วันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา หรือ "วันรายอฮัจยี" ของพี่น้องมุสลิมในปีนี้ หรือปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 ก.ค.2563
"รายอฮัจยี" คือเทศกาลเฉลิมฉลองให้กับพี่น้องมุสลิมที่ได้ไปประกอบพิธีฮัจย์ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งปีนี้ถูกจำกัดจำนวนคน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ก่อนวันรายอ 1 วันจึงเป็นวันจ่ายของคนอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งยะลา ปัตตานี และนราธิวาส บรรยากาศต้องเรียกว่าคึกคักไม่น้อย เพราะเป็นรายอแรกหลังโควิด-19 ขณะที่วันรายอที่ชายแดนใต้จัดเป็นวันหยุดราชการด้วย
นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า การกำหนดให้วันตรุษอีดิ้ลอัฎฮาเป็นวันหยุดราชการ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2517 วันที่ 10 มค.2555 และวันที่ 13 ส.ค.2556 ที่เห็นชอบให้วันตรุษอีดิ้ลพิตริ (วันรายอปอชอ) วันตรุษอีดิ้ลอัฏฮา (วันรายอฮัจยี) และวันตรุษจีนเป็นวันหยุดราชการประจำปี สำหรับ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา
สำหรับพิธีกรรมสำคัญของรายอฮัจยี คือ "กุรบ่าน" หรือเชือดสัตว์พลีทาน การให้ทาน การเตรียมอาหารต้อนรับแขกผู้มาเยือน และสวมเสื้อผ้าใหม่ไปมัสยิด พี่น้องมุสลิมจำนวนไม่น้อยก็นิยมซื้อทองรูปพรรณด้วย ทำให้อาหาร เสื้อผ้า และทองขายดี
แม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองปัตตานี เล่าให้ฟังว่า ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของมากเหมือนปกติ แม้จะต้องเจอกับสถานการณ์โควิด ทำให้คนไม่ค่อยมีเงิน แต่เมื่อถึงเทศกาลแบบนี้ทุกคนก็ต้องจับจ่าย ทั้งเสื้อผ้า อาหารสด พวกนี้ขายดีที่สุด ส่วนราคาสินค้าก็ขยับขึ้นหลายรายการ ประมาณ 10-20 บาท เช่น ผัก ผลไม้
"อยากให้ทุกๆ วันสามารถขายของได้แบบวันนี้ แต่ก็ยาก ทุกคนพูดกันว่าหลังจากนี้เราจะทำงานหาเงินได้ยากขึ้น ของขายยาก เพราะทุกคนไม่มีเงิน ก็อยากให้ทุกคนใช้จ่ายอย่างประหยัด เก็บเงินไว้สำหรับวันอื่นๆ ด้วย"
นางฮับเสาะ เจะปอ ชาวบ้านใน จ.ปัตตานี บอกว่า รายอปีนี้ไม่ได้ซื้ออะไรมาก เน้นของกิน เสื้อผ้า แต่บางส่วนก็สามารถใช้ของรายอที่ผ่านมาได้ ทำให้ประหยัดเงินได้มาก สินค้าทุกอย่างขึ้นราคาหมด หลายอย่างขึ้นถึง 10-20 บาท ถือว่าแพงมาก ทุกปีเมื่อมาถึงเทศกาลของจะแพงตลอด ก็ไม่แน่ใจว่าภาครัฐได้มีมาตรการควบคุมราคาสินค้าบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะปีนี้ที่เศรษฐกิจไม่ดี แต่ประชาชนยังต้องซื้อของแพง