
ควันหลงหลังปล้นร้านทอง! บึ้มสนั่นแยกอรกานต์ ห่างจากห้างบิ๊กซีโก-ลก จุดชิงทองรูปพรรณแค่ 500 เมตร โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ ขณะที่ ผบ.ร้อยทหารพรานสุไหงปาดี รับแจ้งมีชาวบ้านถูกกลุ่มคนร้ายจี้ชิงรถจากบ้านไป 2 คัน คาดใช้เป็นพาหนะปล้นทองสะท้านเมืองชายแดน
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นร้านทอง “เยาวราชกรุงเทพ” ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทั้งยังได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ก่อนจะกวาดทองรูปพรรณแล้วหลบหนี โดยใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะ อีกทั้งระหว่างทางได้โปรยตะปูเรือใบ และวางถังแก๊สขนาดใหญ่ เป็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดไว้กลางถนน เพื่อสกัดการไล่ล่าติดตามของเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นถึงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 5 ต.ค.68 นั้น
ต่อมาเวลา 19.30 น. วันเดียวกัน ได้เกิดระเบิดขึ้น 1 ครั้ง บริเวณถนนมัสยิด อรกานต์ ซึ่งอยู่ห่างจากห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก ประมาณ 500 เมตร เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) ได้ปิดกั้นพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐาน
อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า ร้อยโท พงศธร วงมาเกษ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4801 (ผบ.ร้อย.ทพ.4801) ได้รับแจ้งจาก นายมะไซดี ดือเร๊ะ ผู้ใหญ่บ้านลูโบ๊ะบาตู หมู่ 4 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ว่า มีคนร้ายจี้ชิงรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม๊กซ์ ของนายมะอูเซ็ง เจ๊ะมะ จากบ้านใน ต.ปะลุรู ไป 1 คัน
นอกจากนั้นยังชิงรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ของ นายการี เตง ซึ่งอยู่ใกล้กันไปด้วยอีก 1 คัน รวมเป็น 2 คัน คาดว่าเป็นรถยนต์ที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุปล้นร้านทอง “เยาวราชกรุงเทพ” ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้าย ซึ่งเป็นแผนประทุษกรรมปล้นร้านทอง โดยเมื่อกลุ่มคนร้ายเดินทางถึงห้างบิ๊กซี ได้กระจายกันเดินเข้าไปภายในห้าง ทางประตูที่ 1 ด้านซ้ายมือ ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของห้าง
จากนั้นคนร้าย 1 คนได้เดินเลี่ยงไปทางร้านจำหน่ายเสื้อผ้า แล้วกระโดดขึ้นไปบนเคาน์เตอร์ตู้โชว์ของร้านทอง ต่อหน้าพนักงานร้านทองที่กำลังเช็คถูเก้าอี้ให้ลูกค้านั่ง เพื่อแสดงตัวเข้าทำการปล้น พร้อมทั้งกวาดเอาทองรูปพรรณจากในตู้โชว์ออกมาจนหมด จากนั้นได้กระโดดข้ามเคาน์เตอร์วิ่งหนีออกไปหากลุ่มคนร้ายที่รออยู่ และขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีออกไปอย่างง่ายดาย ใช้เวลารวมทั้งหมดเพียงไม่กี่นาที
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า(กอรมน.ภาค 4 สน.) เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการกระทำในลักษณะการวางแผนมาล่วงหน้า ทั้งการโจรกรรมรถยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุ ได้แก่ รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียนนราธิวาส และรถยนต์กระบะ สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน ปัตตานี จากประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี เพื่อนำมาก่อเหตุ รวมทั้งการตรวจพบวัตถุต้องสงสัยเพิ่มเติมในเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย
