ชายแดนใต้ป่วนต่อเนื่องช่วงสับเปลี่ยนกำลังพล ดักบึ้ม 2 ลูกซ้อนโจมตีรถหุ้มเกราะทหารพรานนาวิกโยธินในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โชคดีไร้เจ็บ ขณะที่นายกฯสั่งแม่ทัพภาค 4 ดูแลกำลังพลทั้งที่บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดขบวนคอนวอยของทหารที่เทพา
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุในช่วงรอยต่อของปีงบประมาณใหม่ ซึ่งมีการสับเปลี่ยนกำลังพลแทบทุกหน่วยในพื้นที่ โดยเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 2 ต.ค.63 เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดโจมตีชุดปฏิบัติการของทหารพราน กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือ (ร้อย.ทพ.นย.ที่ 2 ฉก.ทพ.นย.ทร.) ขณะออกลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบใน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และกำลังไปร่วมประชุมที่กองบังคับการของหน่วยเฉพาะกิจ โดยใช้รถกระบะหุ้มเกราะเป็นพาหนะ แรงระเบิดทำให้รถได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ
มีรายงานว่าในรถกระบะหุ้มเกราะที่ถูกโจมตีด้วยระเบิด เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายทะเบียน บฉ 6115 นราธิวาส มี เรือเอก กันหา บุญยงค์ ผู้บังคับกองร้อย นั่งอยู่ด้วย เพื่อไปร่วมประชุมที่กองบังคับการของหน่วยเฉพาะกิจ
หลังเกิดเหตุได้มีการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าตรวจสอบ
ต่อมาเวลา 08.23 น. ได้เกิดระเบิดลูกที่สอง หรือ second bomb ห่างจากจุดแรกประมาณ 50 เมตร โชคดีทื่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระเบิดทั้ง 2 ลูกเป็นชนิดแสวงเครื่อง ลูกแรกประกอบใส่ถังแก๊สขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม น้ำหนักระเบิดประมาณ 20 กิโลกรัม จุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายซุกซ่อนระเบิดไว้ในท่อลอดใต้ถนน เพื่อดักโจมตีกองกำลังทหารพรานที่นั่งรถผ่าน และตั้งใจลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ
ส่วนระเบิดลูกที่ 2 มีรูปแบบเดียวกับระเบิดลูกแรก แต่วางซ่อนไว้บริเวณจอมปลวกริมถนน ก่อนจุดระเบิดเพื่อหวังสังกัดเจ้าหน้าที่จุดตรวจที่เกิดเหตุ แต่ระเบิดทำงานก่อนเวลา ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เหตุระเบิดครั้งนี้ เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค.63 คนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถคอนวอย ซึ่งมีทั้งรถบัสและรถบรรทุกของทหารชุดสับเปลี่ยนกำลัง กรมทหารราบที่ 15 ที่ อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 6 นาย (อ่านประกอบ : แขวนตัวจุดระเบิดบนต้นไม้ อันตรายไฟใต้ช่วงสับเปลี่ยนกำลัง)
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับกำลังพลและครอบครัวของทหารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดของกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่ อ.เทพา พร้อมได้กำชับ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ช่วยเหลือดูแลรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มกำลัง และให้การสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตในการประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานโดยไม่ประมาท และติดตามบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมความปลอดภัยของพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในภาพรวม ให้เกื้อกูลกับความพยายามของรัฐบาลที่กำลังพัฒนาและยกระดับรายได้ตลอดจนคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานเกีย่วกับเหตุระเบิดทั้งหมดแล้ว ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งตนได้เน้นย้ำให้ระมัดระวังช่วงเวลาสับเปลี่ยนกำลัง เนื่องจากผู้ก่อเหตุจะใช้เป็นช่องโหว่ในการลอบทำร้าย
ส่วน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ช่วงสับเปลี่ยนกำลังได้กำชับให้ระมัดระวังอยู่แล้ว โดยให้ทุกส่วนเน้นในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย พร้อมกำชับให้เข้มงวดด้านการข่าวอ และประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 กำชับเรื่องงานด้านความปลอดภัยและการข่าวในภาพรวมด้วย ยืนยันว่ากำลังพลไม่ได้ทำงานหนักเกินไป เพราะมีการแบ่งกำลังชัดเจนไปสกัดกั้นตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุร้าย ก็ให้เป็นเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่ง