เหตุการณ์ยิงปะทะและวิสามัญฆาตกรรม 3 ศพ เมื่อเย็นวันที่ 30 เม.ย.63 ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีความชัดเจนแล้วว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ตองหาคดีความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญๆ ทั้งปล้นร้านทองใน อ.นาทวี จ.สงขลา เหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซี และโจมตีป้อม ชรบ.ในอำเภอเมืองปัตตานี
รายชื่อผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม 3 ราย ประกอบด้วย
1. นายยูโซะ แมะตีเมาะ อายุ 33 ปี มีหมายจับคดีความมั่นคง 7 หมาย คดีสำคัญก็เช่นลอบวางระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เมื่อเดือน ส.ค.59
2. นายมะตามีซี สาอิ อายุ 32 ปี มีหมายจับคดีความมั่นคง 2 หมาย หนึ่งในนั้นคือคดีร่วมปล้นรถตู้ใน อ.หนองจิก ไปปล้นร้านทองสุธาดา ใน อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ปีที่แล้ว กวาดทองรูปพรรณไปล็อตใหญ่ มูลค่าถึง 85 ล้านบาท
3. นายอับดุลอาซิ ปากียา อายุ 39 ปี มีหมายจับในคดีความมั่นคง 1 หมาย คือคดีลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.60
ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงยังระบุว่า ทั้งสามคนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์โจมตีจุดตรวจ ชรบ. บ้านกอแลปิเละ ในอำเภอเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ปีที่แล้ว ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 รายด้วย
เหตุยิงปะทะเกิดขึ้นเมื่อค่ำวานที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านกะปาลือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าพิสูจน์ทราบหลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการเข้าไปเคลื่อนไหวหลบซ่อนตัว อาจเตรียมก่อเหตุใหญ่
ฝ่ายเจ้าหน้าที่อ้างว่าเมื่อไปถึงบ้านที่ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงซ่อนตัวอยู่ ได้พยายามปิดล้อมและให้ผู้นำในท้องที่ช่วยเจรจา แต่ปรากฏว่ามีการยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ และพยายามวิ่งหนีออกจากบ้าน จึงเกิดการยิงปะทะกัน ทำให้ฝ่ายผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเสียชีวิต 3 ราย ขณะที่ฝั่งตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี บอกว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนถือเป็นบุคคลที่ฝ่ายรัฐต้องการตัวมากที่สุด เพราะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างโชกโชน เมื่อเจ้าหน้าที่รู้แหล่งพักพิงจึงได้เข้าปิดล้อม หวังจะเจรจาให้ยอมมอบตัว แต่กลับต่อสู้จนเป็นเหตุให้ถูกวิสามัญฆาตกรรมจนเสียชีวิต ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของบุคคลทั้ง 3 ด้วย
ส่วนผลการค้นบ้านที่เกิดเหตุ พบเป้สนาม 3 ใบ และวัตถุพยานอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าทั้ง 3 คนเดินทางเข้าไปพักแรมที่บ้านหลังนี้ ซึ่งมีชายชราอายุ 80 ปีอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนทั้งบีอาร์เอ็น และพูโล ออกมาประณามปฏิบัติทางทหารของฝ่ายความมั่นคงในครั้งนี้ว่าเป็นความโหดร้าย และฉวยโอกาสที่ทั่วโลกกำลังมุ่งต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ทำร้ายประชาชน โดยฝั่งบีอาร์เอ็นมีการเผยแพร่คลิปประณามโดย นายอับดุลการิม คาลิด จากฝ่ายประชาสัมพันธ์ ขณะที่ฝ่ายพูโล เป็นแถลงการณ์ของแกนนำอย่าง นายกัสตูรี มาห์โกตา มีการเน้นคำพูดที่ว่า "ลูกวัวเดียวดายเป็นเหยื่อของหมาป่าได้ง่าย" ด้วย
เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ขบวนการบีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์ประกาศหยุดปฏิบัติการทุกรูปแบบเพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 แต่มีเงื่อนไขว่าตราบเท่าที่ไม่ถูกโจมตีจากกองกำลังของรัฐบาลก่อน ฉะนั้นจึงต้องรอดูหลังจากนี้ว่าจะมีปฏิบัติการตอบโต้หรือไม่
ส่วนท่าทีของฝ่ายความมั่นคงไทยไม่เคยยอมรับคำประกาศหยุดปฏิบัติการของบีอาร์เอ็น โดยมองว่าเป็นการฉวยโอกาส เพราะฝ่ายรัฐไม่เคยโจมตีใครก่อน ปฏิบัติการทุกครั้งเป็นการบังคับใช้กฎหมาย
-----------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ : คาดทีมปล้นร้านทองนาทวี! ปะทะที่หนองจิก ปัตตานี ดับ 3