ผ่าน 1 เดือนเหตุโศกนาฏกรรมโจมตีป้อม ชรบ.ทางลุ่ม ที่ตำบลลำพะยา จังหวัดยะลา มีผู้เสียชีวิตถึง 15 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.62
ตลอด 1 เดือนมีปฏิบัติการติดตามไล่ล่าคนร้าย และออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ล็อต 10 คน ล็อตล่าสุดช่วงต้นเดือน ธ.ค. ออกหมายจับมากถึง 6 คน ส่วนใหญ่อาศัยหลักฐานจากวัตถุพยานและสารพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ ที่คนร้ายทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ แล้วนำไปตรวจเทียบเคียง
คนร้ายที่ถูกออกหมายจับมีทั้ง "มือปฏิบัติการ" ซึ่งคนเหล่านี้จะมาจากต่างอำเภอและต่างจังหวัด กับ "มือสนับสนุน" กลุ่มนี้จะมีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอเมืองยะลา เช่น ตำบลลำใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับตำบลลำพะยา แสดงว่ามีการใช้คนในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุร่วมกันก่อเหตุด้วย ซึ่งกลุ่มนี้คาดว่าเป็นกลุ่มสนับสนุน โปรยตะปูเรือใบ ตัดต้นไม้ขวางถนน
นอกจากนั้นยังมีผู้ต้องหาคนสำคัญ 2 คน คือ นายมะยะโก๊ะ ลาเต๊ะ กับ นายซอบรี หลำโสะ ซึ่งมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีป้อมชรบ.ด้วย ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตทั้ง 2 คน เมื่อวันที่ 21 พ.ย. จากเหตุปิดล้อม ตรวจค้น และยิงปะทะกันที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
นายมะยะโก๊ะ ถูกซัดทอดจากแนวร่วมที่สนับสนุนการก่อเหตุที่ถูกจับได้ไม่กี่วันหลังเกิดเหตุว่า เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ปฏิบัติการบุกโจมตีป้อม ชรบ.แน่นอน
ที่น่าสนใจคือ หลังเหตุการณ์ยิงปะทะและวิสามัญฆาตกรรมนายมะยะโก๊ะ เจ้าหน้าที่สามารถยึดของใช้ส่วนของนายมะยะโก๊ะได้หลายรายการ ทั้งกระเป๋าสะพายขนาดเล็ก โทรศัพท์มือถือ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน
สาเหตุที่มีของใช้ส่วนตัวหลายอย่าง เพราะเขาไปหลบนอนพักแรมที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมและวิสามัญฯ
นอกจากของใช้ส่วนตัวที่ใช้ในกิจวัตรประจำวันแล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบสมุดบันทึกของนายมะยะโก๊ะ ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการจดบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติการโจมตีป้อมชรบ. และผลการประชุมเตรียมการก่อนก่อเหตุ โดยเขียนเป็นภาษามลายูทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญแปลถอดความออกมา
ข้อมูลเท่าที่แปลออกมาได้ก็คือ กลุ่มของนายมะยะโก๊ะมีกองกำลัง 12 คน มีการระบุชื่อเอาไว้ด้วย ส่วนใหญ่เป็นชื่อย่อหรือชื่อเล่นที่ใช้เรียกขานกันในกลุ่ม โดยกองกำลังกลุ่มนี้รับผิดชอบพื้นที่ครอบคลุม 4 ตำบล ในอำเภอโคกโพธิ์ กับอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ส่วนบ้านเกิดของนายมะยะโก๊ะ อยู่ที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
แผนการทำงานที่นายมะยะโก๊ะบันทึกเอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นแผนงานในภาพรวมของการสร้างสถานการณ์ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นเหตุการณ์ไหน จึงคาดว่าเจ้าตัวน่าจะจดบันทึกมาจากการประชุมลับของแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เนื้อหาที่สำคัญก็เช่น ขั้นตอนการปฏิบัติก่อนจะก่อเหตุรุนแรง ซึ่งจะมี่ตั้งแต่การเตรียมความพร้อม การเลือกเป้าหมาย การวางแผน กำหนดแผน กำหนดตัวบุคลากร อุปกรณ์หรืออาวุธที่ใช้ และการปฏิบัติตามแผน รวมไปถึงการควบคุมพื้นที่หลังก่อเหตุ
เป้าหมายในการก่อเหตุ เน้นหมู่บ้านชาวไทยพุทธ ฆ่าผู้นำ โจมตีพื้นที่เศรษฐกิจ หม้อแปลงไฟฟ้า โจมตีชุดจรยุทธ์ จับกุมครอบครัวฝ่ายตรงข้ามเพื่อต่อรอง ลอบก่อเหตุกับขบวนรถไฟ ตัดต้นไม้ขวางถนน
นอกจากนั้นยังมีข้อมูลการแบ่งงานให้กับทีมปฏิบัติการทั้ง 12 คนด้วย ว่าเวลาก่อเหตุแต่ละครั้ง แต่ละคนต้องทำอะไร แบ่งเป็นชุดๆ หรือคณะทำงานอย่างเป็นระบบ
เจ้าหน้าที่ยังพบข้อเขียนบางตอนเป็นคำสรรเสริญและปฏฺิญาณต่อพระเจ้า ลงท้ายว่า "ข้าขอสัญญาว่าข้าจะทวงคืนแผ่นดินมลายู" สะท้อนถึงความหนักแน่นจริงจังในความเชื่อ
ขณะเดียวกันก็มีข้อความที่เหมือนกับการเน้นย้ำสมาชิกทุกคนในทีมว่า ทุกคนต้องรักษาพื้นที่ของตัวเอง ต้องมีการโลจิสติกส์ ทุกคนต้องชำนาญด้านอาวุธต่างๆ ผู้ที่ไม่ดูแลรักษาอาวุธจะต้องถูกลงโทษ ต้องสร้างความชำนาญพื้นที่ เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติการและพร้อมก่อเหตุ
ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็นญาติกับนายมะยะโก๊ะ ยอมรับว่า นายมะยะโก๊ะอยู่ในขบวนการจริง ตอนนี้ลูกชายของเขาอายุ 15 ปี ประกาศชัดว่าจะเดินตามรอยพ่อ ครอบครัวของมะยะโก๊ะมีความคิดต่อต้านรัฐอย่างสุดโต่ง อย่างข้าวสารที่เจ้าหน้าที่นำไปแจก เขาจะไม่ยอมกิน แต่จะนำไปให้เป็ดกิน ขณะที่แก้วน้ำที่เจ้าหน้าที่นำไปแจกตอนไปไปเยี่ยมบ้าน เขาจะทิ้งทันทีที่เจ้าหน้าที่เดินทางกลับ
"คนที่รู้จักเขาหรือเป็นญาติกับเขา จะรู้ดีว่าเขาประกาศเอาไว้นานแล้วว่าจะขอสู้จนตัวตาย เขาเลือกแล้ว ญาติพี่น้องพยายามคุย พยายามขอร้องอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง ตอนนี้ทุกคนเป็นห่วงลูกชายของเขา กลัวว่าสุดท้ายจะเป็นแบบพ่อ" ญาติของนายมะยะโก๊ะ บอก
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลข้อเท็จจริงอีกด้านที่ไม่ค่อยปรากฏเป็นข่าวมากนัก แต่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มนักรบที่มีแนวคิดต่อต้านรัฐในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้ความเชื่อความศรัทธาเป็นพลังในการต่อสู้ มีทีมงานและมีการวางแผนอย่างรัดกุมในการก่อเหตุทุกขั้นตอน
ต้องรอดูว่าเมื่อรัฐถอดรหัสข้อมูลได้แบบนี้แล้ว จะสามารถขยายผลหรือนำมาเป็นจุดพลิกสถานการณ์ในการสร้างความเข้าใจและสร้างสันติสุขร่วมกันได้อย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
คนร้ายบุกโจมตีจุดตรวจ ชรบ.ในยะลา ดับ 14 ศพ-ชิงปืน!
เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุโจมตี ชรบ.ในยะลา
เมื่อกองกำลังประชาชนตกเป็นเป้า! ประเมิน 4 ปัจจัยไฟใต้ปะทุอีกระลอก
นายกฯประณามเหตุโจมตีป้อม ชรบ. ยอดตายพุ่ง 15 - หญิง 4 ศพ
แม่ทัพ 4 สั่งปรับแผนห้ามเฝ้าป้อม-นอนฐาน - ปากคำชาวบ้านคนร้ายมีสาหัส
ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ พบคนร้ายใช้เอ็ม 79 ถล่มป้อม ชรบ.
"ปณิธาน" เตือนภัย "ผู้นำรุ่นใหม่" แสดงศักยภาพโหมไฟใต้ส่งท้ายปี
เสียงจากลำพะยา...โจมตีป้อม ชรบ.ตาย 15 เกิดขึ้นได้ไง
สรุปโจมตีป้อม ชรบ.ลำพะยา "ทีมปัตตานี-ยะลา" จับมือ "หน้าขาว-ฝึกใหม่"
ตะกอนไฟใต้...เงื่อนไขที่ยังไม่ถูกแก้
ตำรวจขอหมายจับชุดแรก 2 ผู้ต้องหาร่วมโจมตีป้อมชรบ.ลำพะยา
9 ศพลำพะยา ต่างครอบครัวต่างที่มา ณ เชิงตะกอนเดียวกัน
พระราชทานเพลิงศพผู้จากไป สูญเสียครั้งใหญ่ที่ลำพะยา
โจมตีแล้วหนีไปไหน...โจทย์ใหญ่ไฟใต้ที่ไม่จินตนาการ
จับเพิ่ม-สารภาพ-ซัดทอด เชื่อมโยงทีมโจมตีป้อมชรบ.
ผบ.ทบ.-ผบ.ตร.ลงใต้ ปลุกใจ 6 เดือนปราบผู้ก่อเหตุร้ายสิ้นซาก!
วิสามัญฯ 2 ศพที่หนองจิก สงสัยโยงโจมตีป้อมลำพะยา
"ซอบรี หลำโสะ" สิ้นชื่อ! จากเหตุปะทะหนองจิก
เปิดข้อมูลคดี "ซอบรี หลำโสะ" - ชาวบ้านยอมรับ "เขาอยู่ในขบวนการ แต่..."
เยือนหมู่บ้านตระกูลหลำโสะ ชาวบ้านถึงกับโอ๊ะ! "เก่งเหนือมนุษย์"
รื้อป้อม ชรบ.ลำพะยา ชาวบ้านฝากถึงคนร้ายหยุดฆ่าคนบริสุทธิ์
บุกทลาย "ซัพพอร์ต ไซต์" จุดซ่อนตัวแก๊งยิง 15 ศพป้อมชรบ.
1 เดือน 15 ศพลำพะยา...4 หมายจับ - วิฯ 2 - ทลายแหล่งกบดาน