มีความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดตามสถานที่ราชการและย่านเศรษฐกิจในเขตกรุงเทพฯร่วม 10 จุด โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมจากอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านเดียวกับผู้ต้องสงสัย 2 รายแรกที่ถูกจับ
มีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.62 กองกำลัง 3 ฝ่าย (ตำรวจ ทหาร ปกครอง) ได้เข้าเชิญตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่ม 1 รายในคดีลอบวางระเบิดป่วนกรุง เมื่อวันที่ 1-2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยการควบคุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มในครั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นข้อมูลจากการซัดทอดของผู้ต้องสงสัย 2 รายที่ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดชุมพร เพราะเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 มีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ขณะนี้อยู่ในกระบวนการซักถามของเจ้าหน้าที่
สำหรับผู้ต้องสงสัย 2 รายแรกที่ถูกจับกุมจากรถทัวร์ บริเวณสี่แยกปฐมพร จังหวัดชุมพร คือ นายลูไอ แซแง อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านกาโดะ หมู่ 4 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ และ นายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ตำบลสาวอ อำเภอรือเสาะ สรุปว่าทั้ง 3 คนมีชาวอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาสทั้งหมด แต่อยู่คนละตำบลกัน
มีรายงานด้วยว่า ผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 ที่เพิ่งถูกจับ มีศักดิ์เป็นน้าชายของนายลูไอ และเคยทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร
สถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนแรก ได้รับการเปิดเผยล่าสุดว่าอยู่ที่โรงเรียนตำรวจภูธร 9 อำเภอเมือง จังหวัดยะลา แต่ปรากฏว่าครอบครัวไม่ทราบ เข้าใจว่าถูกคุมขังอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงพากันนั่งรถไฟเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปเยี่ยมทั้ง 2 คน ทำให้คลาดกัน และยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่เลยตั้งแต่วันที่ลูกถูกจับ
คนในครอบครัวที่เดินทางไปตามหาลูกชาย ไปพร้อมกันทั้ง 2 ครอบครัว คือ นางรอฮานิง มาหะมะ แม่ของ นายลูไอ แซแง กับครอบครัวของ นายวิลดัน มาหะ ผู้ต้องสงสัยอีกคนหนึ่ง
แม่ของนายลูไอ เปิดใจว่า ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามา ส่วนตัวอยากทราบสภาพความเป็นอยู่และความปลอดภัยของลูกชาย แค่ได้ยินเสียงก็ยังดี ขณะนี้ที่บ้านและเด็กนักเรียนที่ลูกชายสอนอยู่ก็รอการกลับไปของลูไอ เขาจะทำผิดหรือไม่ผิดอย่างไร ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าทำอะไรลูกชายเลย จนถึงขณะนี้ผ่านมา 3 วันแล้วยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ
แม่ของนายลูไอ ยืนยันด้วยว่า ลูกชายเป็นคนนิสัยดีมาก อยากให้นักข่าวลงไปในพื้นที่เพื่อเพื่อสอบถามคนที่บ้านดูได้ ลูกชายกำลังจะรับปริญญา และเรียนต่อปริญญาโทด้วย
"การเดินทางเข้ากรุงเทพฯของลูกชายนั้น เขาบอกกับแม่ว่าขอมาเที่ยวกรุงเทพฯหลังทำวิจัยเสร็จ แม่เห็นลูกเหนื่อยๆ ก็อนุญาตให้มาเที่ยว ซึ่งปกติลูกชายเคยมาเที่ยวกรุงเทพฯแค่ 2-3 ครั้ง และมากับครอบครัว ครั้งนี้ลูกชายไม่ได้บอกว่ามากี่วัน" นางรอฮานิง กล่าว แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่าลูกชายเดินทางเข้ากรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อไหร่
แม่ของนายลูไอ ยังบอกด้วยว่า ลูกชายไม่ได้เป็นคนลงมือก่อเหตุแน่นอน เพราะได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ชัดเจนว่าไม่เหมือนลูกชาย ที่สำคัญปกติลูกชายจะเป็นคนเฉื่อยๆ ช้าๆ มาก ส่วนการคบเพื่อนของลูกชาย ก็ไม่ได้มีกลุ่มเพื่อนที่จะพาไปก่อเหตุรุนแรงได้ และปกติจะอยู่กับแม่ตลอด
มีรายงานด้วยว่าแม่ของนายลูไอ และครอบครัวของนายวิลดัน ทราบแล้วว่าทั้งสองคนถูกคุมตัวอยู่ที่จังหวัดยะลา จึงเตรียมเดินทางกลับโดยเร็วที่สุด
อีกด้านหนึ่ง "ทีมข่าวอิศรา" ได้เดินทางไปที่บ้านของครอบครัวนายลูไอในอำเภอรือเสาะ และได้พบกับอาของของเขา นายมาหะมะ ซอเล็ง โดยนายมาหะมะ บอกว่า นายลูไอไปมีพฤติกรรมอย่างไร ทางบ้านไม่มีใครรับรู้ เพราะที่ผ่านมาหลังจากที่นายลูไอเรียนจบปอเนาะในพื้นที่แล้ว ก็อาสาเป็นครูสอนศาสนาให้กับเด็กๆ ในมัสยิดในพื้นที่มาตลอด 3 ปี โดยจะสอนเฉพาะวันเสาร์กับวันอาทิตย์ ส่วนวันอื่นๆ ก็จะตามพ่อไปกรีดยางหาเลี้ยงชีพ
"ก่อนถูกจับ ลูไอบอกเพียงว่าอยากไปเที่ยวพักผ่อนที่กรุงเทพฯกับเพื่อน เนื่องจากที่ผ่านมาทำแต่งาน และช่วยสอนหนังสือเด็กๆไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน จึงไม่ได้ห้ามอะไร เพราะลูไอเองกำลังเก็บเงินสร้างบ้าน แต่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ทำมาหากินอย่างขยันขันแข็ง"
อาของนายลูไอ บอกว่า ขณะนี้พ่อกับแม่ของนายลูไอเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปสอบถามลูกชายว่าความจริงคืออะไร ทำจริงหรือไม่ ซึ่งหากทำผิดจริง ก็ขอให้รับในสิ่งที่กระทำไป
---------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ครอบครัวของนายลูไอ คนซ้าย คือ แม่ คนขวา คือ อา
2 บ้านของครอบครัวลูไอ
ขอบคุณ : เนื้อข่าวเฉพาะส่วนสัมภาษณ์แม่ลูไอ และภาพแม่ลูไอ โดย อโนทัย สกุลทอง เนชั่นทีวี