ตำรวจตั้งข้อหาหนัก "พยายามฆ่า" อาสาสมัครทหารพรานสาดกระสุนใส่รถบัสรับส่งนักเรียน ขณะที่หน่วยต้นสังกัดสั่งปลดจากราชการไว้ก่อน เพื่อนสนิทเผยมีปัญหาครอบครัว ภรรยาบอกเลิก ทำให้เครียดจัด สติแตก
ความคืบหน้าเหตุการณ์อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4216 กรมทหารพรานที่ 42 ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงใส่รถบัสรับส่งนักเรียนของโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 10 ก.ย.63 บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่หมู่ 5 ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี บริเวณจุดตรวจหน้าฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4216 ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สกัดจับ ผู้ก่อเหตุ อส.ทพ.กสานดิ์ หนุดหละ เอาไว้ได้ ขณะขับรถมุ่งหน้าไปจังหวัดพัทลุงบ้านเกิดนั้น
ล่าสุด วันศุกร์ที่ 11 ก.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบิกตัว อส.ทพ.กสานดิ์ อายุ 36 ปี ซึ่งถูกคุมตัวอยู่ที่ สภ.ยะหริ่ง ตลอดทั้งคืน มาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) ได้เรียกประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดี พร้อมสั่งการให้รวบรวบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน และคำให้การของผู้ก่อเหตุ ตลอดจนคำให้การของ นายดุลซอมะ ดิง อายุ 59 ปี พนักงานขับรถบัส มาประกอบในสำนวนการสอบสวน เพื่อเร่งสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา "พยายามฆ่า" กับ อส.ทพ.กสานดิ์ และจะสอบปากคำอย่างละเอียดถึงสาเหตุที่ยิงปืนใส่รถบัสอีกครั้ง
ส่วนบรรยากาศที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4216 เป็นไปอย่างเงียบเหงา เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกโดยเด็ดขาด จากการสอบถามทหารพรานที่ปฏิบัติงานภายในฐานฯ ได้ความว่ากำลังพลรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะมีการพยายามสร้างกระแสข่าวการโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งข้อมูลหลายส่วนเป็นเท็จ จึงอยากขอให้สังคมตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเชื่อหรือแชร์ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์
เผยเหตุภรรยาบอกเลิกทำคลุ้มคลั่ง
กำลังพลรายหนึ่งที่รู้จักกับ อส.ทพ.กสานดิ์ ให้ข้อมูลว่า อส.ทพ.กสานติ์ เป็นอาสาสมัครทหารพรานมา 5 ปีแล้ว ประจำอยู่กองร้อยนี้ตลอด ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ คาดว่ามาจากปัญหาครอบครัว ภรรยาบอกเลิกอย่างกะทันหัน โดยในวันที่ก่อเหตุ อส.ทพ.กสานดิ์ ได้โทรศัพท์คุยกับภรรยา แล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ขาดสติ ใช้อาวุธปืนยิงออกจากฐานไปโดนรถบัส จากนั้นยังจะไม่ยอมคืนปืน แต่เมื่อผู้บังคับบัญชาไม่อนุญาต ทำให้ อส.ทพ.กสานดิ์ ยิ่งคุมสติไม่อยู่ ขึ้นรถกระบะขับไปพัทลุงทันที แต่ไปถูกสกัดจับได้ระหว่างทางที่ด่านเกาะหม้อแกง (อ่านประกอบ : รวบตัวทหารเครียด ยิงปืนในฐานฯ โดนรถบัสนักเรียน โชคดีไร้เจ็บ)
สำหรับการทำงานของ อส.ทพ.กสานดิ์ ปกติเขาทำงาน 35 วัน พัก 10 วัน วงรอบนี้เหลืออีกแค่ 3 วันจะครบกำหนดพัก แต่มาเกิดปัญหากับภรรยาเสียก่อนจนคุมสติไม่อยู่และก่อเหตุขึ้น
กอ.รมน.ยันไม่ใช่กราดยิง - สั่งปลดจากราชการแล้ว
ด้าน พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงว่า อส.ทพ.กสานดิ์ ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากความเครียดจากปัญหาภายในครอบครัว จนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง และได้ยิงปืนในฐานปฏิบัติการ ทำให้กระสุนพลาดไปโดนรถบัส ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นรถรับส่งนักเรียน โดยขณะเกิดเหตุได้ส่งนักเรียบเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบรถบัส พบว่ามีความเสียหายจากรอยกระสุนที่พลาดไปโดน จำนวน 3 รอย และไม่มีนักเรียนอยู่ในภายรถ เป็นรถบัสเปล่าที่กลับจากส่งนักเรียนตามบ้านเป็นที่เรียบร้อย และขับผ่านมายังบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม หน่วยจะมีการสอบสวนอย่างละเอียดกับผู้ที่ก่อเหตุเพื่อลงโทษทางวินัยขั้นเด็ดขาด และได้นำตัวส่งสถานีตำรวจในท้องที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา เบื้องต้นขณะนี้ได้สั่งปลดออกจากราชการแล้ว
จากเหตุการณ์ดังกล่าว แม้จะเกิดจากสาเหตุปัญหาส่วนตัว แต่ได้สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อความรู้สึก และความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน จนอาจเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มที่ไม่หวังดีนำไปบิดเบือนโจมตีเพื่อสร้างความเกลียดชัง ดังที่ปรากฏให้เห็นอย่างกว้างขวางในห้วงที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม และจะไม่ปกป้องกำลังพลผู้กระทำผิดโดยเด็ดขาด โดยจะลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด และหากพบมีความผิดทางอาญาก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้ปกครองนักเรียนที่มีความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอชี้แจงสร้างความมั่นใจให้ทราบว่า เป็นเรื่องส่วนตัวจากความเครียดปัญหาครอบครัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความมั่นคงแต่อย่างใด และไม่ได้มุ่งหวังจะทำร้ายชีวิตของผู้ใด จากนี้ก็จะได้เร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เกิดความมั่นใจต่อไป ยืนยันไม่มีการกราดยิงตามที่มีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างแน่นอน
โชเฟอร์รถบัสเล่านาทีชีวิต
นายดุลซอมะ ดิง อายุ 59 ปี พนักงานขับรถบัส เล่าว่า หลังจากไปส่งเด็กนักเรียนเสร็จ กำลังจะกลับบ้าน ได้ขับผ่านด่าน บริเวณฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4216 จากนั้นได้ยินเสียงปืน จึงหันไปทางด้านในฐาน ซึ่งเป็นต้นเสียง จึงรีบจอดรถวิ่งหนี ระหว่างหนีก็ได้ยินเสียงปืนอีกเรื่อยๆ จึงวิ่งไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน บอกผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นผู้ใหญ่ก็ไปเคลียร์ ตอนนั้นทหารที่ยิงก็ขับรถหนีไปแล้ว จึงไปแจ้งความกับตำรวจ ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า
"ผมเป็นคนขับรถโรงเรียนมา 12 ปี ปกติก็จะส่งนักเรียนตลอด ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น" โชเฟอร์รถบัส กล่าว
ขณะที่ นายนิเดร์ วาบา ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา อดีตนายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ปัญหาลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมานานแล้ว จึงขอให้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่ไม่ดีออกจากพื้นที่ไป เพราะปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นมักเกิดจากเจ้าหน้าที่
---------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข้อเท็จจริงเหตุกำลังพลยิงรถบัส
ขอบคุณ : ภาพจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า