.ปัตตานี ได้รับลงทะเบียนร้านค้าและผู้ประกอบการจากทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดแล้วกว่า 5,000 ร้านค้า
"โครงการคนละครึ่งระยะแรก ผลตอบรับดีมาก ประชาชนมาลงทะเบียนกันแน่นทุกวัน ทำให้พนักงานต้องทำงานล่วงเวลา ต้องกลับบ้านดึกกันหลายวัน เพื่อจัดทำบัญชีให้เข้าระบบ และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สำหรับในปัตตานี โครงการนี้สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แล้วกว่า 100 ล้านบาท ก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในพื้นที่ กระตุ้นเศรษฐกิจได้ ธนาคารจึงขอเชิญชวนประชาชนให้รีบมาใช้สิทธิ์กัน ทางธนาคารยินดีพร้อมอำนวยความสะดวกทุกวันทำการ" ผู้จัดการธนาคาร กล่าว
น.ส.นูรฮายาตี เจ๊ะมะ เจ้าของร้านขายของออนไลน์ ซึ่งร่วมลงทะเบียนร้านค้า บอกว่า โครงการนี้กระตุ้นยอดขายได้ดีมากๆ อยากฝากถึงรัฐบาลควรให้ประชาชนสามารถสแกนจ่ายได้ทุกรายการ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ น้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าทำได้ประชาชนคงมีความสุขมากกว่านี้
ขณะที่ นายมาหะมะ นิบง ซึ่งลงทะเบียนผ่านในรอบแรกในฐานะประชาชนผู้บริโภค และได้ใช้บริการโครงการนี้ไปแล้ว บอกว่า โครงการคนละครึ่งช่วยได้ทั่วถึงจริงๆ ทั้งชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้ารายเล็กต่างได้รับประโยชน์ ได้ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง และของใช้ต่างๆ หลากหลาย ลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้มากทีเดียว
อนึ่ง โครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่รัฐบาลคลอดออกมาเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
โครงการคนละครึ่ง เปิดให้ร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อย หาบเร่ และแผงลอยร่วมลงทะเบียนเพื่อเข้าเป็นร้านค้าในโครงการ ครอบคลุมกิจการประเภทร้านอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป แต่ไม่รวมถึงสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น รวมทั้งบริการต่างๆ ส่วนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
หลักการของโครงการคนละครึ่ง คือรัฐบาลจ่ายให้ประชาชนผู้ซื้อสินค้า 50 เปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าที่ซื้อ แต่ไม่เกินวันละ 150 บาท และไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ เริ่มจับจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ถึงวันที่ 31 ธ.ค.63
การใช้จ่ายของประชาชน จะต้องโหลดแอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง" แล้วเติมเงินเข้าไปเพื่อใช้จ่ายสินค้า ส่วนร้านค้าใช้แอปฯ "ถุงเงิน" โดยวิธีการโหลด และการใช้จาย ตลอดจนการรับเงินของร้านค้า สามารถตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com
------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 นูรฮายาตี เจ๊ะมะ เจ้าของร้านขายของออนไลน์
2 สมชาย ตั้งสิริวรกุล ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปัตตานี
3 ลานจอดรถใต้ถุนธนาคาร ถูกปรับพื้นที่รองรับการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง